สิ้นแล้ว “หลวงปู่ลี” ศิษย์เอกหลวงตามหาบัว พระบวชหน้าไฟหลวงปู่มั่น สิริอายุ 96 ปี

“หลวงปู่ลี กุสลธโร” ศิษย์เอกหลวงตามหาบัว พระบวชหน้าไฟหลวงปู่มั่น ละสังขารด้วยอาการสงบ รวมสิริอายุ 96 ปี 1 เดือน 11 วัน ศิษย์รอสรงน้ำแน่นวัด

วันที่ 3 พ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่า พระอาจารย์วันชัย วิจิตโต เจ้าอาวาสวัดเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์ (วัดป่าภูผาแดง) ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ออกประกาศเรื่อง การมรณภาพของ หลวงปู่ลี กุสลธโร โดยระบุว่า เนื่องด้วยองค์หลวงปู่ลี มีอาการอาพาธด้วยโรคชรา ตั้งแต่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 คณะศิษยานุศิษย์และพระอุปัฎฐากได้ดูแลอย่างใกล้ชิด จนวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 15.15 น. หลวงปู่ลีได้ละสังขารอย่างสงบ ณ ห้องปลอดเชื้อข้างศาลาใหญ่ สิริอายุรวม 96 ปี 1 เดือน 11 วัน (68 พรรษา)

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์ (วัดป่าภูผาแดง) ซึ่งพระอุปัฎฐากและศิษยานุศิษย์ได้นำสรีระสังขารของหลวงปู่ลีออกจากห้องปลอดเชื้อ ขึ้นมาไว้บนศาลาใหญ่ อนุญาตให้พระสงฆ์และศิษยานุศิษย์ที่ทราบข่าวหลวงปู่ลีละสังขาร ที่เดินทางมาที่วัดอย่างไม่ขาดสายขึ้นสรงน้ำ

โดยพระผู้ใหญ่ประชุมตัดสินใจให้ศิษยานุศิษย์คนสุดท้ายสรงน้ำ จึงจะบรรจุสรีระของหลวงปู่ลีเข้าโลงเย็น ทั้งนี้ คำสั่งเสียของหลวงปู่ลีที่ให้ไว้กับคณะศิษย์ฯ ไม่ต้องการจะเก็บสรีระสังขารไว้นาน ให้ดำเนินการตามประเพณี หรือวิถีของพระวัดป่า คาดว่าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จะประกอบพิธีฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ย.นี้

สำหรับประวัติของ หลวงปู่ลี กุสลธโร เป็นพระภิกษุฝ่ายวิปัสสนาธุระ ศิษย์ของพระธรรมวิสุทธิมงคล (บัว ญาณสมฺปนฺโน) ที่หลวงตามหาบัวให้สมญาว่า “ลี รวยธรรม” เป็นหนึ่งในกองทัพธรรม ออกช่วยตั้งโครงการผ้าป่าช่วยชาติ เพื่อบูชาคุณครูอาจารย์ หลังสิ้นหลวงตามหาบัว ท่านได้เริ่มก่อสร้างพุทธมหาเจดีย์ ณ วัดป่าเกสรศีลคุณธรรมเจดีย์ เพื่อเป็นอนุสรณ์แทนองค์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)

หลวงปู่ลี กุสลธโร เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2465 ตรงกับวันอังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ปีจอ ที่บ้านเก่า ต.บ้านเก่า อ.ด่านซ้าย จ.เลย เป็นบุตรของ นายปุ่น และนางโพธิ์ สาลีเชียงพิณ มีพี่น้องร่วมกัน 9 คน สมัยเป็นเด็กพ่อแม่ก็พาทำบุญเหมือนชาวบ้านทั่วๆ ไป อายุได้ 12 ปี เรียนจบชั้น ป.3 พออายุได้ 20 กว่าปี ได้แต่งงานกับนางสาวตี เมื่อภรรยาตั้งท้องแล้วคลอดลูกออกมาเสียชีวิต ท่านได้เกิดความสลดใจเป็นยิ่ง ท่านเล่าว่าการแต่งงานก็มิได้แต่งกันด้วยความรัก แต่งงานกันตามประเพณีที่พ่อแม่บอกให้แต่งกันเท่านั้น ท่านเองไม่เคยมีคนที่รัก และยังไม่เคยรักหญิงใดเลย ท่านอยู่กินกับภรรยาได้ 2 ปี 6 เดือน จึงขอออกบวช เพราะได้ฟังธรรมจากพระกรรมฐานที่เป็นศิษย์ของท่านอาจารย์มั่น ที่เดินธุดงค์มาพักยังป่าแถบหมู่บ้านของท่าน

หลวงปู่ลี อุปสมบทที่วัดศรีโพนเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2493 โดยมีพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อครั้งงานเผาศพพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ได้ฉายานามว่า “กุสลธโร” แปลว่า “พระผู้ทรงไว้ซึ่งความดี” ท่านเป็นพระที่มักน้อย สันโดษ ถือความเคารพครูบาอาจารย์เป็นสิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด