สุเทพ คารวะแผ่นดินชัยภูมิ ย้ำจุดยืน ไม่ร่วม รบ.กับพรรคเครือข่ายทักษิณ เด็ดขาด

สุเทพฯ นำคณะเดินคารวะแผ่นดินขอเสียงชาวชัยภูมิเป็นวันที่ 86 เป็นจังหวัดที่ 76 ของประเทศ ก่อนใกล้ถึงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้ง 24 มี.ค. 62 นี้ ยันจุดยืนพรรครวมพลังประชาชาติไทย จะไม่ขอร่วม รบ.กับพรรคเครือข่ายทักษิณเด็ดขาด

ขณะบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งที่ใกล้ถึงโค้งสุดท้าย เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 21 ก.พ. 62 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย นำคณะผู้สมัครของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ทั้ง 6 เขตเลือกตั้ง ประกอบด้วย เขต 1 ได้หมายเลข 5 นายสถิต  ชนะชัย , เขต 2 ได้หมายเลข 19 นายอุดม ลีหัวสระ , เขต 3 ได้หมายเลข 18 นายคำผัส ศรีเสริมวงค์ , เขต 4 ได้หมายเลข 16 นางสาวศิริกาญน์  เพชรล้ำ , เขต 5 ได้หมายเลข 20 นายชวลิต เหล่าอูด และเขต 6 ได้หมายเลข 21 นายบุญฤทธิ์ บุสทิพย์ ร่วมกันทำพิธีกราบสักการะอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล เจ้าเมืองคนแรก ผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิ ย่านกลางใจเมืองชัยภูมิ เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้

ภาพจากเพจ พรรครวมพลังประชาชาติไทย – ACT Party

ก่อนพาคณะผู้สมัครเดินคารวะแผ่นดิน ไปย่านตลาดสดเทศบาลเมืองชัยภูมิ เพื่อแนะนำตัวผู้สมัครของพรรคไปทั่วเมืองตามถนนสายต่างๆ ระยะทางรวมยาวกว่า 3 กม. จนถึงเวลา 13.00 น. วันเดียวกันก่อนที่จะเดินทางต่อไปช่วยเดินคารวะแผ่นดินเพื่อช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงที่ต่อไป ที่ อ.บ้านเขว้า ในเขตเลือกตั้งที่ 2 และไปต่อที่ อ.แก้งคร้อ และเขต อ.บ้านแท่น ในเขตเลือกตั้งที่ 6 ของจ.ชัยภูมิ จนถึงช่วงเย็นก่อนเดินทางกลับ

โดยครั้งนี้นายสุเทพฯ กล่าวว่า การเดินคารวะแผ่นดินไปทั่วประเทศมาต่อเนื่อง จนมาถึงที่ จ.ชัยภูมิ ครั้งนี้เป็นจังหวัดที่ 76 และอยากให้ประชาชนชาวชัยภูมิ ช่วยพากันออกมาเลือกตั้งสนับสนุนพรรครวมพลังประชาชาติไทยกันให้มากๆ

ซึ่งทุกคะแนนเสียงมีส่วนสำคัญในการที่จะร่วมกันออกมาปฏิรูปประเทศให้ไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น ตามนโยบายของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่จะมุ่งเน้นไปในเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน ที่กำลังซบเซาหนัก ทั้งทางการเสริมเสริมอาชีพการเกษตร แรงงาน ที่จะต้องเร่งแก้ไขให้พืชผลมีราคา คนมีงานทำที่มั่นคงมากขึ้น

รวมทั้งการส่งเสริมการศึกษาเรียนฟรีจนมีงานทำ และในส่วนระบบ กยศ. เงินกู้ยืมนักศึกษา ที่ต่อไปจะไม่ต้องมีคนค้ำนักศึกษาสามารถกู้ยืมได้โดยตรง เมื่อมีงานทำก็จะหักจากบัญชีรายได้ของแต่ละคนได้โดยตรงทันที ที่ไม่อยากให้ภาพครูอาจารย์ที่ไปค้ำให้ถูกฟ้องร้องตามมาอีก รวมทั้งในเรื่องสิทธิการรักษาพยายาลที่จะต้องเกิดความชัดเจน มีคุณภาพอย่างเท่าเทียบกันมากขึ้นในทั่วประเทศ

และในส่วนจุดยืนทางการเลือกตั้งครั้งนี้ของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ยังขอยืนยันว่าพร้อมที่จะร่วมรัฐบาลกับทุกพรรคที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ซึ่งไม่ใช่พรรคที่มาจากเครือข่ายระบอบทักษิณ ที่แตกย่อยจากแบงค์พัน เป็นแบ๊งค์ร้อยแตกย่อยไปอีกหลายพรรค ในขณะนี้ที่ทุกคนน่าจะทราบกัน อย่างไรก็ไม่สามารถมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลกันได้ ไม่ได้เด็ดขาด หลังที่วันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ประชาชนชาวไทยทุกคนคงได้ทราบแล้ว