อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน แนะนำให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เดินหน้าตรวจสอบทุจริตโครงการจัดซื้อผ้าห่ม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ควบคู่ไปกับทุจริตเงินทอนศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั้ง 76 จังหวัด หลังพบมูลการทุจริตซื้อผ้าห่มเกินราคาท้องตลาด งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท
โครงการนี้ สตง.เคยตรวจสอบตั้งแต่ปี 2556 ในขณะที่อดีตปลัดกระทรวง พม. ดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ หรือ พส. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่งเกือบทั้งประเทศ
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2556 เคยตรวจสอบการเบิก-จ่ายงบประมาณจัดซื้อผ้าห่ม ของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ หรือ พส. สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่า มีการจัดซื้อผ้าห่มเกินกว่าราคาท้องตลาด เพื่อแจกผู้สูงอายุด้อยโอกาส และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยหนาว งบประมาณปีละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน
จากการตรวจสอบของ สตง.พบว่า ยุคนั้น นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัดกระทรวง พม. ดำรงแหน่งเป็นอธิบดี กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ หลังพบมูลทุจริตได้ส่งเรื่องไปยัง พม.ให้ชี้แจง แต่กลับยังไร้คำตอบถึงปัจจุบันนี้ ทั้งที่ สตง.เคยทักท้วงการเบิกจ่ายงบประมาณเงินสงเเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย และการรับซื้อผ้าห่ม โดยพบพฤติการณ์ทุจริต
อดีตผู้ว่า สตง. ยืนยันว่า มีทั้งปลอมแปลงเอกสาร การเบิกจ่ายจัดซื้อผ้าห่ม เขียนบิลจัดซื้อเกินราคา รวมทั้งมีการหักหัวคิว หรือเรียกรับเงินทอนกลับมาจากรัฐวิสาหกิจชุมชน ที่ พส.อ้างว่าไปซื้อสินค้ามาจากชาวบ้าน แต่ผ้าห่มเหล่านั้นกลับซื้อมาจากโรงงาน ซึ่งไม่ใช้รัฐวิสาหกิจชุมชนตามที่ระบุไว้
เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ย้ำว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ ป.ป.ท. รวบรวมพยานหลักฐานการเบิก-จ่ายงบประมาณจัดซื้อผ้าห่มของ พส. ที่จัดซื้อในฤดูร้อน แต่กลับมีราคาสูงกว่าท้องตลาด โดยเฉพาะศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดสิงห์บุรี พบมูลทุจริตในการจัดซื้อผ้าห่มเพื่อสงเคราะห์คนยากไร้ จากผ้าห่มราคา 199 บาท แต่จัดซื้อในราคา 400 บาท ขณะนี้มุ่งเป้าตรวจในภาคกลางก่อนว่า มีจังหวัดอื่นๆ อีกหรือไม่ เพื่อหาความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับ 3 ผู้บริหารระดับสูงของ พม. หรือไม่