อดีต กกต. ชี้ เลือกตั้ง ปี 62 เสี่ยงเป็น “โมฆะ”

เวทีเสวนา “มาตรา 44 เพื่อชาติหรือเพื่อใคร ?” ไม่ใช่แค่เวทีถกแถลง-แลกเปลี่ยนความเห็นเฉพาะความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เมื่อหัวหน้า คสช. ใช้อำนาจนี้ สั่งให้ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร พ้นจากกรรมการ กกต. เท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีที่ นายสมชัย เลือกที่จะเปิดประเด็นสุดท้าย ในการอธิบายความเห็นต่างในร่างกฎหมายลูก พร้อมกับชี้ถึงจุดเสี่ยง ที่อาจทำให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นเป็นโมฆะได้

คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ร่วมกับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จึงได้จัดเสวนา ในหัวข้อ “มาตรา 44 เพื่อชาติ หรือเพื่อใคร ?” โดยมี นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการ กกต. ที่เพิ่งพ้นจากตำแหน่งด้วยคำสั่งหัวหน้า คสช. เมื่อวันที่ 21 มีนาคม มาเป็นวิทยากรด้วย

และแม้จะไม่ได้ชี้ถึงสาเหตุของคำสั่งที่นอกเหนือจากเหตุผลในคำสั่ง แต่นายสมชัยยังคงยืนยันถึงข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เคยอธิบายไว้ โดยเฉพาะ 6 ประเด็น ที่เคยโพส์ตเฟซบุ๊ก ก่อนจะย้ำในประเด็นที่ 7 เป็นประเด็นปัญหาการเลือกตั้ง จากข้อบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ให้จัดเลือกตั้งแล้วเสร็จภายใน 150 วัน หลังร่างกฎหมายลูก 4 ฉบับประกาศใช้

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการ กกต.

นายสมขัย ระบุว่า คำว่าการจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จ ไม่มีการตีความที่ชัดเจนว่าหมายถึงวันลงคะแนน หรือจนกว่าจะประกาศผล หากมีผู้เห็นต่างกับ กกต. และยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย บทสรุปอาจทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้

ผู้ร่วมแลกเปลี่ยนในวงเสวนา อาทิ รองศาสตราจารย์ พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ชี้ให้เห็นว่า เจตนาของหัวหน้า คสช. ที่ใช้อำนาจปลด กกต. เพื่อให้เกิดการเชื่อฟัง และเชื่อว่าเกิดจากความยั้งคิด และอาจทำลายกระบวนการตรวจสอบขององค์กรอิสระ

รองศาสตราจารย์ พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต

ขณะที่ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ชี้ว่า คสช. ใช้อำนาจมาตรา 44 ตามอำเภอใจ ทั้งที่อำนาจควรใช้เพื่อประชาชน หากใช้เพื่อตัวเองและพวกพ้อง อำนาจนั้นไม่มีความชอบธรรม

สำหรับประเด็นที่นายสมชัยเคยโพส์ตเฟซบุ๊กและชี้ว่า เป็นเรื่องที่อธิบายไว้และเกิดเป็นเรื่องจริง คือ การเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นโมฆะ เนื่องจากไม่สามารถรับสมัครเลือกตั้งได้ 28 เขต, การสรรหา กกต. จากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาไม่ลงคะแนนเปิดเผย ขัดหลักกฎหมาย จน สนช. มีมติไม่รับรอง

และการคาดการณ์ว่า หากยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างกฎหมายลูก ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จะทำให้โรดแมปเลือกตั้งเลื่อนออกไปอีก 2 เดือน