สั่งห้ามเล่นน้ำ! หลังยังจับ ‘จระเข้’ ไม่ได้ ว่ายหนีโผล่หาดไตรตรัง

ระดมทีมค้นหาจระเข้ต่อเนื่อง หลังว่ายหนีโผล่หาดไตรตรัง เตือน นทท. ห้ามลงเล่นน้ำจุดเสี่ยง ขณะที่ จ.ภูเก็ต เตรียมออกประกาศให้ผู้เลี้ยงจระเข้ที่ไม่ได้จดแจ้งไว้รายงานตัว หากพบมีความผิด มีโทษทั้งจำและปรับ

วันที่ 24 ก.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการติดตามค้นหาจระเข้โผล่ทะเลภูเก็ต ซึ่งเมื่อวานนี้พบว่าจระเข้ตัวดังกล่าวพยายามว่ายน้ำเข้าฝั่งบริเวณชายหาดไตรตรัง แต่ปรากฏว่าเมื่อเห็นคนจำนวนมากก็ได้ว่ายน้ำหนีกลับลงไปในทะเลบริเวณหน้าชายหาดดังกล่าว และยังไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลย ขณะที่ชุดเฝ้าระวังและติดตามจระเข้ของ อ.กะทู้ และเทศบาลเมืองป่าตอง อ.กะทู้ ตลอดจนชุดจับจระเข้จากศูนย์ป้องกัน และปราบปรามประมงน้ำจืดภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี หรือชุดไกรทองแห่งลุ่มน้ำตาปี ยังคงมีการติดตามและเฝ้าระวังตามแนวชายหาดที่คาดว่าจระเข้ดังกล่าวจะขึ้นมาบนฝั่ง

ล่าสุด จากการติดตามหาจระเข้ของหน่วยเฉพาะกิจ อ.กะทู้ เทศบาลเมืองป่าตอง และชุดจับจระเข้จากศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี หรือชุดไกรทองแห่งลุ่มน้ำตาปี ยังคงมีการเฝ้าระวังตามแนวชายหาดอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการแบ่งกำลังออกเป็น 3 จุด คือ บริเวณหาดไตรตรัง หาดพาราไดซ์ และบริเวณสะพานคอรัลบีช หาดป่าตอง ทั้งกำลังเจ้าหน้าที่บนฝั่ง เฝ้าระวังในทะเลและใช้โดรนบิน แต่ไม่พบว่าจระเข้ดังกล่าวจะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำหรือว่ายเข้าฝั่ง

ขณะที่ นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการ จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า จากกรณีที่พบจระเข้โผล่ในทะเลของ จ.ภูเก็ต หลายจุด ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบที่มาที่ชัดเจน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าจะเป็นจระเข้น้ำจืด และเพื่อเป็นการตรวจสอบความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว ทางจังหวัดเตรียมออกประกาศแจ้งให้ผู้ที่เลี้ยงจระเข้ที่ไม่ได้จดแจ้งไว้ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ให้รีบมาแจ้งโดยเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 49 ที่ระบุว่า ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 19 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เบื้องต้น จากการตรวจสอบว่าจระเข้ตัวดังกล่าว หลุดมาจากฟาร์มเลี้ยงที่อยู่ใน จ.ภูเก็ต จำนวน 5 จุดหรือไม่ ซึ่งทางสำนักงานประมง จ.ภูเก็ต ได้ไปตรวจสอบตามฟาร์มเลี้ยงต่างๆ พบว่าจระเข้ของแต่ละฟาร์มยังอยู่ครบ จึงยังไม่สามารถระบุได้ว่าจระเข้ตัวดังกล่าว มีแหล่งมาจากที่ใด โดยคาดว่าจระเข้มีความยาวประมาณ 1.5 เมตร ถือเป็นจระเข้ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก จึงไม่มีความดุร้ายเหมือนกับจระเข้ขนาดใหญ่ ส่วนแหล่งที่มาของจระเข้ สามารถสันนิษฐานไปได้หลายประการ ทั้งหลุดจากแหล่งเลี้ยงที่ไม่แจ้งการครอบครองหรือจากธรรมชาติ หรือลักลอบนำมาปล่อย

นายนรภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ชุดเฉพาะกิจที่นำโดย นายนิคม สุขสวัสดิ์ หัวหน้าชุดไกรทองลุ่มน้ำตาปี และเจ้าหน้าที่หลายหน่วยได้ระดมกำลังกันค้นหา แต่ปัญหาอุปสรรคคือ สภาพคลื่นลมแรงและเป็นทะเลเปิด จึงทำไม่สามารถใช้เครื่องมือต่างๆ ในการปฏิบัติการได้ เพราะส่วนใหญ่จะเห็นในระยะไกล แต่ชุดเฉพาะกิจยังคงค้นหาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันในส่วนของการเฝ้าระวังทางจังหวัดได้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละพื้นที่ แจ้งเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวบริเวณชายหาดต่างๆ ทุกแห่งใน จ.ภูเก็ต ห้ามลงเล่นน้ำในทะเล โดยเฉพาะในจุดที่พบหรือคาดการณ์ว่าจะมีจระเข้ขึ้นมาบนฝั่ง เพื่อความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• จระเข้โผล่หายใจ 2 ครั้งที่หาดกะรน ยังจับไม่ทัน !
• ยังจับไม่ได้! ‘จระเข้’ โผล่ทะเลภูเก็ต ไกรทองเตรียมปรับแผนวันนี้
• เตือน! พบ ‘จระเข้’ โผล่หาดในภูเก็ต เฝ้าระวังห้ามลงทะเล

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์: workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว   
ยูทูบ: workpoint news   
ทวิตเตอร์: workpoint news   
อินสตาแกรม: workpointnews