นายกรัฐมนตรี ยืนยัน สนับสนุนให้บุคลากรของศาลยุติธรรม ย้ายออกไปสร้างที่พักใหม่ หลังคนในพื้นที่ชุมนุมทวงสัญญาให้รื้อถอนโครงการบ้านพักตุลาการ เชิงดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่
วันนี้ (27 ส.ค. 61) พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการชุมนุมทวงสัญญาให้รื้อบ้านพักตุลาการเชิงดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ ของตัวแทนเครือข่ายด้านอนุรักษ์ป่าและสิ่งแวดล้อมครั้งล่าสุดว่า เรื่องดังกล่าวมีความชัดเจนก่อนหน้านี้แล้ว โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) มีมติมอบหมายให้สำนักงานศาลยุติธรรม ทำความตกลงขอใช้ที่ดินจากกรมวิชาการเกษตร บริเวณศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 พร้อมที่พักอาศัย และทำเรื่องของบประมาณจากรัฐบาลต่อไป
สำหรับในส่วนของรัฐบาล ไม่ขัดข้องในการให้พื้นที่สร้างอาคารและที่พักอาศัยใหม่ และพร้อมจัดสรรงบประมาณสนับสนุนตามที่ขอมาอย่างสมเหตุสมผล โดยให้เป็นหน้าที่ของส่วนราชการดำเนินการตามขั้นตอนโดยเร็ว
“นายกฯ เน้นย้ำว่า บุคลากรของศาลยุติธรรมที่เข้าพักอาศัยในพื้นที่เดิมแล้ว อาจให้อยู่ไปก่อน เพราะจำเป็นต้องทำงาน และมีที่พักในบริเวณใกล้เคียง เมื่ออาคารและที่พักอาศัย ณ สถานที่แห่งใหม่เสร็จเรียบร้อย ทุกคนก็จะต้องย้ายออกตามที่ทุกฝ่ายได้หารือตกลงกันไว้”
นอกจากนี้ นายกฯ ขอให้ผู้ชุมนุมคิดทบทวน โดยควรมองทุกสิ่งอย่างรอบด้านและมีเหตุมีผล ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่า ที่ผ่านมาได้รับฟังเสียงของทุกคนและพยายามแก้ไขปัญหาอย่างดีที่สุด โดยข้อเรียกร้องบางอย่างจะต้องใช้เวลา จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจ พร้อมกับเตือนสติว่า ทุกคนมีสิทธิแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างได้ ทั้งนี้ หากการออกมาคัดค้านได้ดำเนินการตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นโครงการก่อสร้าง ก็จะไม่ทำให้เรื่องยืดยาวหรือต้องสูญเสียงบประมาณของรัฐเช่นนี้

(เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 61 ภาพจาก The North องศาเหนือ)
เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มเครือข่ายที่คัดค้านโครงการบ้านพักตุลาการเชิงดอยสุเทพ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หรือบ้านป่าแหว่ง กว่า 50 กลุ่ม ได้รวมตัวกันที่ลานอเนกประสงค์ประตู่ท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทำกิจกรรมชุมนุมรวมพลังที่ใช้ชื่อว่า “แม่น้ำร้อยสายทวงสัญญาป่าแหว่ง” เพื่อเรียกร้องให้มีการรื้อถอนโครงการดังกล่าวตามมติร่วมที่ให้ย้ายบ้านพักและที่ทำการศาลฯ ไปที่ จ.เชียงราย โดยผู้ชุมนุมเห็นว่า มีลักษณะการยื้อ ส่อแววจะมีหน่วยงานอื่นเข้าไปอยู่อาศัย เรียกร้องให้รัฐบาลรักษาสัญญาที่เคยให้ไว้ คือไม่มีผู้อยู่อาศัยในบ้านพัก 45 หลังและอาคาร 9 หลังเขตป่าดั้งเดิม และฟื้นฟูให้เป็นป่าสมบูรณ์
ที่มา thaigov / ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดูชัดๆ สภาพบ้านพักแพทย์ขอนแก่น-ศรีสะเกษ และบ้านศาลที่เชียงใหม่