เลือกตั้ง 62 : รายละเอียดครบถ้วน! เปิดไทม์ไลน์เลือกตั้ง 24 มีนาคม รู้ผลวันไหน ได้นายกวันไหน

https://www.facebook.com/WorkpointNews/videos/305615833464196/?v=305615833464196

หลังจาก กกต. ประกาศวันเลือกตั้งออกมาแล้ว ว่าจะจัดขึ้นในวันที่ 24 มี.ค. ทำให้ไทม์ไลน์การเลือกตั้งชัดเจนขึ้น โดย กกต. ได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะประกาศผลการเลือกตั้งให้ทันภายใน 9 พ.ค. และจะส่งผลให้สามารถเปิดประชุมสภาครั้งแรกได้ภายในปลายเดือน พ.ค. นี้

วันนี้ในช่วงเช้า ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศ “พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562” แล้ว นั่นทำให้การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และในช่วงบ่าย ทาง กกต. ได้ออกมาแถลงประกาศวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการว่าจะจัดขึ้นในวันที่ 24 มี.ค. 2562

ความชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้งดังกล่าว ทำให้ไทม์ไลน์การเลือกตั้งโดยรวมชัดเจนขึ้น โดยคาดว่าในอีกประมาณสองสัปดาห์ คือช่วงสัปดาห์ที่ 4-8 ก.พ. 2562 จะเป็นช่วงเปิดสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งผู้สมัคร ส.ส. เขตทุกคนของทุกพรรคจะต้องสมัครในช่วงนี้ และจะเป็นช่วงที่เราได้รู้เบอร์ของผู้สมัครแต่ละคน ได้เห็นผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อของทุกพรรคและเห็นแคนดิเดตนายกฯ จากแต่ละพรรคด้วย

โดยในช่วงเวลาระหว่างนี้ พรรคการเมืองต่างๆ มีเวลาอีกทั้งสิ้น 60 วัน ในการหาเสียงถึงช่วงเย็นของวันเสาร์ที่ 23 มี.ค. 2562

และหลังการเลือกตั้ง แม้ว่าตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ทาง กกต. จะมีเวลาอีก 60 วันในการประกาศผลการเลือกตั้ง แต่ทางประธาน กกต. ก็เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะประกาศผลการเลือกตั้งให้ได้ภายในวันที่ 9 พ.ค. เพื่อเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายที่อาจจะเกิดขึ้นและอาจทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโฆษะ ฉะนั้นแล้วถ้ายึดตามกรอบเวลานี้ ทาง กกต. ก็มีเวลาเพียง 46 วันหลังการเลือกตั้ง ในการประกาศรับรองผล

และหลังจากที่ กกต. ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว ภายในวันที่ 11 พ.ค. 2562 เราก็จะได้เห็นรายชื่อวุฒิสภาทั้ง 250 คน เนื่องจาก พรป.การได้มาซึ่ง ส.ว. ได้กำหนดไว้ในบทเฉพาะการว่า คสช. ต้องเลือก ส.ว. ให้แล้วเสร็จภายใน 3 วันนับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.

ส่วนการเปิดประชุมสภาครั้งแรก ต้องเกิดขึ้นไม่ช้ากว่าวันที่ 23 พ.ค. 2562 เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ได้กำหนดไว้ในมาตรา 121 ให้มีการเรียกประชุมสภาครั้งแรกภายใน 15 วัน นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง

ส่วนนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดใหม่นั้น กฎหมายไม่ได้กำหนดกรอบเวลาไว้ ว่าจะต้องได้นายกฯ คนใหม่ และรัฐบาลชุดใหม่เมื่อไหร่ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะดำรงนายกรัฐมนตรีไปจนกระทั่งทั้งสองสภา (ส.ส. และ ส.ว.) สามารถโหวตเลือกนายกฯ คนใหม่ได้สำเร็จ