สหรัฐฯ ถอนนักการทูตทั้งหมดจากเวเนซุเอลา

รัฐบาลวอชิงตันประกาศถอนเจ้าหน้าที่การทูตซึ่งยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเวเนซุเอลา ให้เดินทางกลับสหรัฐท่ามกลางวิกฤติทางการทูตระหว่างทั้ง 2 ประเทศที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ

วันที่ 13 มี.ค. 62 สื่อต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเตรียมถอนนักการทูตที่เหลือทั้งหมดออกจากประเทศเวเนซุเอลา ในขณะที่ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้ง 2 ประเทศกำลังเลวร้ายลงเรื่อยๆ นับตั้งแต่สหรัฐฯ ประกาศสนับสนุนนาย ฮวน กวยโด แกนนำฝ่ายค้าน เป็นประธานาธิบดีตัวจริงของเวเนซุเอลา

ทั้งนี้เวเนซุเอลาเผชิญเหตุไฟดับครั้งใหญ่มาตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. 62 โดยคาดว่าสาเหตุมาจากปัญหาที่เกิดขึ้นที่โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ‘กุริ’ ในรัฐโบลิวาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าพลังงานขนาดใหญ่ที่สุดในลาตินอเมริกา ส่งผลให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 17 ราย เป็นการซ้ำเติมประชาชนในเวเนซุเอลา ที่มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก จากวิกฤตขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค จากปัญหาเงินเฟ้อและปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้าประเทศเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

โดยส่วนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก คือ บริการสาธารณสุข ระบบคมนาคม และการติดต่อสื่อสารในประเทศ ขณะที่สถานที่ราชการ โรงเรียน และห้างร้านแทบทุกแห่งยังคงปิดให้บริการ ขณะที่ประชาชนบางส่วนต้องเดินไปทำงานเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร เนื่องจากระบบรถไฟใต้ดินยังไม่สามารถใช้งานได้ เช่นเดียวกับสัญญาณโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ตที่ยังติดขัด

ทั้งนี้ชาวบ้านบางส่วนจำใจต้องไปตักน้ำในอ่างเก็บกักน้ำเสีย มาใช้อุปโภคบริโภคไปก่อน และจำเป็นต้องไปรับแจกอาหารจากโรงทานหลายแห่ง นอกจากนี้ ยังมีรายงานเหตุปล้นสะดมตามร้านค้าทั่วเมืองหลวง ซึ่งเจ้าหน้าที่ความมั่นคงตามกวาดล้างจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้วกว่า 40 คน แต่ประธานาธิบดีมาดูโรให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ อ้างว่า เหตุไฟดับที่เกิดขึ้นเป็นการก่อวินาศกรรมของชาวต่างชาติ และรัฐบาลจักรวรรดินิยมของสหรัฐฯ เป็นผู้ออกคำสั่ง