สาวประเภท 2 ผูกคอดับปริศนา บนศาลาการเปรียญ ญาติไม่เชื่อฆ่าตัวตาย

พบศพสาวประเภทสองผูกคอดับปริศนา กลางศาลาวัดดัง จ.บึงกาฬ โพสต์เฟซบุ๊กให้มารับศพในวัด ขณะที่ญาติไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย จากปมที่ผู้ตายไปชอบลูกชายของหลวงพ่อ จนถูกรุมตีทำร้าย

วันที่ 26 ม.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนชั้น 2 ศาลาการเปรียญ วัดบ้านซำบอน (วัดสิริธรรมาราม) ต.เหล่าทอง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ พบศพ นายเก่ง ศรีสง่า อายุ 28 ปี ใช้เชือกไนลอนผูกคอตัวเอง ภายในตัวพบเงินสดจำนวนหนึ่ง บัตรประชาชน บัตร ATM และ รูปถ่าย 1 ใบ จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ร่างกายไม่มีบาดแผล นอกจากที่ลำคอ

ด้านเพื่อนผู้เสียชีวิต เล่าว่า เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา ขณะนั่งดื่มเหล้าอยู่ด้วยกัน นายเก่ง ได้บอกว่าจะกลับบ้านไปให้อาหารหมา ไม่ได้บอกว่าจะมาวัด มีแต่บอกว่าชอบผู้ชายอยู่แถววัดนี้ และเมื่อกลับถึงบ้าน เห็นเพื่อนโพสต์เฟซบุ๊กลักษณะแปลกๆ โดยเวลา 20.26 น. ระบุข้อความว่า “วัดป่าซำบอนเหมือนนรก ครูบาแสงเหมือนเปรตไม่มีสติ สมาธิ ใช้แต่อารมณ์ ตีได้แม้เรา ไม่ชอบเรา ห้ามทุกสิ่ง” และเวลา 20.34 น. โพสต์ว่า “มารับศพด้วยนะที่วัดบ้านซำบอน”

ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิต น.ส.พรทิพย์ บุญภา เล่าว่า เห็นผู้ตายโพสต์ให้มารับศพที่วัดป่าซำบอน โดยแม่ผู้ตายทำงานอยู่ประเทศเกาหลี ได้โทรมาหาให้ติดตามหาลูก เธอจึงมาตามที่วัด เพราะผู้ตายมักจะมาช่วยงานอยู่ที่วัดเป็นประจำ เมื่อถามหลวงพ่อที่วัด ได้คำตอบว่า มีการลงไม้ลงมือทุบตีกันจริง เพราะผู้เสียชีวิตมาตีลูกชายหลวงพ่อก่อน หลวงพ่อจึงตีผู้เสียชีวิตร่วมกับเด็กวัด จากนั้นได้ลากออกไปหน้าวัด และไม่รู้ว่าผู้เสียชีวิตไปไหน จากนั้นเธอและเพื่อนได้ตามหาจนพบศพ ที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตชอบลูกชายของหลวงพ่อ ซึ่งหลวงพ่อได้ห้ามปรามตลอดไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกัน

ขณะที่ญาติบางส่วนเชื่อว่าผู้ตายได้มาอาศัยนอนอยู่ภายในวัดเป็นประจำ และได้ขอทางวัดเปิดดูกุฏิ แต่ทางวัดไม่ให้ความร่วมมือ แม้ทางญาติพี่น้องกว่า 30 คน จะไปขอพบกับเจ้าอาวาส เพื่อขอกุญแจมาเปิดกุฏิ แต่เจ้าอาวาสปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมากราบขอร้อง ก่อนจะยอมให้เปิดกุฏิเข้าไปดู แต่ไม่มีสิ่งใดเป็นพิรุธ จึงพากันกลับบ้าน

เบื้องต้น ตำรวจ สภ.โซ่พิสัย ได้ร่วมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐานบึงกาฬ เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ทั้งเชือก ชิ้นเล็บ และเลือด ส่งไปตรวจพิสูจน์หาดีเอ็นเอ ที่ศูนย์ตรวจพิสูจน์หลักฐาน ภาค 4 ขอนแก่น ต่อไป คาดไม่เกิน 30 วัน จะทราบผล