SHARE

คัดลอกแล้ว

นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ กทม. จบเรื่องวัดตีระฆัง ด้าน ผอ.เขตบางคอแหลม สรุปผลสอบผู้ช่วยผอ.เขต คนลงนามหนังสือสั่งวัดลดเสียงตีระฆังถึงมือ พล.ต.อ.อัศวิน ขณะที่ “บิ๊กโจ๊ก

วันที่ 5 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการลงพื้นที่สวนลุมพินี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สอบถาม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ถึงข้อพิพาทเรื่องระฆังวัดไทร เขตบางคอแหลม ที่มีผู้พักอาศัยในคอนโดมีเนียมสตาร์วิว ร้องเรียนเรื่องเสียงดังรบกวน

“เรื่องดังกล่าวให้บริษัทเอกชน และวัดไปพูดคุยแก้ปัญหากันเองให้ได้ ผู้ว่าฯ กทม.สั่งการเรี่องนี้ไปแล้ว ขออย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ หากมีการพูดคุยและยอมรับกันแล้วก็ควรจบ” นายกฯ กล่าว

นายอนันต์ กายพรรณ ผู้อำนวยการเขตบางคอแหลม กล่าวว่า หนังสือราชการที่ออกจากสำนักงานเขตแล้วเกิดปัญหา ไม่สมควรใดๆ ก็ต้องขอโทษด้วย กรณีนี้เป็นตัวอย่างว่า การดำเนินการอะไรต้องตรวจสอบสิ่งที่เกี่ยวข้องรอบด้านก่อน อย่างคอนโดฯ ที่ต้องผ่านการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ฉะนั้นถ้าตีระฆังดังไปถึงทางเขต ตนว่าเป็นสิ่งที่ชื่นใจ เป็นวิถีพุทธทางศาสนา ต้องอยู่กับชุมชนให้ได้

เมื่อถามว่า ผู้ช่วยผอ.เขต ที่ลงนามในหนังสือถึงวัดไทร ต้องดำเนินการอย่างไร นายอนันต์ กล่าวว่า ต้องนำเรียน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และให้มีการชี้แจง ย้ำเรื่องนี้จบแล้ว

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รรท.ผบช.สตม.) กล่าวว่า หากผู้ร้องเรียนให้ชาวต่างชาติพักอาศัยต้องตรวจสอบว่า ผู้เช่าได้แจ้งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่ทราบหรือไม่ว่า มีชาวต่างชาติมาพักอาศัยตามมาตรา 38 พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หากไม่แจ้งผู้ให้เช่ามีโทษตามกฎหมาย ส่วนชาวต่างชาติที่พักอาศัยต้องถูกตรวจสอบถิ่นที่อยู่ด้วย หากไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ ต้องถูกเพิกถอนวีซ่า ผลักดันออกนอกประเทศ

  • ประวัติวัดไทร

วัดไทร อายุกว่า 300 ปี เป็นวัดที่มีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ปรากฏหลักฐานพระพุทธรูปสลักหินทรายสีแดง ปางสมาธิ ปางมารวิชัย พระพุทธรูปทรงเครื่อง อยู่ในพระวิหาร และมีใบเสมาสลักหินทรายสีแดง อยู่ด้านตะวันตกของพระอุโบสถ เหลืออยู่ 1 หลัก ที่วัดนี้มีตำหนักทองที่เชื่อกันว่า เคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าเสือ ทรงพระราชอุทิศถวายมาปลูกเป็นกุฏิสงฆ์ ตั้งอยู่ริมคลอง ที่เรียกตำหนักทอง ก็เพราะลงรักปิดทองทั้งหลังดูแพรวพราวสวยงาม กรอบหน้าต่างมีฐานสิงห์ ยกขอบจากพื้นจนดูเหมือนประหนึ่งจะเบาลอยแปะติดอยู่กับฝาเลยทีเดียวจากจารึกบนแผ่นไม้ระบุไว้ชัดเจนว่า วัดไทรได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ ในสมัยรัชกาลที่ 4 ครั้งหนึ่ง และในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อปีพุทธศักราช 2416 อีกครั้งหนึ่ง โดยช่างจีนเป็นผู้รับเหมา

 

ขอบคุณภาพบางส่วน Thaigov. /

อ้างอิงข้อมูล วัดไทร 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า