สร้างรถไฟเสร็จ เรื่องยังไม่จบ ! ส่อหยุดวิ่งหากรับพนักงานไม่ทัน

(ภาพจากเพจ : ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย)

รฟท.เจองานใหญ่ ต้องรับพนักงานใหม่ให้ได้ 5 พันคน ภายในปีหน้า ไม่เช่นนั้น หากรถไฟเฟสแรกเสร็จ อาจต้องปิดบางเส้นทาง

รถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง ที่ทยอยตอกเสาเข็มเริ่มก่อสร้างหลายทาง มีความจำเป็นที่การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ต้องขออนุมัติ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้สามารถรับพนักงานใหม่ได้มากกว่า 5% ของพนักงานที่เกษียณอายุราชการ

 รฟท. ต้องมีพนักงานใหม่เพิ่มอีกประมาณ 5,000 คน ภายในปี 2562 !!

หากการก่อสร้าง รถไฟทางคู่ เฟส 1 อีก 7 เส้นทางแล้วเสร็จในปี 2566 รถไฟทางคู่ เฟส 2 อีก 9 เส้นทาง คาดจะแล้วเสร็จประมาณปี 2570 จะทำให้บุคลากรไม่เพียงพอ ดังนั้นจำเป็นต้องทำแผนของรับพนักงานเพิ่ม โดยเฉพาะพนักงานขับรถ พนักงานประจำสถานี และช่างเครื่อง

ภาพจากเว็บ ddpropety

การรถไฟฯ วางแผนไว้ว่า จะต้องรับพนักงานใหม่ให้ได้ตั้งแต่ปี 2562 หรือปีหน้า รวมทั้งสิ้น 5,000 คน ขณะที่ในช่วงก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟส 1 ต้องรับพนักงานรัฐวิสาหกิจ 2,000 คน รวมเป็นบุคลากรประมาณ 16,000 หมื่นคน  และเฟส 2 รับอีก 3,000 คน รวมเป็นทั้งหมด 19,000 คน จึงจะเพียงพอต่อการให้บริการ

นางสิริมา หิรัญเจริญเวช รองผู้ว่าการ กลุ่มยุทธศาสตร์ รฟท. กล่าวเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ว่า ปัจจุบันรฟท.มีพนักงานราว 10,330 คน ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ทำให้ต้องจ้างพนักงานทำโอที (งานนอกเวลา) โดยปัจจุบัน พนักงานทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน วันละ 12 ชั่วโมง ทำให้ รฟท. มีค่าใช้จ่ายโอทีสูงถึง ร้อยละ 25 หรือ ปีละ 750 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเงินเดือนพนักงานทั้งองค์กร ปีละ 3,000 ล้านบาท หากรับคนใหม่ได้ รฟท. จะประหยัดงบโอทีได้ปีละ 750 ล้านบาทด้วย

“หากรถไฟทางคู่เฟส 1 สร้างเสร็จในปี 2565 รฟท. ยังรับพนักงานใหม่ไม่ได้ อาจจะจำเป็นต้องพิจารณา ปิดเส้นทางเดินรถบางเส้นทาง เพราะหากมีพนักงานดูแลไม่เพียงพอ อาจทำให้การเดินรถเกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจนส่งผลกระทบต่อผู้โดยสาร” นางสิริมา กล่าว

ขอบคุณภาพ  ddproperty , FB : ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย / Thai PBS