SHARE

คัดลอกแล้ว

สุดเวทนาสาววัย 26 ตาบอดสนิททั้งสองข้าง เพราะไปทำงานหลอมเหล็กที่โรงงาน ส่วนสามีหนีไปบวช ทิ้งลูกเล็กเพียงลำพัง อาศัยเพิงสังกะสีเก่าซุกหัวนอน

วันนี้ (3 มิ.ย. 61) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีหญิงสาวคนหนึ่ง ในหมู่บ้านกลันทา ม.10 ต.กระสัง  อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ มีสภาพความเป็นอยู่ที่น่าเวทนา พิการตาบอดทั้งสองข้าง อาศัยอยู่ในเพิงสังกะสีที่มีสภาพเก่าผุพังเป็นที่ซุกหัวนอน ต้องเลี้ยงลูกวัยชายเพียง 1 ขวบเศษตามลำพัง เพราะสามีหนีไปบวชแล้วไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย ปัจจุบันอาศัยเพียงเบี้ยคนพิการเดือนละ 800 บาท และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนเดือนละ 300 บาท ซื้อข้าวสาร อาหารกินประทังชีวิต แต่ก็ไม่เพียงพอ ต้องอดมื้อกินมื้อ

ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง เมื่อไปถึงก็พบกับ น.ส.สุนิสา มุ่งรวยกลาง หรือยุ้ย อายุ 26 ปี สาวที่พิการตาบอดทั้งสองข้าง นั่งอุ้มลูกชายวัย 1 ขวบ 3 เดือนอยู่บริเวณเพิงเล็กๆ ที่ล้อมรอบด้วยสังกะสีเก่าผุพังและมุงด้วยสังกะสี ข้างๆ กันมีเพิงที่ล้อมรอบด้วยสังกะสีอีกหลังซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของแม่ และพ่อเลี้ยง

จากการสอบถาม น.ส.สุนิสา เล่าว่า เมื่อประมาณปี 2554 ได้ไปทำงานโรงงานหลอมเหล็กกับพ่อแม่ และสามี ที่ จ.ชลบุรี โดยตนเองทำหน้าที่โหลดเหล็กเข้าเตาหลอม แต่หลังจากทำได้แค่ 3 เดือนก็ต้องลาออกจากงานเพราะเริ่มมีอาการปวดหัวรุนแรงและแสบที่ดวงตา เชื่อว่าน่าจะเกิดจากผลข้างเคียงจากฝุ่นสนิมเหล็กเข้าตา

หลังลาออกกลับมาอยู่บ้านสามีที่ อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ได้ไม่นาน ตาเริ่มพล่ามัว จึงไปหาหมอที่ชุมพวง  แต่หมอแนะนำว่าให้กลับมารักษาที่ จ.บุรีรัมย์ เพราะมีสิทธิ์รักษาที่ จ.บุรีรัมย์ จึงตัดสินใจกลับมาตามที่หมอแนะนำ ช่วงแรกหมอบอกว่าจอประสาทตาหลุดลอกซึ่งช่วงนั้นตาทั้งสองข้างก็มองไม่เห็นแล้ว ต้องทำการผ่าตัด จึงทำเรื่องส่งตัวไปผ่าตัดที่ รพ. ใน จ.ขอนแก่ แต่หลังจากผ่าตัดก็ยังมองไม่เห็นซึ่งหมอบอกว่าจอประสาทตาเสื่อม อาจทำให้พิการ มองไม่เห็น จึงบอกให้ครอบครัวทำใจ แต่ก็บอกให้มาทำการตรวจและรักษาต่อเนื่องเผื่อมีโอกาสหรือวิวัฒนาการใหม่ที่สามารถรักษาได้ แต่ด้วยฐานะที่ยากจน ไม่มีเงินไปรักษาได้อย่างต่อเนื่อง จึงต้องกลายเป็นคนพิการตาบอดทั้งสองข้างมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นเวลานานกว่า 7 ปีแล้ว

น.ส.สุนิสา ยังเล่าทั้งน้ำตาอีกว่า ช่วงที่ตนเองมองไม่เห็นก็มีแม่คอยดูแล และสามีทำงานรับจ้างหาเลี้ยง  ส่วนตัวก็พยายามฝึกทำอะไรด้วยตัวเอง แต่พอมีลูกสามีก็เริ่มเครียด ดื่มเหล้า บางวันมีเงินให้บ้างไม่ให้บ้าง  กระทั่งต่อมาสามีบอกว่าจะไปบวช ซึ่งช่วงแรกก็ยังโทรศัพท์ติดต่อหาลูกและส่งเงินค่านมมาให้ แต่ล่าสุดหายไปนานกว่า 3 เดือนแล้วไม่สามารถติดต่อได้เลย ทิ้งให้ตนที่พิการตาบอดเลี้ยงลูกลำพัง

ปัจจุบันอาศัยเบี้ยคนพิการเดือนละ 800 บาท และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนเดือนละ 300 บาท ซื้อข้าวสารอาหารมาประทังชีวิต แต่ก็ไม่เพียงพอเพราะต้องซื้อนมและอาหารเสริมให้ลูกกินด้วย ต้องอยู่อย่างยากลำบาก อดมื้อกินมื้อ บางครั้งท้อถึงขั้นคิดสั้นอยากจะฆ่าตัวตาย แต่ก็สงสารลูก หากมีผู้ใจบุญช่วยเหลือก็อยากให้ช่วยรักษาตาให้มองเห็น เพราะอยากเห็นหน้าลูก ทั้งอยากทำงานหาเลี้ยงตัวเองและลูกได้โดยไม่เป็นภาระคนอื่น

ด้านนางตุ่ม สมบูรณ์ อายุ 51 ปี แม่ของ น.ส.สุนิสา บอกว่า เห็นลูกสาวและหลานชายอยู่อย่างยากลำบาก ก็สงสารมากแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง เพราะปัจจุบันตัวเองก็ไม่สามารถทำงานได้เหมือนเมื่อก่อน ป่วยเป็นความดันสูง หน้ามืดบ่อยครั้ง ปวดเข่า ทำงานหนักไม่ได้ เพียงแค่รับจ้างเล็กๆ น้อยๆ กินไปวันๆ เท่านั้น บางครั้งไม่มีจะกินก็ไปหยิบยืมเงินญาติพี่น้องมาให้ลูกสาวและหลานได้ซื้ออาหารกิน ประทังความหิวบ้าง จึงอยากให้ผู้ใจบุญช่วยเหลือให้ลูกสาวและหลานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ และอยากให้หลานมีทุนเรียนสูงๆ ให้สามารถพึ่งพาตัวเองได้ หากตนเป็นอะไรไป

ขณะที่นางจอย เขียวรัมย์ เพื่อนบ้านบอกว่า เห็นสภาพความเป็นอยู่ของ น.ส.สุนิสา ที่พิการตาบอด ต้องเลี้ยงดูลูกชายวัยขวบเศษตามลำพัง หลังจากสามีทิ้งไปบวช ไม่เหลียวแล ก็รู้สึกสงสาร แต่ก็ช่วยเหลือหยิบยื่นข้าวปลาอาหารได้บ้างบางครั้งตามกำลังที่พอจะช่วยได้ เพราะตัวเองมีฐานะยากจน ต้องดิ้นรนหาเช้ากินค่ำเหมือนกัน ก็อยากจะวิงวอนให้ผู้ใจบุญช่วยเหลือ น.ส.สุนิสา ให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่านี้

หากใครต้องการช่วยเหลือสามารถบริจาคได้ที่ชื่อบัญชี น.ส.สุนิสา มุ่งรวยกลาง หมายเลขบัญชี 308-0-61208-6  บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย  สาขาบุรีรัมย์

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า