ประเด็นคือ – เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้บ้านไม้ ลุกลามไปยังบ้านใกล้เคียง จนท.ระดมรถดับเพลิงกว่า 10 คัน เข้าระงับเหตุ
วันที่ 19 ธ.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 01.00 น. ร.ต.ท.เสกสรรค์ ปัญญายืน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณบ้านเลขที่ 10 ถนนน้ำคือ ต.ในเวียง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ หลังรับแจ้งจึงประสานไปยังรถน้ำเทศบาลเมืองแพร่เข้าระงับเหตุ และเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ โดยเพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง และบริเวณโดยรอบเป็นที่ชุมชนบ้านติดกันเกรงว่าจะลุกลาม อีกทั้งยังเป็นเขตเศรษฐกิจ จึงต้องประสานขอรถดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบริเวณใกล้เคียงกว่า 10 คัน เข้าระงับเหตุ
ที่บ้านถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลังจำนวน 2 หลัง เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวทราบว่าเป็นบ้านของ นายกี้ ฉิมพารส อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 12 ถนนน้ำคือ อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จนลามไปบ้านที่อยู่ติดกัน ซึ่งเป็นบ้านสองชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูน ทราบชื่อเจ้าของบ้านคือ นายโรจน์พงศ์ จันทร์อิ่ม อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 10 ถนนน้ำคือ อ.เมืองแพร่ ซึ่งเปิดเป็นร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า และที่ได้รับความเสียหายเล็กน้อยในส่วนของห้องครัว คือบ้านของ นางยุพา อนุแก้ว อายุ 83 ปี บ้านเลขที่ 16 ถนนน้ำคือ เจ้าหน้าที่ช่วยกันระดมฉีดน้ำนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถระงับเหตุเพลิงไหม้ได้ โดยมีรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุจำนวน 13 คัน
จากการสอบถาม นายโรจน์พงศ์ จันทร์อิ่ม เจ้าของบ้านที่ถูกไฟลุกลามให้การว่า บ้านหลังดังกล่าวนั้น ตนได้เช่าอยู่ และตนก็ได้นอนหลับบนห้องปกติ อยู่ๆ ได้ยินเสียงแตกของประกายไฟบวกกับเห็นควันลอยขึ้นมา จึงได้ปลุกคนในบ้านให้ตื่นแล้วตนจึงได้รีบนำรถที่จอดไว้ไปจอดนอกบ้าน เพราะไฟเริ่มลามมาที่บ้านของตนแล้ว จึงได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่เพื่อให้เข้าระงับเหตุ และได้ไปเรียกนายกี้ เจ้าของบ้านที่ถูกไฟไหม้เช่นเดียวกัน แต่ในขณะนั้นนายกี้ไม่ได้นอนที่บ้าน แต่นอนที่โรงเรียนฝั่งตรงข้าม
นายกี้ ฉิมพารส ให้การว่าตนนั้นทำงานเป็นนักการภารโรงที่โรงเรียนเพ็ญรัตน์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้าน ตนจะไปนอนเฝ้าโรงเรียนทุกคืน จึงไม่ทราบว่าเกิดไฟไหม้ จนนายโรจน์พงศ์มาเรียกตน จึงรู้ว่าเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้น โดยตนนั้นอยู่บ้านหลังดังกล่าวคนเดียว ส่วนใหญ่เอาไว้อาบน้ำและกินข้าว แล้วก็ออกมาทำงานที่โรงเรียน