สาวโพสต์เฟซบุ๊กร้อง อ้างถูกตำรวจลวนลามบนเกาะกูดช่วงสงกรานต์ ไปแจ้งความคนรับเรื่องกลับเป็นตำรวจคู่กรณี ทำให้คดีไม่คืบ
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 62 นางสาวเอ (นามสมมติ) ได้โพสต์เฟซบุ๊กเล่าว่า ตนขี่รถจักรยานยนต์ไปกับพี่ที่สนิท ไปทานข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง บนเกาะกูด จ.ตราด และสังเกตเห็นกลุ่มตำรวจและกำนันนั่งทานอาหารอยู่โต๊ะข้างๆ บริเวณริมถนน ที่อยู่ไม่ไกลจากร้านอาหาร เมื่อทานข้าวเสร็จกำลังจะขี่รถจักรยานยนต์ออกจากร้าน โดยตนเป็นคนนั่งซ้อนท้าย แต่พอขี่รถจักรยานยนต์มาถึงจุดที่กลุ่มตำรวจนั่งทานอาหารอยู่ ก็ถูกโบกให้จอดรถ และมีตำรวจนายหนึ่งพยายามจะไปหาน้ำมาสาดใส่ ตนจึงบอกว่าไม่เล่น ก่อนมีตำรวจคนหนึ่งมีลักษณะมึนเมา เอามือมาลูบหน้าคนขับ ก่อนจะเอามือมาลูบหน้าและหน้าอกของตน โดยที่ในมือของตำรวจคนดังกล่าวไม่มีน้ำหรือแป้งเลย ซึ่งขณะนั้นตนรู้สึกตกใจมาก จึงพูดออกไปว่า “ไม่โอเคนะคะ” ก่อนพากันขี่รถจักรยานยนต์ออกไป
หลังจากวันนั้น ตนจึงได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเกาะกูด แต่เจ้าหน้าที่กลับบอกว่า “รับเรื่องไม่ได้ ไม่ใช่หน้าที่” ก่อนจะไปเรียกเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งมารับเรื่องแทน ซึ่งพบว่าคนที่มารับเรื่องนั้น คือตำรวจคู่กรณีของตน ซึ่งตำรวจนายดังกล่าวได้พูดกลับมาว่า “ก็กูขอโทษแล้วไง” ทั้งที่หลังเกิดเรื่องยังไม่เคยได้ยินคำพูด หรือ การขอโทษจากตำรวจนายนี้เลย จึงตอบกลับไปว่าไม่ได้ยิน แต่ตำรวจนานนี้กลับหาว่าโกหก จึงตัดสินใจยกเลิกการแจ้งความ และเดินทางไปแจ้งความที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองตราด แต่ก็ถูกแจ้งว่าอยู่นอกเขตพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งตนรู้สึกว่า คนที่อยู่บนเกาะกูดไม่มีความปลอดภัย เพราะเจ้าหน้าที่เป็นคนทำเสียเอง ไม่สามารถดูแลประชาชนได้ รวมไปถึงเป็นห่วงนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะด้วย ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
หลังได้รับเรื่องร้องเรียน ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ ได้สอบถามกับ พ.ต.อ.ประเสริฐ มาเห็ม ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเกาะกูด ในฐานะผู้บังคับบัญชานายตำรวจคนดังกล่าว ระบุว่า ได้รับทราบเรื่องแล้ว ยอมรับว่าคนที่กระทำเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจใน สภ.เกาะกูดจริง โดยชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวนั้นอยู่ในภาวะเครียด ต้องรับประทานยาตลอด ช่วงหลังนี้อาจจะไม่ได้กินยาต่อเนื่อง ด้านทางพ่อของผู้เสียหายก็ได้โทรมาพูดคุยแล้วหลังจากที่มาแจ้งความ ตนก็รับเรื่องไว้แล้ว และจะไม่เพิกเฉยแน่นอน หลังจากนี้ก็จะสอบพยานต่อไป และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย