หรือต่อไปจะไม่มีซามูไร-นินจาให้เห็นที่ญี่ปุ่น ! เพราะโตไม่ทันการท่องเที่ยว

AFP PHOTO / YOSHIKAZU TSUNO

ประเด็นคือ – ญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่ภาวะขาดแคลนซามูไร/นินจา เพราะจำนวนที่มีอยู่ไม่เพียงพอกับความต้องการ

คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่าที่คิดว่าถ้าได้ไปญี่ปุ่นอยากจะเจอ อยากจะถ่ายรูปกับซามูไรกับนินจา “ตัวเป็นๆ” จะยิ่งดีถ้าได้เห็นนินจาหายตัว ขว้างดาวกระจายให้ดูหรือเห็นซามูไรใช้ดาบให้ดู ถ้าใช่คุณก็ไม่ต่างจากนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกมากมาย ผลคือญี่ปุ่นกำลังขาดแคลนทั้งซามูไรทั้งนินจา

ยุเมะโนะยะ เอ็นเตอร์เทนเมนต์เป็นบริษัทจัดโชว์ซามุไรตามจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างเช่นแถวฮาราจูกุ เพื่อนำเสนอประสบการณ์ทางวัฒนธรรมให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้สัมผัส โทะโมะฮิโระ สึโนะดะ ประธานบริษัทบอกว่า “เราดีใจที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นมาก แต่ปัญหาคือเรามีซามูไรไม่เพียงพอกับความต้องการ เวลานี้เราอยากได้ซามูไรเพิ่มอย่างน้อยอีกสัก 5 คน”

AFP PHOTO / TOSHIFUMI KITAMURA

ซามูไรต้องมีทักษะซึ่งทักษะที่ว่าต้องใช้เวลาในการฝึกฝน การรับสมัครซามูไรในศตวรรษที่ 21 จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ทางบริษัทจึงตัดสินใจฝึกซามูไรของตัวเองอย่างเช่นมีชั้นเรียนศิลปะการต่อสู้ด้วยดาบ “เวลานี้คนญี่ปุ่นสนใจเรียนรู้ฝึกฝนในเรื่องวัฒนธรรมมากขึ้นซึ่งก็เป็นข่าวดีมากสำหรับเรา” ทางบริษัทจึงมีแผนจะจ้างคนที่ผ่านการฝึกให้มาทำหน้าที่ซามูไรในโชว์แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องใช้เวลาอยู่ดี

Quick Samurai โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ด้วยดาบญี่ปุ่นในโอซาก้า ก็ประสบปัญหาขาดแคลนซามูไรเช่นกัน “นอกจากจะมีโชว์แล้ว เรายังมีชั้นเรียนให้นักท่องเที่ยวได้ลองฝึกเป็นซามูไรซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับดีมาก” เมื่อปีที่แล้ว มีนักท่องเที่ยวลองเข้าชั้นเรียนวิชาซามุไร 1,500 คนแต่ปีนี้แค่ครึ่งปีตัวเลขเกิน 1,000 คน ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติ ส่งผลให้ผู้ฝึกสอนมีจำนวนไม่เพียงพอกับความต้องการ

สำหรับนินจานั้น สถานการณ์ดูจะแย่ไม่แพ้กัน เมื่อปีที่แล้ว จังหวัดไอชิเปิดรับสมัครนินจาสำหรับการจัดโชว์ ซึ่งมีคนยื่นใบสมัคร 235 คนแต่ปีนี้ยอดคนสมัครหล่นฮวบลงไปเหลือแค่ 22 คน สาเหตุเป็นเพราะหลายพื้นที่ในญี่ปุ่นนิยมใช้นินจามาดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้จำนวนนินจาไม่เพียงพอกับความต้องการ การผลิตนินจาใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องใช้เวลา นอกจากนี้นินจายังไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมว่าเป็นอาชีพ หลายครอบครัวจึงไม่เห็นด้วยที่จะให้ลูกหลานฝึกเป็นนินจา การเพิ่มจำนวนจึงดูจะยากขึ้นอีกไปอีก

ที่มา Asia.Nekkei