สมพงษ์ เลือดทหาร บอกพีท เก็บประสบการณ์เป็นบทเรียนชีวิต ใช้สอนลูกหลาน

“สมพงษ์ เลือดทหาร” บอกพีท ประสบการณ์ความคึกคะนอง และนึกสนุกในอดีตที่เคยเกิดขึ้นกับชีวิต ให้นำมาเป็นบทเรียนในการสอนลูกหลานให้เป็นคนดี อย่าได้คิดกระทำในสิ่งที่ผิดซ้ำอีก ก่อนโชว์ลูกคอร้องเพลงขับกล่อมผู้สื่อข่าว ปัจจุบันมีความสุขกับครอบครัว หลังมรสุมชีวิตผ่านไป

วันที่ 9 ก.ย.61 เวลา 13.00 น. นายสมพงษ์ เลือดทหาร อายุ 57 ปี อดีตโชเฟอร์แท็กซี่ชาวขอนแก่น ผู้ที่เคยผิดพลาดในอดีต หลังกุเรื่องลวงสังคมว่าเก็บกระเป๋าทรัพย์สินมีค่าของชาวต่างชาติที่ถูกลืมไว้ได้ในรถแท็กซี่ ก่อนนำไปส่งมอบคืนให้ เมื่อกว่า 20 ปีก่อน ด้วยความนึกสนุกและคึกคะนองในขณะนั้น ได้กล่าวถึงประสบการณ์ในชีวิตของตนเองเพื่อเป็นแนวทางให้คนรุ่นหลัง ที่ก่อเหตุกุเรื่องทำนองเดียวกันกับตนเองซ้ำขึ้นอีก

โดยนายสมพงษ์กล่าวว่า ประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาในครั้งนั้น ตนได้นำมาใช้เป็นบทเรียน เป็นสิ่งเตือนใจในการสอนบุตรหลานว่า สิ่งใดดี ไม่ดีอย่างไร ส่วนความแตกต่างระหว่างปัจจุบันกับในอดีตนั้น สำหรับในยุคนี้เทคโนโลยีการสื่อสารนั้นรวดเร็วมาก เมื่อสมัยก่อนโลกโซเชียลยังไม่มีกระแสแรงเท่ากับในสมัยนี้

สำหรับเรื่องหวย 90 ล้านที่เกิดขึ้นนั้น ตนก็เพิ่งจะได้ทราบ เพราะได้ดูข่าวถึงได้รู้ ส่วนการที่จะบอกอะไรไปถึงนายพีท คนขายหวยหรือไม่นั้น คงจะไปบอกอะไรเขาไม่ได้ เพราะไม่เคยรู้จักกัน แต่ในฐานะผู้ที่เคยมีประสบการณ์ชีวิตมาก่อน จึงขอนำมาใช้เป็นบทเรียน และให้นึกถึงว่าเรามีครอบครัว มีลูก มีพ่อแม่ มีพี่น้อง สังคมก็ยังให้อภัย และให้คิดในทางที่ดีและตั้งใจทำมาหากิน

หลังประสบการณ์ชีวิตครั้งนั้นผ่านพ้นไปแล้ว ปัจจุบันผู้คนก็ยังต้อนรับเรา ไม่ได้ถูกปฏิเสธจากคนในสังคม และการออกไปการร้องเพลงในร้านอาหารยังได้พบปะเจอกับผู้คนมากกว่าขับแท็กซี่อยู่ในกรุงเทพฯ เสียอีก

“โดยคนในสังคมจะลืมเหตุการณ์ที่ตนเคยก่อไปแล้วหรือไม่นั้นไม่ทราบ แต่ส่วนลึกในจิตใจของเรานั้น ยังคงจดจำไว้เป็นประสบการณ์ชีวิต เเล้วได้นำมาสอนลูกสอนหลาน ซึ่งตนเองก็เล่าเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นให้เป็นตัวอย่าง โดยไม่ได้ปิดบังลูกหลานแต่อย่างใด สิ่งไหนไม่ดีก็อย่าได้กระทำ เพราะปัจจุบันโลกโซเชียลมันรวดเร็วและกระแสแรงมาก” นายสมพงษ์กล่าว

และกล่าวต่อว่า “สำหรับปัจจุบันตนเองได้กลับมาปลูกบ้าน ใช้ชีวิตแบบลูกทุ่งในต่างจังหวัดบนที่ดินของภรรยา ที่ลาออกจากครู ที่บ้านเลขที่ 87 ม.4 ต.เทพราช อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งก็เป็นชีวิตที่มีความสุข ที่ได้อยู่กับครอบครัว และทำกินแบบเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการปลูกพืชเกษตรกรรมสวนผสม ปลูกผักผลไม้เลี้ยงไก่เลี้ยงปลาในเวลากลางวัน

“และที่ขาดไม่ได้ คือ อาชีพร้องเพลงในร้านอาหารในเวลากลางคืน เพราะเป็นอาชีพที่ตนเองชื่นชอบมาก และถือเป็นอาชีพที่สร้างรายได้หลักเลี้ยงครอบครัวมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยมีรายได้เฉลี่ยทั้งค่าแรงรวมกับค่าพวงมาลัยแล้วประมาณ 1 พันบาทต่อคืน และหากวันไหนรับงานนอกหรือมีคอนเสิร์ต ก็จะมีรายได้คืนละประมาณ 3,500 บาท นายสมพงษ์” กล่าว