สนุกบนความพอดี: 1 เมษายน “April Fool’s Day” หรือ “วันโกหก”

ภาพจาก spongebob.wikia.com

 ไม่มีใครชอบคนโกหก แต่คงต้องข่มใจยกให้วันที่ 1 เมษายน สักวัน

เพราะวันนี้คือวัน April Fool’s Day หรือ “วันโกหก” ที่คนไทยเราจำนวนไม่น้อยนิยมเล่นโกหก หยอก อำกันในวันนี้ตามธรรมเนียมชาวต่างชาติ ซึ่งเขาถือกันว่า เป็นวันที่ทุกคนสามารถแกล้งกันอย่างสนุกสนานด้วยการโกหก โดยไม่ถือโทษโกรธกัน

ดังนั้น จึงอาจมีการปล่อยข่าวลือต่างๆ นานา ก่อนจะมาเฉลยทีหลังว่า ไม่ใช่เรื่องจริง เช่น การปล่อยข่าวลือว่าดาราดังเสียชีวิต เป็นต้น หรือในทางการตลาด หลายแบรนด์ดังก็นิยมทำข่าว หรือทำโฆษณาเป็นแคมเปญออกมาในวันนี้เพื่อเรียกเรตติ้ง ซึ่งหลายแบรนด์ก็ทำออกมาได้อย่างสนุกสนาน และได้รับการตอบรับจากลูกค้ากลับไปไม่น้อย

ภาพจาก brandbuffet

อย่างเมื่อปีที่แล้ว IKEA ก็อำด้วยการเปิดตัวสายการบินต้นทุนต่ำ FLIKEA หรือ KitKat ไทย ก็เปิดตัวรสชาติใหม่แบบไทยๆ ทั้งรสไส้อั่ว รสสะตอผัดกุ้ง รสปลาทูย่าง และรสตำซั่ว เป็นต้น

ภาพจาก FB: KitKat

สำหรับประวัติความเป็นมาของวัน April Fool’s Day หรือ วันโกหก มีตำนานเล่ากันมาว่า สมัยก่อนพวกฝรั่งเขาก็มีวันขึ้นปีใหม่ใกล้ๆ บ้านเรานี่แหละ คือเดือนเมษายน แต่แล้วทางการมีการเปลี่ยนวันปีใหม่เป็นวันที่ 1 มกราคม บังเอิญยังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ ก็ยังคงส่ง ส.ค.ส. ให้กันในวันที่ 1 เมษายน พวกเขาก็เลยเรียกพวกนี้ว่าพวก “เมษาหน้าโง่” แล้วก็มีการแกล้งกันโดยไม่บอกความจริงเพื่อความสนุกสนาน จนกลายเป็นเทศกาลที่รู้จักและเล่นกันในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส สกอตแลนด์ อิตาลี สเปน โปรตุเกส สวีเดน เยอรมนี นอร์เวย์ ญี่ปุ่น ฯลฯ โดยแต่ละประเทศอาจมีวันโกหกไม่ตรงกับวันที่ 1 เมษายน เสมอไป

อย่างไรก็ตาม มีหลายทฤษฎีเกี่ยวกับความเป็นมาของวันโกหก April Fool’s Day บ้างก็ระบุว่า เริ่มจากพวกโรมันโบราณ มีเทศกาลที่เรียกว่า “Cerealia” จัดในช่วงต้นเดือนเมษายน เรื่องเล่านี้มีว่า เทพเจ้าชื่อ Ceres ทรงได้ยินเสียงสะท้อนของพระธิดา Proserpina ตะโกนมาว่า เธอถูกจับตัวไปอยู่ใต้ผืนดินโดยเทพพลูโต Ceres จึงตามเสียงลูกสาวไป และได้พบความจริงที่ว่า การตามเสียงสะท้อนเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดเลย เหมือนว่าพระองค์ทรงถูกหลอกนั่นเอง

นอกจากนี้ ยังมีอีกทฤษฎีที่เชื่อว่า วันโกหก April Fool’s Day เกิดจากช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่เล่าสืบต่อกันมาว่า ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หนุ่มสาวจะออกตามหาความรัก และเป็นช่วงที่พืชเจริญเติบโต ในขณะที่สัตว์ต่างๆ ก็หาคู่ด้วย กลุ่มนักบวชจึงพยายามหลอกล่อวิญญาณของความชั่วร้ายอย่างสุดความสามารถ เพื่อไม่ให้มาขัดขวางความรักของทั้งหนุ่มสาว พืช และสัตว์ ดังนั้น จึงเป็นเดือนที่นักบวชจะต้องสวดเพื่อหลอกเหล่าวิญญาณร้ายนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม จะแกล้ง จะโกหกกัน ก็ทำแค่พอหอมปากหอมคอ บนพื้นฐานความพอดี เรื่องที่เล่นจะได้สนุกสนาน ไม่ใช่แกล้งกันจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โตบานปลาย เดี๋ยวจะกลายเป็นขำไม่ออกกันเสียฉิบ

ขอบคุณข้อมูลจาก: Wikipedia, brandbuffet, คลังปัญญาไทย / ภาพปกจาก: in.com