สองผัวเมียยันไม่ได้ขโมยลอตเตอรี่ 12 ล้าน เผยถูกรางวัล 18 ล้าน ต่างหาก !

ประเด็นคือ – สองผัวเมียถูกหนุ่มกล่าวหาว่าขโมยลอตเตอรี่ถูกรางวัล 12 ล้าน เข้าให้ปากคำ ตร. ยันไม่เคยรู้จักผู้กล่าวหา พร้อมพิสูจน์ความจริง และตนถูกรางวัล 18 ล้านต่างหาก วอนสังคมฟังความจริงรอบด้าน

จากกรณีที่ นายพันธุ์ศักดิ์ เสือชุมแสง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 5 ต.หัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.นางรอง ว่า ถูกขโมยลอตเตอรี่ที่ตนเองถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2560 หมายเลข 715431 จำนวน 2 ใบ เป็นเงิน 12 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 60

และต่อมาทราบว่ามีคนนำลอตเตอรี่ดังกล่าวไปขึ้นเงินแล้วเมื่อวันที่ 23 – 24 ส.ค. ที่ผ่านมา เป็นสองสามีภรรยาชาว อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของตำรวจพบว่า เงินรางวัล 12 ล้าน ถูกแยกเป็น 2 บัญชี บัญชีละ 6 ล้านบาท และเงินยังอยู่ครบถ้วนทั้ง 12 ล้านบาท ยังไม่มีการเบิกถอนออกจากบัญชี

นายพันธุ์ศักดิ์ เสือชุมแสง ผู้กล่าวหาว่าถูกขโมยลอตเตอรี่

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (28 ก.ย. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิทยา ธนทรัพย์สิน อายุ 44 ปี และนางขวัญศิริ ธนทรัพย์สิน สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 263 หมู่ 3 ต.สระคู อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด บุคคลที่ถูกระบุว่านำสลากที่ถูกรางวัลไปขึ้นเงิน ได้เข้าพบ พ.ต.อ.ไพศาล สุวรรณทา ผู้กำกับการสอบสวน กลุ่มงานสอบสวนตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ที่ได้รับมอบหมายจากภูธรจังหวัดให้มาดูแลคดี และพนักงานสอบสวน สภ.นางรอง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมทั้งได้นำรูปถ่ายลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2560 ซึ่งเป็นลอตเตอรี่แบบเก่างวดสุดท้ายมาเป็นหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์กับตำรวจด้วยว่า ตนเองเป็นผู้ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 16 ส.ค. 2560 หมายเลข 715431 จริง และถูกจำนวน 3 คู่ เป็นเงิน 18 ล้านบาท ไม่ใช่ 2 คู่ 12 ล้านบาท

นายวิทยา ระบุอีกว่า ตนมีอาชีพรับเหมาติดตั้งกระจกและอลูมิเนียม ช่วงเดือนสิงหาคมได้มารับเหมางานที่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ก็จะเดินทางไปกลับระหว่างบุรีรัมย์ – ร้อยเอ็ด และเมื่อวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปกับเจ้าของโรงน้ำแข็งเอราวัณ อ.โนนดินแดง ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างติดตั้งกระจกและอลูมิเนียม เพื่อไปหาซื้อวัสดุก่อสร้างใน อ.นางรอง จากนั้นก็พากันแวะไปรับประทานอาหารที่ร้านตำแหลกในตัวอำเภอ ตรงข้าม รพ.นางรอง ขณะนั้นมีพ่อค้ามาเดินเร่ขายลอตเตอรี่ ตนเห็นว่ามีเลขท้าย 31 ตรงกับป้ายทะเบียนรถของหลวงปู่หมุน วัดป่าหนองหล่ม อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ที่ตนเองเพิ่งไปกราบขอพรมา จึงซื้อไว้จำนวน 3 คู่

กระทั่งวันที่ 16 ส.ค. 60 หลังออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล เวลาประมาณ 16.00 น. จึงได้ตรวจรางวัลทางอินเทอร์เน็ตจากโทรศัพท์มือถือ ก็ทราบว่าถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 3 คู่ ได้เงินรางวัล 18 ล้านบาท แต่ไม่ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพราะไม่อยากเป็นข่าว เนื่องจากกลัวความไม่ปลอดภัย จากนั้นวันที่ 23 ส.ค. 2560 ตนจึงได้ไปขึ้นเงินที่กองสลาก เพียง 2 คู่ เป็นเงิน 12 ล้านบาท ส่วนอีกใบให้ภรรยาที่เป็นผู้ดูแลร้านรับติดตั้งกระจกและอลูมิเนียมอยู่ที่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด นำไปขึ้นเงินรางวัล 6 ล้านบาท ในวันที่ 24 ส.ค.

ที่แยกกันไปคนละวัน เพราะภรรยามีนัดพาพ่อไปหาหมอในวันที่ 24 ส.ค. พอดี และหลังจากนั้นตนยังเดินทางไปทำงานที่ อ.โนนดินแดง และแวะซื้อลอตเตอรี่กับพ่อค้าเร่คนเดิมอีก 5 ใบ เพราะหวังว่าจะดวงเฮงอีก ซึ่งพ่อค้าก็เหมือนจะจำหน้าได้ จึงถามว่าเฮียใช่ไหมที่ถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 16 สิงหาคม 3 ใบ จึงตอบไปว่าไม่ใช่ เพราะไม่อยากให้ใครรู้ กลัวเรื่องความปลอดภัย

แต่ขอยืนยันว่าลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลงวดดังกล่าวเป็นของตนที่ซื้อเอง และไม่เคยรู้จักกับนายพันธุ์ศักดิ์ เสือชุมแสง ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ที่แจ้งความอ้างว่าสลากฯ หาย รวมทั้งเด็กผู้ชายอายุ 15 ปี ที่ถูกสงสัยว่าเป็นคนขโมยสลากฯ ก็ยืนยันว่าไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า กรณีที่เกิดขึ้นอยากฝากสังคมและผู้ที่ติดตามข่าวสาร ขอให้ฟังข้อมูลให้รอบด้าน อย่าเพิ่งตัดสินว่าใครผิดใครถูก เพราะหลังจากมีการนำเสนอข่าวในทำนองที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ทำให้ตนเองและครอบครัวได้รับความเสียหาย ซึ่งตนพร้อมพิสูจน์ความจริงทุกอย่าง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: หนุ่มถูกขโมยลอตเตอรี่ 12 ล้าน เริ่มกังวล หลังคนขายกลับคำพูด อ้างจำไม่ได้

หนุ่มถูกลอตเตอรี่ 12 ล้านจริง ตร.รู้เบาะแสคนขโมยแล้ว จ่อเรียกสอบ