สุดสลด ! ยายป่วยอัมพาต นอนเฝ้าศพลูกชาย 7 วัน โดยไม่มีข้าวตกถึงท้อง

เกิดเหตุเศร้าสลดคุณยายวัย 84ปี ป่วยเป็นอัมพาตนอนเฝ้าศพลูกชายเสียชีวิตนานกว่า 7วัน โดยไม่มีข้าวตกถึงท้อง ศพส่งกลิ่นรุนแรงและมีหนอนไช ล่าสุดแพทย์ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด

เมื่อเวลา 19.50 น. วันที่ 14 พ.ค. 60 “ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์” รายงานว่า ร.ต.อ.ราชินทร์  สีลับสี รองสารวัตรสอบสวน สภ.วารินชำราบ รับแจ้งจากศูนย์ 191 วารินชำราบ หลังพลเมืองดีแจ้งเหตุต้องสงสัย มีผู้เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 117 หมู่บ้านเทพฤทธิ์ ซ.เทศบาล 29 ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี  จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น พร้อมประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบูชาธรรม เข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถว 2 ชั้น มีชาวบ้านกว่า 20 คน ยืนรอเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ภายในบ้านเปิดไฟและพัดลมทิ้งไว้ ประตูเหล็กหน้าบ้านถูกปิดล็อกจากภายในอย่างมิดชิด มีกลิ่นเหม็นคล้ายซากศพโชยออกมาอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยพยายามเรียกนานกว่า 10 นาที ไม่มีการตอบรับจากผู้อาศัยภายในบ้าน และไม่มีผู้ใดพบเห็นคนในบ้านมานานกว่า 1 สัปดาห์

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยตัดสินใจพังประตูเข้าไป พบนางเฮียะ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 84 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 ซอยเทศบาล 29 ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ผู้ป่วยอัมพาต นอนลืมตา หายใจเบา อยู่บนเตียงนอนติดประตู จึงได้ปฐมพยาบาลและส่งต่อให้กับหน่วยกู้ชีพ โรงพยาบาลวารินชำราบดูแล ส่วนด้านล่างเตียงพบร่างของ นายสุทธิสิทธิ์ กิตติไพสิฐ อายุ 50 ปี ลูกชายของนางเฮียะ สภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมผ้าขาวม้าผืนเดียว ร่างกายเริ่มเน่า มีหนอนไชตามร่างกาย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 7 วัน

สอบถาม นางทอง อสิรุจจินดา อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115 หมู่บ้านเทพฤทธิ์ ซ.เทศบาล 29 ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าวอยู่ด้วยกัน 2 คน แม่ลูก แม่คือนางเฮียะ ป่วยเป็นอัมพาต มีลูกชายคือนายสุทธิสิทธิ์ คอยให้การดูแลอยู่ตลอด แต่เมื่อประมาณอาทิตย์ก่อนไม่เห็นนายสุทธิสิทธิ์ออกมาจากบ้าน แต่ก็ไม่ได้สนใจ

ต่อมาเริ่มได้กลิ่นเหม็นเน่า ตนเองก็คิดว่าเป็นหนูตายอยู่หน้าบ้านของนายสุทธิสิทธิ์ จึงได้หาน้ำมาล้าง แต่ก็ไม่หาย จนวันนี้กลิ่นรุนแรงมาก จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ก็พบว่านายสุทธิสิทธิ์เสียชีวิต โดยที่นางเฮียะยังนอน ไม่ได้ทานอะไรมานานกว่า 1 อาทิตย์

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยรอบ ไม่พบร่องรอยของการต่อสู้หรือทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้น เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด ต้องรอการสอบสวนจากญาติอีกครั้งว่า นายสุทธิสิทธิ์มีโรคประจำตัวใดหรือไม่ พร้อมทั้งมอบศพให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งแผนกนิติเวช โรงพยาบาลวารินชำราบ เพื่อให้แพทย์ชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป