
ภาพจาก เพจ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan
คุณหญิงสุดารัตน์ โพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียล กระทรวงกลาโหม มีงบประมาณกว่า 2 เเสนล้านบาท หากลดลง 10 % ก็มีเงินถึง 2 หมื่นล้าน นำมาสร้างอาชีพให้กับ ปชช.
วันที่ 18 ก.พ. 62 เมื่อเวลา 16.29 น. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เเกนนำพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความ ผ่านเพจเฟซบุ๊กของตน ถึงความจำเป็นที่ต้องลดงบกระทรวงกลาโหม ให้เหมาะสมกับความจำเป็นของประเทศ ซึ่งปัจจุบันกระทรวงดังกล่าวมีงบประมาณปีละกว่า 2 แสนล้านบาท หากลดลง 10 % ก็ได้งบถึง 2 หมื่นล้านบาท นำช่วยเหลือสร้างโอกาส สร้างอาชีพ ให้กับประชาชนจำนวนมาก
ซึ่งโพสต์ดังกล่าว มีข้อความทั้งหมดดังนี้ “รู้สึกเป็นห่วงวิธีคิดของ ผบ.ทบ. ที่ถือเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ของประเทศ ทีมีท่าทีอ่อนน้อมอย่างยิ่งกับคนที่เสนอตัวเป็นแคนดิเดทนายกในการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่มีที่มาจากการรัฐประหาร แต่แข็งกร้าวกับคนที่เสนอตัวมาเป็นตัวแทนประชาชนตามครรลองประชาธิปไตยแบบไร้เส้น ทั้งที่โดยสถานะ ผบ.ทบ. ต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง
“ถ้าจะต้องให้บอกว่า จะเพิ่มงบให้ กห. จากแสนกว่าล้านบาท เป็นสองแสนกว่าล้านบาท แบบที่รัฐบาลนี้ทำ จึงจะเป็นคนไม่หนักแผ่นดินในสายตา ผบ.ทบ.
“ดิฉันจะขอยืนยันในความถูกต้อง ที่ได้เสนอขอปรับลดงบ กห. ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศในปัจจุบัน ที่ประชาชนคนส่วนใหญ่กำลังเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส กับปัญหาปากท้อง และในเวลานี้ ยังไม่ปรากฏภัยคุกคามทางความมั่นคงของประเทศ ถึงขั้นจะต้องใช้กำลังคน และอาวุธยุทโธปกรณ์มากไปกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน
“ดิฉันขออนุญาตพูดอีกครั้งหนึ่ง เผื่อผู้มีอำนาจจะฟังบ้าง เราเสนอให้ลดงบประมาณลงเพียง 10% ในส่วนที่ใช้ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่เราเห็นว่า ไม่มีความจำเป็นต้องซื้ออย่างมากมายในสภาวะที่เศรษฐกิจของประเทศที่แย่อย่างทุกวันนี้
“เราชวนกลาโหมให้มาช่วยกันสร้างโอกาส สร้างรายได้ให้กับคนรุ่นใหม่ และประชาชนคนตัวเล็กๆ ในภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำและตำแหน่งงานน้อยลง งานหายากขึ้น และคนจะตกงานมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ จากภาวะเศรษฐกิจ และความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เข้ามากระทบต่ออาชีพต่างๆ ซึ่งเราต้องเตรียมความพร้อมให้กับประชาชนคนไทยและเด็กรุ่นใหม่ของเรา

ภาพจาก กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย
“งบประมาณที่ขอแบ่งมา 10% นี้เป็นจำนวน เพียง 20,000 ล้านบาท จากงบประมาณ กห. ทั้งหมด กว่า 200,000 ล้านบาท จะเอามาช่วยคนรุ่นใหม่ให้มีอาชีพ ได้เป็นเจ้าของธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเด็กรุ่นใหม่ และประชาชนได้ มากกว่า 30,000 คน ต่อปีซึ่งเป็นการให้โอกาสคนรุ่นใหมได้มาเป็นกำลังในการผลิตและสร้างรายได้ให้กับประเทศ
“ทหารและงบประมาณทหารมีความจำเป็น แต่ควรใช้เท่าที่จำเป็น และใช้ให้มีประสิทธิภาพต่อการพัฒนากำลังพลและศักยภาพของกองทัพ
“การเสนอให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ให้ใช้ระบบสมัครใจเข้ารับราชการ จะ เป็นการพัฒนาบุคลากรที่เข้ารับราชการทหารเพราะได้เข้ามาด้วยความเต็มใจก็จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งจะใช้งบประมาณน้อยกว่า
เรายืนยันว่างบประมาณส่วนที่ขอแบ่งมาจากงบซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เพียง 10% นี้จะไม่กระทบต่อการดูแลรายได้ และสวัสดิการของกำลังพล ตรงกันข้ามเรากลับมองว่า เราควรจะสนับสนุนในการเพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการของทหารชั้นผู้น้อย เพื่อให้เขามีคุณภาพชีวิตดีขึ้น สมกับความเสียสละของเขาที่ถือเป็นเหล่าทหารกล้า
โดยส่วนตัวดิฉันชื่นชมทหารที่เป็นทหารอาชีพ เพราะเขาเหล่านั้นเป็นผู้เสียสละในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และสนับสนุนให้ทหารอาชีพเหล่านี้ได้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี และมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ดิฉันไม่ชื่นชมทหารที่มาทำรัฐประหารยึดอำนาจจากประชาชน
https://www.facebook.com/sudaratofficial/posts/2067649283313854