หวั่นอันตราย ! สะพานเข้าหมู่บ้านทรุด กระทบชาวบ้านสัญจร

ประเด็นคือ – ชาวบ้านหวั่นเกิดอันตราย หลังสะพานเข้าหมู่บ้านน้ำต๊ะน้ำรี จ.อุตรดิตถ์ พื้นที่ดินถล่มปี 49 ทรุดตัว วอนหน่วยงานเร่งแก้ไข เพราะเป็นเส้นทางสัญจร

วันที่ 22 ธ.ค.60 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน หมู่ 6 หมู่ 8 และ หมู่ 10 ต.น้ำหมัน อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ว่า สะพานคอนกรีตเสริมเหล็กข้ามห้วยน้ำต๊ะ และเป็นเส้นทางสายหลักเข้าสู่หมู่บ้านดังกล่าวเกิดทรุดตัว มาตั้งแต่ช่วงฤดูน้ำหลาก และฝนตกหนักที่ผ่านมา และทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง จึงหวั่นเกิดอันตราย ประกอบกับกระทบต่อการขนส่งผลผลิตทางการเกษตร การสัญจรของประชาชน จึงวิงวอนหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าแก้ไขปัญหา

เมื่อไปถึงพบว่า บริเวณหัวสะพานทั้ง 2 ฝั่งได้ขึ้นป้ายขอความ แจ้ง “สะพานชำรุด ห้ามรถทุกชนิดผ่าน” พร้อมนำกรวยสีส้มมาตั้ง และนำไม้ไผ่กั้นบริเวณจุดที่สะพานทรุดตัว เป็นสัญลักษณ์เตือน แต่ก็ยังคงมีประชาชนสัญจรผ่านไปมา ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบนำชี้จุดที่สะพานชำรุดทรุดตัว เริ่มตั้งแต่หัวสะพานฝั่งหมู่ 8 บ้านน้ำต๊ะ 2 ช่วงหรือ 20 เมตร บริเวณราวสะพานแตก เนื่องจากคานใต้สะพานทรุดตัวและหัก ขณะที่ทั่วพื้นผิวสะพานมีรอยร้าวยาว แต่ชาวบ้านยังคงสัญจร แม้จะมีป้ายเตือน เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักเข้าหมู่บ้าน แต่ก็ลดความเร็วและงดการบรรทุกหนักของรถลง

นายพัด มีพัฒน์ อายุ 61 ปี ชาวบ้านหมู่ 10 บ้านทรายงาม กล่าวว่า สะพานคอนกรีตสร้างตั้งแต่ปี 2550 โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์ (อบจ.) หลังเกิดดินโคลนกล่มปี 2549 ใช้งานมานับ 10 ปี ซึ่งใช้ข้ามห้วยน้ำต๊ะ เป็นเส้นทางสายหลักที่จะไปยัง หมู่ 6 หมู่ 8 บ้านน้ำต๊ะ น้ำรี มีชาวบ้านกว่า 500 ครัวเรือน แต่ช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา ฝนตกหนักและเกิดน้ำหลาก กระแสน้ำป่าได้พัดและกัดเซาะดินได้สะพานทำให้เกิดการทรุดตัว คานเกิดร้าว ทำให้ตัวสะพายทรุดตามไปด้วย

จากนั้นได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาซ่อมแซม เนื่องจากสะพานทรุดตัวต่อเนื่องจนปัจจุบัน 5 เดือน สะพานทรุด 2 ช่วงหรือ 20 เมตรแล้ว ถึงจะนำป้ายมาแจ้งเตือนห้ามการสัญจรของรถทุกชนิด แต่ชาวบ้านต้องเข้า-ออกหมู่บ้าน เด็กๆต้องไปเรียน ผู้ป่วยต้องไปโรงพยาบาล เบื้องต้นต่างใช้ความระมัดระวัง ลดน้ำหนักและความเร็วของรถก่อนข้ามสะพาน และพยายามใช้ช่องทางที่ทรุดตัวน้อยที่สุด แต่ชาวบ้านต้องยังคงลำบาก บรรดาระบรรทุกของพ่อค้าที่จะเข้ามารับซื้อผลผลิตทางการเกษตร ทั้งข้าวโพด ถั่ว ข่า กล้วย ต้องหยุดการรับซื้อ เมื่อวิ่งรถมาถึงสะพานเห็นป้าย ก็วนรถกลับ ไม่เข้ามารับซื้อเพราะหวั่นอันตรายหากบรรทุกหนักข้ามสะพานดังกล่าว วิงวอนหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว

นายชัยศิริ ศุภรักษ์จินดา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า สะพานดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของ อบจ.อุตรดิตถ์ มีความยาว 50 เมตร กว้าง 7 เมตร แบบไม่มีทางเท้า หลังรับแจ้งได้ส่งทีมช่างเข้าสำรวจอย่างละเอียด พร้อมทั้งให้ออกแบบ ประเมินงบประมาณในการก่อสร้าง โดยทรุดตัวและคานร้าว 2 ช่วง พื้นสะพานแตกมีรอยร้าว จึงต้องทำการรื้อและสร้างใหม่ คาดใช้งบสะสมประมาณ 5 ล้านบาท และเริ่มดำเนินการเดือนมีนาคม 2561