ประเด็นคือ – นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.โพสต์เฟซบุ๊กกรณี เหน็บ สนช.ให้มีมหรสพในการการหาเสียง ทำประเทศไทยถอยหลัง 43 ปี ชี้ยากในการดูแลให้เที่ยงธรรม
วันที่ 28 ม.ค. 2561 จากกรณี สนช.ผ่านกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ให้มีมหรสพในการการหาเสียง นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. โพสต์ข้อความระบุว่า การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 4 เม.ย.2519 เป็นการเลือกตั้งครั้งสุดท้ายที่กฎหมายยอมให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองสามารถใช้มหรสพในการหาเสียงได้ จากนั้นมีการแก้ไขกฎหมายมิให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งใช้มหรสพในการหาเสียง และใช้บังคับตลอดมาตั้งแต่ปี 2522 กระทั่งวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา สนช. ได้พิจารณาผ่านร่างกฎหมายที่ได้ตัดข้อความบังคับดังกล่าวออกไป หากการเลือกตั้งครั้งต่อไปเกิดขึ้นในต้นปี 2562 นั่นหมายความว่า เรากำลังกลับไปใช้กฎหมายที่ย้อนยุคไปถึง 43 ปี
ตอนท้ายของข้อความ นายสมชัย ระบุว่า “ผมเชื่อว่า การตัดสินใจของ สนช.คงมีเหตุผล อยากให้การเลือกตั้งครื้นเครง คึกคัก ให้ประชาชนมาสนใจการปราศรัยหาเสียงของนักการเมืองและพรรคการเมือง แม้จะกำหนดกรอบวงเงินที่เท่ากัน แต่คงยากในการกำกับดูแลของ กกต.ชุดใหม่ ให้เกิดความสุจริตเที่ยงธรรม และเชื่อว่าคงเป็นการตัดสินใจเองของ สนช. มิได้มีใบสั่งจากใคร เพราะหากมีใครก็ตามที่สั่งเรื่องนี้ หรือ กุนซือคนใดที่แนะนำในเรื่องนี้ โดยคิดว่า พรรคที่เขาจะสนับสนุนจะได้เปรียบในการหาเสียง พอถึงเวลานั้นจริง จะรู้ว่าตัวเองโง่มากที่ไปยื่นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพให้กับพรรคการเมืองใหญ่ที่มีทั้งทุนและความสัมพันธ์กับธุรกิจบันเทิง และยังสามารถใช้เครื่องมือดังกล่าวอย่างถูกกฎหมายเพื่อผลการเลือกตั้งที่ตื่นตาตื่นใจได้”