SHARE

คัดลอกแล้ว

‘สมคิด’ แนะจับมือร่วมพัฒนา ศก. เชื่อปี 66 อ่วมแน่ ชี้ ต้องจริงใจ-พูดเรื่องจริง แก้ปัญหา ปัดจับมือ ‘ไทยสร้างไทย’ ด้าน ‘นิพิฏฐ์’ ลั่นสร้างอนาคตไทยจะมาแทนที่ประชาธิปัตย์​ในภาพใต้ พร้อมประกาศผู้เสนอตัวลงสมัคร ส.ส. สามเขตพัทลุง 

 ที่ จ.พัทลุง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่จ.พัทลุง ว่า ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.และพบปะพูดคุยกับประชาชน ถึงแนวทางพัฒนาภาคใต้ เพราะคิดว่าการเมืองต้องทำอย่างสร้างสรรค์ ต้องบอกว่าเมื่อนักการเมืองเข้ามาแล้วจะพัฒนาอย่างไร 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรหากมีการฟอร์มทีมรัฐบาลแล้วเป็นชุดเดิม ภาพรวมของเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร นายสมคิด กล่าวว่า ต้องพูดเป็นสองตอน ตอนแรกเศรษฐกิจปี2566 ไม่ดีแน่นอน และไม่ใช่การคาดคะเนเพราะดูตามนโยบายที่สหรัฐอเมริกา ทำอยู่ตอนนี้เขามองที่ประเทศเขาเป็นสำคัญ มีการขึ้นดอกเบี้ย ที่เขาอาจจะรอดแต่ประเทศอื่นทั่วโลกได้รับผลกระทบ ส่วนจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าจะเตรียมตัวพร้อมอย่างไร ซึ่งทุกรัฐบาลต้องเตรียมเอาไว้ ประมาทไม่ได้ ขอให้เตรียมตัวแต่เนิ่นๆ เพราะถ้าถึงเวลาแล้วไม่เตรียมจะคิดอะไรไม่ออก เวลานี้ไม่ควรจะมีความขัดแย้งทุกฝ่ายต้องเข้าหากัน และหาวิธีการ

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องตั้งวอร์มรูมเพื่อรองรับเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ที่จริงรัฐบาลมี ครม.เศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรี สามารถเรียกประชุมได้ทุกเมื่อ โดยให้เอาคนที่รู้เรื่อง จริงจังจริงใจเข้ามาดูและประเมินว่าสถานะเป็นอย่างไร ขอย้ำว่าความจริงใจและข้อเท็จจริงเป็นเรื่องสำคัญไม่ใช่เวลาที่จะคิดแต่เรื่องเลือกตั้ง เพราะกว่าจะเลือกตั้งกลางปีหน้า เวลานี้ให้ผ่านไปถึงกลางปีให้ได้ก่อนอย่าให้ประชาชนต้องลำบาก 

ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.)กับพรรคไทยสร้างไทย ของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ว่า ใครจะรวมกับใครเป็นเรื่องของเขา แต่ตอนนี้พรรคสร้างอนาคตไทย ยังไม่ได้คิดรวมกับใคร และถ้าจะรวมกับใครในอนาคต ต้องดูว่าความคิดเหมือนกันหรือไม่ และอุดมการณ์ตรงกันหรือไม่ เรื่องนโยบายไปด้วยกันได้หรือไม่ ถ้ารวมกันแล้วนโยบายเหมือนกัน รวมกันแล้วดีกว่าไม่ดี ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งแต่เป็นเรื่องของอนาคต

ผู้สื่อข่าวถามว่า “2 ส.” คือ นายสมคิด และคุณหญิงสุดารัตน์สามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า “ส.” สมคิด เป็นแค่ประธานพรรค ต้องถาม นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสอท. กับ คุณหญิงสุดารัตน์ ซึ่งก็พูดจาภาษาเดียวกัน แต่จะรวมกันหรือไม่ตนไม่แน่ใจต้อง แล้วแต่พรรค แต่ไม่ว่าอย่างไรต้องยึดนโยบายพรรคที่มีอยู่แล้ว ถ้าเคลียร์กันได้ก็ไปพูดคุยกัน เรื่องอื่นไม่เกี่ยว เมื่อถามย้ำว่าที่ระบุว่าพูดจาภาษาเดียวกัน แสดงว่าก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกันบ้างแล้ว นายสมคิด กล่าวว่า “ไม่ ผมยังไม่ได้คุย การพูดจาภาษาเดียวกัน คือ ดูนโยบายของพรรคสอท.ว่าจะเตรียมการเพื่ออนาคตอย่างไร จะแก้ไขปัญหาระยะสั้นอย่างไร ถ้าคิดเหมือนกัน มีแนวคิดทำงานคล้ายกันก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าไม่เหมือนกันเลย แล้วมารวมกันเพื่อให้มีส.ส.มากขึ้น ก็ไม่รู้จะรวมไปเพื่ออะไร”

เมื่อถามว่า ถ้าหากมาร่วมมือทำงานจะทำให้พรรคสอท.และพรรคแนวร่วมแข็งแกร่งมากขึ้นหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า อย่าไปคิดว่ารวมแล้วจะมีส.ส.มากขึ้นเพื่อแบ่งรัฐมนตรี ถ้านักการเมืองคิดอย่างนั้นอย่าทำการเมืองดีกว่า เพราะจะทำให้บ้านเมืองจะล้มอยู่แล้ว การจะเอาเงินไปซื้อม้าเข้าคอก คอกไหนมีมากกว่าก็ได้เป็นรัฐมนตรีมากกว่าก็เห็นกันมาแล้วว่าเป็นกันอย่างไร ดังนั้น การเมืองที่ดีคือแต่ละพรรคนำเสนอนโยบายให้ประชาชน เมื่อแข่งกันเรื่องนโยบายประชาชน ก็เข้าใจ จะแพ้หรือชนะให้ไปอยู่ที่ตรงนั้นดีกว่า ถ้ามาบอกว่าพรรคนี้รวมกับพรรคนี้แล้วจะได้จาก 20 จะเป็น 40 มีแรงต่อรองมากขึ้น ไม่ใช่พรรคสร้างอนาคตไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการประเมินกันว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีการแบ่งเป็นขั้ว พรรคสร้างอนาคตไทยจะอยู่ขั้วไหน และพรรคไหนที่เป็นคู่แข่งหรือเป็นพรรคพันธมิตร นายสมคิด กล่าวว่า สาเหตุที่ตนมาช่วยพรรคสอท.เพราะการแบ่งขั้วคือตัวทำลายประเทศไทย แบ่งขั้วมาสิบกว่าปีที่ผ่านมา ถามว่าได้เห็นอะไรดีขึ้นมาบ้าง มีแต่คนแบ่งขั้วที่ได้ประโยชน์และมีตัวตน แต่ประชาชนเป็นอย่างไร ดังนั้นถ้าต้องการไปสู่อีกยุคสมัยหนึ่งที่ทำให้บ้านเมืองดีขึ้นควรต้องก้าวข้ามเรื่องเหล่านี้ อย่าเห็นว่าขั้วใดขั้วหนึ่งเป็นศัตรู หรือว่าจะทำการเมืองให้บ้านเมืองเจริญได้อย่างไร ถ้ามัวแต่ไปปั่นให้ประชาชนมีแต่ความโกรธแค้นไม่ลืมอดีตไม่ใช่การเมืองที่สร้างสรรค์ แต่เป็นการเมืองที่ทำลายประเทศไทย ให้ดูประเทศเวียดนาม เวลานี้ที่เศรษฐกิจไตรมาส 3 โต 13 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่เห็นแบ่งขั้ว ถ้ามัวแต่แบ่งขั้วก็เหลือแค่เปอร์เซ็นต์กว่า ในขณะที่เศรษฐกิจเวียดนาม แค่ 2 ใน 3 ของเรา แต่ภายในไม่ถึง 5 ปี เขาเท่าเราและแทบจะแซงเราแล้ว และอุตสาหกรรมที่ดีไปที่เวียดนามหมด จึงถึงเวลาที่ต้องเลิกสิ่งที่คิดว่าฝ่ายโน้นถูกฝ่ายนี้ผิด คนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลต้องไม่ใช่ตัวที่สร้างความขัดแย้งเสียเอง แต่ต้องสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้น ถ้าตัวเองเป็นต้นเหตุความขัดแย้งไม่มีประโยชน์ เชื่อว่าทุกคนรู้และเข้าใจ

“ผมคิดว่าอนาคตข้างหน้าเป็นยุคของการสร้างความปรองดองและต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่อย่างนั้นจะสายเกินไปสำหรับทุกคน”นายสมคิด กล่าว

เมื่อถามว่า วิเคราะห์อย่างไรหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยังอยู่ต่อ นายสมคิด กล่าวว่า การจะอยู่ต่อหรือไม่ ไม่ใช่ตนบอก อยู่ที่ประชาชนต้องคิดและตัดสินใจ และอยู่ที่ตัวนายกฯ เองด้วย เชื่อว่านายกฯ รู้ทุกอย่าง ก็ต้องใช้เวลาคิดไตร่ตรองว่าสถานการณ์ข้างหน้าเป็นอย่างไร ท่านเหมาะสมเพียงไร ถ้าคิดว่าเหมาะสมกับสถานการณ์ข้างหน้าก็ต้องสู้ต่อ ไม่มีใครว่า แต่แพ้ชนะเป็นเรื่องของอนาคต

เมื่อถามว่า ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลพรรคสร้างอนาคตไทยก็พร้อมจะร่วมงานด้วยหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่เชิงอย่างนั้น ถ้านโยบายไม่ดีและยังมีการแบ่งขั้วแบ่งข้าง พรรคสร้างอนาคตไทยจะไปอยู่ขั้วอย่างนั้นทำไม ไร้สาระ เมื่อถามย้ำว่าพรรคสร้างอนาคตไทย ตั้งเป้าจะได้ส.ส.กี่ที่นั่ง หลังจากลงพื้นที่มาแล้ว 3 ครั้ง นายสมคิด กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น และทุกครั้งที่ตนมาพูดคิดว่าประชาชนต้องได้ประโยชน์ ชาวบ้านต้องรู้ว่าอะไรเป็นอะไร สิ่งที่ตนพูดต้องการให้นักการเมืองท้องถิ่นได้ฟัง รัฐบาลฟัง อะไรที่เป็นประโยชน์ก็เอาไปใช้ อะไรที่คิดว่าไม่ได้ประโยชน์ก็ไม่ต้องใช้ เมื่อถามว่าประเมินว่าจะได้ถึง 25 ที่นั่งหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า จะไปรู้ได้อย่างไร เมื่อถามว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์จะทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าจะแลนด์สไลด์หรือไม่ ทำใจให้ไม่มีขั้วและดูตัวนโยบายของแต่ละพรรคว่าทำอย่างไร ปัญหาก็จะไม่มี ต้องอย่ามองว่ามีขั้ว ไม่ใช่ประเภทไม่เลือกเขาเรามาแน่ หรือไม่เลือกเราเขามาแน่ ควรเลิกได้แล้ว ให้ทิ้งขยะไปได้เลย เพราะสิ่งนี้แหละประเทศชาติจะลงท้องร่อง

‘นิพิฏฐ์’ ลั่น สร้างอนาคตไทย จะแทนที่ ปชป.ในภาคใต้

ส่วนที่โรงแรมศิวา รอยัล จังหวัดพัทลุง พรรคสร้างอนาคตไทย เปิดเวทีปราศรัย โดยนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคและประธานภาคใต้ กล่าวตอนหนึ่งว่า ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ มาอยู่พรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งที่นี่ตนได้ถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ เปลี่ยนเจ้านายใหม่แล้ว ซึ่งบอกกับพี่น้องทุกครั้งว่าตนเป็นนักรบที่ไม่แตกทัพ สะบัดธงไปทางไหน จะไปทางนั้น พรรคสร้างอนาคตไทยตั้งขึ้นมาภายใต้คำมั่นสัญญา 3 ข้อ คือ 1. ไม่ละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ 2.เราไม่สุดขั้วทางการเมือง ถ้าคิดว่าจะสร้างมรดกความขัดแย้งให้ลูกหลานก็มอบตั้งแต่วันนี้ แต่ถ้าคิดว่าจะไม่สร้างมรดกผมขอเรียนเชิญมาร่วมกับพรรคสร้างอนาคตไทย 3.พรรคนี้จะแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนเป็นหลัก

นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อว่า เมื่อก่อนนักการเมืองจะหิ้วกระเป๋าใบเดียวไปกลับกรุงเทพได้ แต่วันนี้การเมืองภาคใต้เปลี่ยนแปลงไปมาก ต้องเปลี่ยนมาหิ้วกระเป๋าสองใบไปมาแทน เป็นการเมืองที่มีบ้านใหญ่ ภาคกลางมีบ้านใหญ่ ซึ่งตนไม่เคยสนับสนุนบ้านใหญ่ให้ครองอำนาจในภาคใต้ แต่วันนี้มีบ้านใหญ่ตั้งแต่ชุมพรไปจนถึงนราธิวาส 

“ผมจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นในพัทลุง วันนี้เราต้องปลดปล่อยบ้านใหญ่ในภาคใต้และพัทลุงให้ได้ ด้วยมือเราเอง ถ้าปลดปล่อยไม่ได้ อาชีพเดียวที่เราจะมีคือหัวคะแนน เป็นหัวคะแนนให้บ้านใหญ่ เราต้องลุกมาต่อสู้เป็นนักการเมืองเสียเอง  เราไม่ผูกขาดทางการเมืองคนเหล่านี้คือความหวังของเรา เราต่อสู้เพื่อการเมืองมามาก คนปักษ์ใต้ไม่รบนายไม่หายจน เราเป็นคนจริง เราไม่เคยทิ้งชาติศาสนาพระมหากษัตริย์แต่คนพัทลุงจนอยู่ลำดับต้นๆ ของภาคใต้ จึงบอกอ.สมคิดว่าต้องทำภาคใต้ให้หายจน จึงมาอยู่ที่นี่” นายนิพิฎฐ์ กล่าว

นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อว่า ถึงเวลาสลัดความขัดแย้งมาช่วยแก้ปัญหาปากท้อง ถ้าเลือกคนเดียวอย่าเลือก ไม่มีพลัง ถ้าจะเลือกเพื่อเศรษฐกิจปากท้องคนใต้ ต้องเปลี่ยนทั้งภาค  ตนอยากให้คนใต้ลองเลือกพรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่ง 4 ปีจะเป็นข้อพิสูจน์ แต่หากทำไม่ได้ก็ค่อยเปลี่ยนใหม่ ตนมองว่าเคมีของพรรคสร้างอนาคตไทยกับประชาธิปัตย์ใกล้เคียงกัน ไม่สอดคล้องกับเพื่อไทย วันนี้ถ้าคิดว่าประชาธิปัตย์มีความหวังให้ลูกหลาน ก็เลือกไป แต่ถ้าฝากความหวังไว้ที่ประชาธิปัตย์ไม่ได้ ก็ขอให้เลือกพรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งพรรคสร้างอนาคตไทยนี่แหละจะมาแทนที่พรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ 

“ถึงเวลาที่เราต้องทบทวนกวาดล้างความสกปรกในบางเรื่อง วันดีคืน อาจมีคนบ้ายาเสพติดมาเคาะประตูบ้านท่าน นี่คือมรดกอัปลักษณ์ของรัฐบาลนี้ที่ทิ้งไว้ให้พรรคสร้างอนาคตไทยต้องมาแก้ไข มีที่ไหนผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขไปยืนแจกต้นกัญชาให้ประชาชน เสร็จแล้วหมอและพยาบาลต้องกลับมารักษาคนติดยาเสพติดที่ผู้บริหารประเทศนี้สร้างไว้ วันนี้เราต้องล้างมรดกนี้พรรคสร้างอนาคตไทยขอประกาศนโยบาย 1 อำเภอ 1 ศูนย์บำบัดคนติดยาเสพติดให้โทษ เพื่อรักษาลูกหลานที่ติดยาเสพติดที่เป็นมรดกอัปลักษณ์ที่รัฐบาลทิ้งไว้”

นายนิพิฏฐ กล่าวว่า  และนี่คือ Last war สงครามครั้งสุดท้ายของตน ขอให้พี่น้องใจแข็งและเปลี่ยนอีกสักครั้งเพื่ออนาคตของพี่น้องพัทลุง เปลี่ยนมาร่วมกับพรรคสร้างอนาคตไทย เพื่อสร้างอนาคตคนใต้และคนพัทลุงไปด้วยกัน

ส่วนว่าที่ผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัครพรรคสร้างอนาคตไทยจังหวัดพัทลุง 3 เขต ประกอบด้วย นายเอกภนายเอกภัทร ภัทร์รัศมี เขต 1 นายพลกฤษณ์ คล้ายวิตภัทร เขต 2  นายวัฒนา เรืองแก้ว เขต 3

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า