หนุ่มใหญ่งง โดนใบสั่งส่งถึงบ้าน 2 ใบ อ้างไม่เคยขับไปที่ดังกล่าว หวั่นโดนสวมทะเบียน

ประเด็น – หนุ่มใหญ่อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองนครนายกถึงกับงง หลังโดนใบสั่งโดนจับความเร็วถึง 2 ใบซ้อน ซึ่งในสถานที่ที่ถูกถ่ายจับความเร็วก็ไม่ได้ไปในช่วงเวลาตามในใบสั่ง จึงเข้าแจ้งความ หวั่นโดนมิจฉาชีพปลอมทะเบียน 

วันที่ 17 ตุลาคม 2560 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านใน ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.นครนายก หลังทราบว่า นายวสันต์ พาณิชย์เกรียงไกร อายุ 48 ปี อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองนครนายก ถูกใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการทางหลวง ในข้อหาขับรถใช้ความเร็วเกินอัตราที่กฏหมายกำหนด โดยใบสั่งใบที่ 1 เขต ถ.กาญจนาภิเษก (ทล.พ.9) กม. 5 (ขาเข้า) ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และใบที่ 2 ต.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

จากการสอบถาม นายวสันต์เล่าว่าได้รับเอกสารจำนวน 1 ฉบับส่งมาที่บ้านของตน พอตนเปิดอ่านก็ถึงกับงง เพราะในเอกสารนั้นเป็นใบสั่งของตำรวจทางหลวง เรื่องการขับใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ถึง 2 ใบ ตนรู้ตกใจและแปลกใจ เพราะในเอกสารนั้นระบุสถานที่ไปรวม 2 แห่ง ทั้งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และปทุมธานี ซึ่งสถานที่ทั้ง 2 แห่งนี้ ยืนยันได้ว่าไม่มีธุระต้องไปทำอะไรในสถานที่ดังกล่าว

ซึ่งใบสั่งทั้ง 2 ใบ เขียนไว้ในเดือนเดียวกัน วันที่ 14 ก.ย. 60 โดนใบสั่งที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในเขตอำเภอกุยบุรี และใบที่ 2 วันที่ 25 ก.ย. 60 โดนที่จังหวัดปทุมธานี ในเขตอำเภอคลองหลวง ซึ่งระหว่าง 2 วันนี้ตนเองนั้นไม่ได้เดินทางไปไหนเลย ส่วนรถที่ตนเองขับนั้นเป็นรถเก๋งสองตอนยี่ห้อนิสสันอเมร่า สีขาว ทะเบียน 3 กม 6419 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเลขตรงกับใบสั่งทั้ง 2 ใบ

แต่นายวสันต์กล่าวว่า มีความแตกต่างของรถเด่นๆ 2 จุด โดยเฉพาะสเกิร์ตด้านหน้าของตนนั้นเป็นสีขาว แต่ในรูปภาพที่อยู่ในใบสั่งเป็นสีดำคาดแดง ล้อรถของตนนั้นเป็นล้อแม็กสีขาว แต่ในภาพเป็นสีเงินคล้ายโครเมียม

จึงสร้างความมึนงงให้แก่ตนเป็นอย่างมาก เพราะตนเองไม่ได้ทำผิด และก็ไม่เคยเดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว เกรงว่าจะถูกพวกมิจฉาชีพปลอมหมายเลขทะเบียน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจสอบและจับจริงกับกลุ่มคนที่ชอบปลอมทะเบียนรถ

เบื้องต้นนายวสันต์ พาณิชย์เกรียงไกร ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.หญิงพรธีรา สมอหอม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครนายก เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานและจะเดินทางไปที่ขนส่งจังหวัดนครนายกเพื่อหาข้อเท็จจริงกับเรื่องดังกล่าวต่อไป