SHARE

คัดลอกแล้ว

การจัดสรร ส.ส. ตามสูตรของ กกต. ส่งผลให้เกิดเสียงตกน้ำกว่า 1.5 ล้านเสียง โดยพรรคอนาคตใหม่มีเสียงตกน้ำมากที่สุดกว่า 5.6 แสนเสียง รองลงมาคือพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐ ที่เสียงตกน้ำพรรคละมากกว่า 2 แสนเสียง  ส่วนพรรคขนาดเล็กที่คำนวณ ส.ส. พึงมีได้น้อยกว่าหนึ่ง เสมือนว่าพรรคเหล่านี้ได้เสียงโหวตมาฟรีๆ รวมกัน 2.3 แสนเสียง

หลังจากที่ กกต. ได้ประกาศผลเลือกตั้ง ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์อย่างเป็นทางการจำนวน 149 คน ก็ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย โดยเฉพาะจากฝั่งพรรคการเมืองที่หลายพรรคมีความเห็นว่าสูตรคำนวณดังกล่าวไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ อีกทั้งยังทำให้คะแนนโหวตของบางพรรคตกน้ำเป็นจำนวนมาก

ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ทำการคำนวณ “เสียงโหวตที่ตกน้ำ” จากการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยอิงคะแนนทั้งหมดจากผลการเลือกตั้ง ส.ส. อย่างเป็นทางการที่ทาง กกต. ประกาศเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา  โดย “เสียงตกน้ำ” ในที่นี้ หมายถึงคะแนนโหวตที่พรรคการเมืองได้รับ แต่คะแนนดังกล่าวกลับไม่ถูกแปลงไปเป็น ส.ส. ให้กับพรรคการเมืองดังกล่าว

ยกตัวอย่างเช่น พรรคพลังประชารัฐได้คะแนนโหวตจากทั่วประเทศ (เฉพาะ 349 เขตที่รับรองผลแล้ว) ทั้งสิ้น 8,413,413 เสียง  แต่ได้ ส.ส. รวมทั้งสิ้นเพียง 115 คน  ดังนั้นเมื่อคำนวณย้อนสูตรกลับไปจะพบว่า ส.ส. 115 คนนั้น เสมือนกับว่าได้เสียงโหวตทั้งสิ้น 8,184,379 เสียง [115 x 71,168.5141 (คะแนนโหวตเพื่อให้ได้ ส.ส. พึงมี 1 คน)]  ฉะนั้นแล้ว การที่พรรคพลังประชารัฐ ได้ ส.ส. เพียง 115 คน ทั้งที่ได้เสียงโหวตจริงกว่า 8.4 ล้านเสียง ก็เท่ากับว่าเสียงของผู้ที่โหวตให้พรรคพลังประชารัฐตกน้ำหายไปกว่า 2.29 แสนเสียง

ทั้งนี้ จากการคำนวณด้วยวิธีคิดข้างต้น พบว่าพรรคที่มีเสียงโหวตตกน้ำมากที่สุดคือพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากพรรคอนาคตใหม่ได้เสียงโหวตทั้งสิ้น 6.25 ล้านเสียง  แต่ตัวเลข ส.ส. 80 คนที่พรรคอนาคตใหม่ได้มาเทียบได้กับการได้เสียงโหวตเพียง 5.69 ล้านเสียงเท่านั้น ดังนั้นจึงเทียบได้ว่าเสียงของผู้ที่โหวตให้พรรคอนาคตใหม่ตกน้ำไปกว่า 5.61 แสนเสียง

และโดยรวมแล้ว เสียงโหวตจากทุกพรรคการเมืองที่มีเสียงตกน้ำทั้งสิ้น 12 พรรค มีเสียงตกน้ำไปรวมกันทั้งสิ้น 1,557,172 เสียง

อย่างไรก็ตาม นอกจากเสียงตกน้ำแล้ว สูตรการคำนวณของ กกต. ยังทำให้บางพรรคการเมืองเสมือนว่าได้เสียงโหวตไปฟรีๆ ด้วย เช่นกรณีของพรรคไทยรักธรรม ซึ่งได้เสียงโหวตจริงเพียง 33,754 เสียง แต่ว่าสุดท้ายแล้วได้ ส.ส. 1 คน ซึ่งเทียบได้กับการมีเสียงสนับสนุน 71,169 เสียง  ดังนั้นจึงเหมือนประหนึ่งว่าพรรคไทยรักธรรม ได้เสียงโหวตมาฟรีๆ 37,415 เสียง

และโดยรวมแล้ว 11 พรรคการเมืองที่คำนวณ ส.ส. พึงมีเบื้องต้นได้น้อยกว่า 1 (11 พรรคล่างสุดในตาราง) เสมือนว่าได้คะแนนโหวตไปฟรีๆ รวมกัน 234,651 เสียง

ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ไม่ถือว่ามีเสียงตกน้ำหรือว่าได้เสียงฟรี เนื่องจาก ส.ส. ทั้ง 136 คนที่พรรคเพื่อไทยได้เป็น ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งทั้งหมด ฉะนั้นแล้วจึงไม่ได้รับผลกระทบจากสูตรการคำนวณของ กกต.

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า