‘หนองคาย’ ยึดเครื่องสำอางเถื่อน ลอบขนข้ามโขงเข้าไทย มูลค่านับล้าน

ศุลกากรหนองคาย พร้อมทหาร รวบ 2 หนุ่ม ลอบขนกระสอบเครื่องสำอาง ไร้ อย. ซุกเรือเข้าไทย หลังขนข้ามแม่น้ำโขงฝั่งลาวมาส่งลูกค้า มูลค่ารวมภาษีนับล้านบาท เตือนเครื่องสำอางไม่มี อย. อันตราย

วันที่ 5 ก.พ. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. ที่อาคารคลังสินค้า ด่านศุลกากรหนองคาย นายสมบัติ ฆ้อนทอง หัวหน้าฝ่ายปราบปรามทางศุลกากรหนองคาย, พันเอกประภาส อ้อชัยภูมิ รองผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำ จ.หนองคาย (รองผบ.กกล.รส.จ.หนองคาย) พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากร และทหาร ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายสุพจน์ ตันนารัตน์ อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 230 หมู่ 3 ต.หินโงม อ.เมืองหนองคาย และ นายธนวัฒน์ วิเศษสุนทร อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 214 หมู่ 11 ต.หนองกอมเกาะ อ.เมืองหนองคาย พร้อมของกลางเครื่องสำอางประเภทครีมทาหน้า 40 กระสอบ รถกระบะซูซูกิ แครี่ สีขาว ทะเบียน บธ 7392 หนองคาย และเรือยนต์ 1 ลำ มูลค่าของกลางเฉพาะเครื่องสำอางรวมภาษีประมาณ 1 ล้านบาท

นายสมบัติ ฆ้อนทอง หัวหน้าฝ่ายปราบปรามทางศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศุลกากร ทราบว่า จะมีการลักลอบนำสินค้าลักลอบหนีภาษีศุลกากรจากประเทศเพื่อนบ้านโดยทางเรือ มาขึ้นฝั่งที่บ้านปะโค ต.ปะโค อ.เมืองหนองคาย จึงประสานทหารและนำกำลังไปตรวจสอบ ก็พบผู้ต้องหาทั้งสองคนกำลังช่วยกันขนกระสอบสิ่งของขึ้นจากเรือมาใส่รถกระบะ เจ้าหน้าที่แสดงตัวและตรวจสอบ พบว่าภายในกระสอบเป็นเครื่องสำอางประเภทครีมทาหน้าผลิตจากประเทศเวียดนาม รวม 40 กระสอบ

จากการสอบถามทั้งสองคนให้การว่า มีแม่ค้าคนลาว ชื่อ จันทร์ ว่าจ้างให้ทั้งสองคนนำสินค้ามาส่งให้กับลูกค้าคนไทยที่หนองคาย จำนวน 3 เที่ยว จะได้เงินค่าจ้างขนเที่ยวละ 3,000 บาท โดยกำลังขนเที่ยวแรกก็มาเจอเจ้าหน้าที่เสียก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยขนสินค้าข้ามประเทศมาแล้วหลายครั้ง มีสินค้าหลายประเภทที่ลักลอบนำเข้าประเทศ

นายสมบัติ ฆ้อนทอง หัวหน้าฝ่ายปราบปรามทางศุลกากรหนองคาย กล่าวเพิ่มเติมว่า เครื่องสำอางประเภทนี้ไม่ผ่านการรับรองจาก อย. ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ขอเตือนประชาชนระมัดระวังการซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐาน คาดว่าเครื่องสำอางเหล่านี้จะไปวางขายตามตลาดนัด โดยหลังจากนี้จะส่งตัวอย่างให้คณะกรรมการ อย.ตรวจสอบว่ามีสารปนเปื้อนอันตรายหรือไม่ และยึดของกลางทั้งหมดไว้ดำเนินการตามกฎระเบียบศุลกากร ส่วนผู้ต้องหาทั้งสองคนถูกตั้งข้อหา ลักลอบนำของต้องห้ามเข้าประเทศ