สาวใหญ่แฉแหลก รองนายก อบต. ขู่ยึดที่ดิน วอนสื่อช่วย เกรงไม่ปลอดภัย

ประเด็นคือ – สาวใหญ่เมืองตรังแฉรองนายก อบต. ใช้อำนาจอิทธิพลข่มขู่ยึดครองที่ดินชาวบ้าน อ้างเป็นที่ของ อบต. เรื่องร้อนถึงอำเภอเรียกไกล่เกลี่ยจะเอาที่ให้ได้ แถมให้ จนท.นำกระดาษเปล่ามาขู่ให้เซ็น ชาวบ้านร้องสื่อ ขอหน่วยงานให้ความเป็นธรรมและเข้าตรวจสอบ กลัวชีวิตไม่มีความปลอดภัย

วันที่ 25 พ.ย. 60 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง ได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.ชูทอง สามทอง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/3 ม.4 ต.ตะเสะ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า จากกรณีที่ นายเริง ทุ้ยอ้น รองนายก อบต.ตะเสะ ได้ทำการนำรถบรรทุกดินไปถมที่ของตนเอง เพื่อใช้เป็นถนนไปสู่ท่าเรือชุมชนที่กำลังมีการปรับปรุงใหม่ ได้ถมดินล้ำไปในที่ดินของตนทำให้เสาคอนกรีตและรั้วลวดหนามล้มลงกับพื้นเป็นแนวยาวกว่า 50 เมตร กว้าง 1 เมตร ทั้งที่เป็นที่ดินของตนเอง

ภายหลังจากเกิดเรื่องจึงเดินทางไปพร้อมกับน้องชายคือ นายรักคุณากร สามทอง และญาติๆ ไปทำการซ่อมแซมเสารั้วให้กลับสู่สภาพเดิม ในขณะที่ทำการขุดหลุมเพื่อวางเสารั้วใหม่อยู่นั้น นายเริง ทุ้ยอ้น รองนายก อบต.ตะเสะ พร้อมลูกชาย กำนัน และตำรวจ เข้าไปด่าทอ ว่ากล่าว ข่มขู่ต่างๆ นานา พร้อมกล่าวว่า ที่ดินดังกล่าวทาง อบต.ได้ซื้อไว้แล้ว เพื่อทำเป็นถนน หากใครมายืนยันว่าเป็นเจ้าของจะดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด และจะทำการปิดกั้นเส้นทางไม่ให้เข้าออก ไม่ให้เดิน เป็นที่ดินตาบอด แต่ตนเองยืนยันว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของตนและยังไม่มีการซื้อขายแต่อย่างใด

น.ส.ชูทอง กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นในวันที่ 9 พ.ย. 60 ที่ผ่านมา ตนเองได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.ธีรทัศน์ ธรรมรัตน์ รอง.สว. (สอบสวน) สภ.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ ไว้เป็นหลักฐาน แต่ไม่ติดใจเอาความและดำเนินคดีแต่อย่างใด เพียงแต่แจ้งว่า หากเกิดเหตุอันใดต่อตนเองและครอบครัวทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน อาจเกิดมาจาก นายเริง ทุ้ยอ้น รองนายก อบต.คนดังกล่าว รวมทั้งพวก เนื่องจากตนและครอบครัวไม่เคยมีความบาดหมางกับใครและไม่มีศัตรูมาก่อน

น.ส.ชูทอง สามทอง กล่าวอีกว่า ภายหลังจากเกิดเหตุได้ไปร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.ตรัง แล้วเช่นกัน ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา ทาง อ.หาดสำราญ ได้เรียกตนเองไปพบเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยในเรื่องที่เกิดขึ้น แต่การเจรจาต้องการที่จะเอาพื้นที่ของตนเองเป็นถนน เพื่อใช้เป็นเส้นทางเข้าออกของท่าเรือใหม่ แต่ตนไม่ยินยอม เพราะก่อนหน้านี้ตนได้ไปร้องต่อศาล จ.ตรัง ศาลจึงออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ที่ดินมาทำการขึ้นรังวัดชี้แนวเขต ปรากฏว่าที่ดังกล่าวไม่ใช่ที่ดินสาธารณะตามที่มีการแอบอ้าง แต่ศาลได้ตัดสินให้ที่ดินดังกล่าวเป็นของตนเองถูกต้องตามกฎหมายจากหลักฐานคือการถือครองที่ดินตามโฉนด

โดย น.ส.ชูทอง กล่าวด้วยว่า เรื่องดังกล่าวทาง รองนายก อบต. ได้ทำการมาข่มขู่แบบนี้หลายครั้งแล้ว หากมาพูดคุยหรือขอซื้อกันดีๆ ตนก็ให้ไปนานแล้ว และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือทุกอย่าง แต่เมื่อมาใช้อำนาจทางการเมืองรวมทั้งอิทธิพลมาข่มขู่จึงไม่ให้ที่ไป เพราะการกระทำของผู้นำไม่สามารถใช้อำนาจข่มขู่หรือทำอะไรตามอำเภอใจต่อประชาชนได้ แต่ทางการจะเข้ามาหาผลประโยชน์โดยอ้างถึงว่าจะสร้างความเจริญให้กับท้องถิ่น หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสงสัยว่าเป็นความจริงหรือไม่ ขอให้ตั้งคณะกรรมการลงมาตรวจสอบโครงการต่างๆ ที่ทางรองนายก อบต. คนดังกล่าวปฏิบัติมาจะได้รู้ว่าข้อจริงเท็จจริงเป็นอย่างไร ที่สำคัญทางอำเภอหลังจากเรียกตนเองไปไกล่เกลี่ยแต่ไม่เป็นผล กลับนำกระดาษเปล่าๆ มาให้ตนเองเซ็น แต่ตนไม่ยินยอมเซ็น เพราะไม่ทราบว่าจะเซ็นไปทำไม โดยที่ไม่มีข้อความหรือการบอกเล่าอะไรแม้แต่น้อย

“ไม่ทราบว่าบ้านเมืองนี้ข้าราชการเป็นอยู่อย่างไร คนของรัฐรวมทั้งนักการเมืองท้องถิ่นมารังแกประชาชน และแสดงการกระทำแบบนี้ต่อประชาชน จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาตรวจสอบโครงการต่างๆ รวมทั้งให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย เพราะเกรงกลัวว่าจะเกิดอันตรายแก่ตนและครอบครัว” น.ส.ชูทอง กล่าวทิ้งท้าย