Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

พลันที่ปี่กลองทางการเมืองดังขึ้น สัญญาณเลือกตั้งตามโรดแมป ได้รับการตอกย้ำจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ว่าจะมีขึ้นอย่างแน่นอนในช่วงต้นปีหน้า

ชื่อของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ถูกจับตามองเป็นพิเศษ คราวนี้ไม่ใช่แต่เฉพาะในเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ แต่ในทางการเมืองเขาก็ถูกจับตามองแทบทุกฝีก้าว ในฐานะข้อต่อ – มือประสานสิบทิศ ระหว่าง คสช.กับกลุ่มธุรกิจและการเมืองต่างๆเพื่อปูทางไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลในสมัยต่อไป

2 ครั้ง 2 ครา ที่สมคิดเปิดใจทางการเมือง นอกเขาจะเอ่ยปากหนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี สมคิดยังใช้โอกาสพูดถึงการเมืองในอุดมคติ ที่ปลอดจากการใส่ร้ายป้ายสี สู้กันด้วยการแข่งขันเชิงนโยบาย มีคนเก่ง คนดีให้ประชาชนได้เลือก ที่สำคัญมีคนรุ่นใหม่ไฟแรงอาสาเข้ามาทำงานทางการเมืองให้กับประเทศ

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี

“ผมไปคุย ไปประชุมกับหลายประเทศ เดี๋ยวนี้รัฐมนตรีเขาเป็นคนหนุ่ม อายุน้อยแค่ 40 ต้นๆ อย่างเกาหลีใต้  สิงคโปร์ รัฐมนตรีของเขาอายุน้อย มีความสามารถ ภาษาดี ความคิดดี ผมว่าถึงเวลาที่ประเทศเราจะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานทางการเมืองบ้าง”

เมื่อนักข่าวถามถึงอนาคตทางการเมืองว่า ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกฯในสมัยหน้า จะยังคงช่วยนายกฯทำงานมั้ย สมคิดกลับตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ บางครั้งก็บอกว่าเป็นเรื่องของอนาคต บางครั้งก็บอกว่าเขาอายุมากแล้วปีนี้ก็ 65 แต่ก็มี “ลูกน้อง” เยอะแยะเต็มไปหมดเลย อายุของลูกน้องก็อยู่ในช่วง 50 ปี แล้วเคยบอกด้วยว่าวันหนึ่งถ้าตนวางมือ (ทางการเมือง) พวกนี้ก็ต้องก้าวเข้ามาทำงานต่อ

คำตอบของสมคิดทำให้เข้าใจได้ว่า ไม่ว่าเขาจะวางมือทางการเมืองหรือไม่ แต่สมคิดก็มีการวางทายาททางการเมืองเอาไว้แล้ว และไม่ได้มีเพียงคนเดียวแต่มีหลายคน “คนหนุ่ม” ที่อยู่ในวัยอายุ 40 – 50 ปี ที่เขาพร้อมจะสนับสนุนให้ก้าวขึ้นมาทำงานทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับการผลักดันให้หลายคนที่เคยทำงานด้วยกันขึ้นชั้นมาเป็นรัฐมนตรีในทีมเศรษฐกิจในรัฐบาลปัจจุบัน

กลุ่มคนหนุ่มที่อยู่ในเครือข่ายและทีมงานรอบตัวของสมคิดที่อาจกลายเป็นทายาททางการเมืองของ มีอยู่ด้วยกันหลายคน แต่ละคนได้รับบทบาทที่แตกต่างกันไป บางคนก็เป็นรัฐมนตรี บางคนเคยอยู่ในทีมที่ปรึกษา บางคนอยู่ในแวดวงการศึกษาและเศรษฐศาสตร์แถวหน้า ขณะที่บางคนก็เป็นผู้บริหารระดับสูงหน่วยงานชั้นนำ และนั่งอยู่ในบอร์ดระดับชาติ

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนายกรัฐมนตรี, กรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ และโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ

คนแรกที่ต้องพูดถึงก็คือ ณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ หลานชายแท้ๆของรองนายกฯสมคิด เขาเป็นลูกชายของ ดร.สม จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรมว.พาณิชย์ ที่ปัจจุบันเป็นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และเป็นพี่ชายของสมคิด

ณัฐพร เริ่มเส้นทางสายการเมืองตั้งแต่ปี 2557 ในตำแหน่งที่ปรึกษา รมว.กระทรวงพาณิชย์ ก่อนที่จะได้รับมอบหมายจากสมคิดให้รับหน้าที่โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ทำหน้าที่แถลงข่าว ครม.ด้านเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนายกรัฐมนตรี และกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ สั่งสมประสบการณ์ทางการเมืองในรั้วทำเนียบพอสมควรแล้ว เป็นไปได้ที่จะถูกส่งลงสนามทางการเมืองในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

คนต่อมาคือ กอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันรับผิดชอบงานสำคัญจากนายกรัฐมนตรีในการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เขาเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนขยับขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในการปรับ ครม.ครั้งล่าสุด ด้วยประสบการณ์ในแวดวงการเงินการธนาคาร ทั้งธนาคารพาณิชย์ และธนาคารแห่งประเทศไทย จึงน่าจะมีบทบาทสำคัญใน ครม.เศรษฐกิจหลังการเลือกตั้งสมัยหน้า

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และ นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม

อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ถูกวางตัวเป็นว่าที่หัวหน้าพรรคประชารัฐ กำลังขับเคลื่อนงานสำคัญอย่างเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) นอกจากเป็น รมว.กระทรวงสำคัญ ตั้งแต่อดีต อุตตมคือขุนพลคู่กายสมคิดตั้งแต่สมัยรัฐบาลไทยรักไทย เขาเปรียบเสมือนมือขาวของสมคิดที่ทำงานทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง รวมทั้งเคยเป็นที่ปรึกษาและผู้ช่วยรัฐมนตรีของสมคิดมาก่อน

แน่นอนว่าหากสมคิดวางมือและมอบหมายให้เดินหน้าสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ย่อมหนีไม่พ้นที่อุตตมจะต้องทำงานทางการเมืองในสมัยหน้า

หากอุตตม เป็นมือขาว สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ว่าที่เลขาธิการพรรคประชารัฐ ก็เปรียบเสมือนมือซ้ายของสมคิด สนธิรัตน์กับสมคิดมีปูมหลังร่วมกันเนื่องจากร่วมกันทำงานขับเคลื่อนภาคประชาชนที่มูลนิธิสัมมาชีพ โดยสนธิรัตน์เป็นประธานกรรมการบริหารมูลนิธิสัมมาชีพ ขณะที่สมคิดเป็นที่ปรึกษามูลนิธิ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์

สนธิรัตน์ ยังผ่านการทำงานในคณะอนุกรรมการคณะทำงานพัฒนาเศรษฐกิจและทุนชุมชน สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) จึงสามารถนำประสบการณ์มาใช้ในการทำงานทางการเมืองภาคประชาชนและเศรษฐกิจฐานราก ที่ผ่านมาก็มีผลงานให้เห็นในการทำตลาดประชารัฐ ตลาดชุมชนทั่วประเทศ ผลงานเข้าตาจนนายกฯเลื่อนตำแหน่งจาก รมช.พาณิชย์ เป็น รมว.พาณิชย์

นอกจากมูลนิธิสัมมาชีพที่เป็นศูนย์รวมของเครือข่ายภาคประชาชน สมคิดยังมีขุนพลคนรุ่นใหม่อยู่ในแวดวงอื่นๆ ที่สามารถที่จะเรียกมาใช้สอยช่วยทำงานทางการเมืองได้ในอนาคต  โดยบางคนก็เป็นคนที่ทำงานร่วมกับสมคิดที่กระทรวงการคลังมาตั้งแต่เมื่อ 15 ปีก่อน

มูลนิธิสถาบันอนาคตไทยศึกษา (Thailand Future Foundation) ที่เขาเคยเป็นประธานคณะกรรมการมูลนิธิสถาบันและมีส่วนในการก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2555  เป็นอีกแห่งที่มีขุนพลคนหนุ่มในสเป็กที่สมคิดอยากได้มาช่วยงานทางการเมือง 

นอกจากสถาบันนี้จะมีงานวิจัยออกมาสู่สังคมอยู่เนืองๆยังเป็นที่รวมตัวกันของคนระดับมันสมองของประเทศ อย่าง “ด็อกเตอร์นก” เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ประธานคณะกรรมการบริหาร สถาบันอนาคตไทยศึกษา นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังที่ปัจจุบัน เป็นกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)

ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน)

อีกคนหนึ่งคือ “ดอกเตอร์ออฟ”  นิตินัย ศิริสมรรถการ ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่บริษัทท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เขาเคยทำงานอยู่ในสถาบันอนาคตไทยศึกษาในตำแหน่งกรรมการและเลขานุการผู้อำนวยการสถาบันก่อนที่จะลาออกไปรับตำแหน่งอื่น ซึ่งจากประสบการณ์ของทั้งสองคนหากว่างเว้นจากตำแหน่งอื่นก็อาจถูกทาบทามมารับตำแหน่งทางการเมืองได้เช่นกัน

ส่วนคนในแวดวงการศึกษาและเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่น่าจับตาอีกคนหนึ่งที่อยู่ในข่ายที่สมคิดจะใช้งานในทางการเมืองก็คือ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ชื่อของเขาเคยปรากฎอยู่ในทำเนียบที่ปรึกษาเศรษฐกิจของสมคิดในช่วงปี 2558

ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, กรรมการและโฆษกของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

ทุกวันนี้ชื่อของธนวรรธน์ไม่ได้ปรากฎอยู่แค่ข่าวการแถลงข่าวของหอการค้าเท่านั้นแต่ ยังเป็นกรรมการและโฆษกของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และในช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมานี้เอง ธนวรรธน์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรักษาการผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนใน กยท.รวมถึงการแก้ปัญหายางพาราตกต่ำ อย่างไรก็ตามเขาตัดสินใจลาออกและเปิดทางให้ เยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ กรรมการ กยท.ขึ้นมาเป็นผู้ว่าการยางฯแทน

 ไม่เพียงแต่วางคนในทางการเมือง สมคิดยังวางคนในระดับกระทรวงเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในกระทรวงการคลังที่ล่าสุดได้ขยับตำแหน่งดาวรุ่งพุ่งแรงของกระทรวงอย่าง ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ จากผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ไปเป็นอธิบดีกรมสรรพากร เรียกได้ว่าขยับขึ้นตำแหน่งอธิบดีกรมจัดหารายได้ เหมือนกับที่เคยขยับกุลิศ สมบัติศิริ จาก ตำแหน่ง ผอ.สคร.ไปเป็นอธิบดีกรมศุลกากร เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งทั้งสองคนนี้อยู่ในไลน์ที่จะก้าวขึ้นไปเป็นปลัดกระทรวงการคลังในอนาคต

แม้ในทางการเมืองจะเต็มไปด้วยการต่อรองและเจรจา แต่การวางตัวทายาทและจัดทัพทีมทำงานให้พร้อมสรรพ ถือว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการทำงานทางการเมือง หากสามารถกำหนดคนที่เหมาะกับงาน ใช้เครือข่าย – คนใกล้ชิด ที่รู้มือกันดี ก็จะเอื้อให้สามารถทำงานหลังเลือกตั้งได้ทันทีอย่างต่อเนื่อง

..ปั้นคนรุ่นใหม่ไว้ทำงานให้บ้านเมือง บางทีก็ดีกว่าการใช้แต่พลังดูดทางการเมืองไม่ใช่หรือ?

  • บทความโดย : รุจน์ รฐนนท์

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า