SHARE

คัดลอกแล้ว

จากเด็กนักเรียนที่ชอบวาดภาพ ใฝ่ฝันจะเป็นสถาปนิกออกแบบบ้าน

แต่เมื่อเท้าของเขาเข้าสู่วงการการเต้น ความคิด และ ชีวิต “อาร์ม” อนัทภิกรณ์ ประทับศักดิ์ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

“อาร์ม” เป็นนักเต้นคนไทยในฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ สวนสนุกในฝันของเด็กๆ ที่วาดหวังว่าจะได้มีโอกาสไปเยือนสักครั้ง

หน้าที่ของ “อาร์ม” คือ แสดงในโชว์ของ Mickey and the Wondrous Book ทำให้เขาใช้ชีวิตที่ฮ่องกงมานาน 9 ปี

“จุดเริ่มต้นการเป็นนักแสดงดิสนีย์ ก่อนจะย้ายไปฮ่องกง ผมเรียนจบจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาควิชาบัลเลต์ เรียนด้านนี้อยู่แล้วตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่ กทม. ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย ผมรับงานเต้น เป็นครูสอนเต้น ทำงานกับละครเวที ในโรงละครใหญ่ๆ มีการเต้นในงานคอนเสิร์ต”

“ยังได้แสดงละครทีวี ข้ามเวลาหารัก ทำงานในวงการบันเทิงหลายอย่างก่อนที่จะย้ายมาฮ่องกง” อาร์มเล่า

จุดเริ่มต้นของอาการ “ตกหลุมรัก” การเต้น เขาเล่าว่า

“ผมเรียนเต้นครั้งแรกตั้งแต่อายุ 16 ช่วง ม.4 เพื่อนชวนไปแข่งเต้น ในรายการ To be number one ผมกับเพื่อนๆ ต้องฝึกซ้อมกันเอง ไม่มีโค้ช เราก็ไปกันต่อจนถึงการแข่งระดับประเทศ ตั้งแต่ ม.4-ม.6”

“ผมตกหลุมรักการเต้น..ไม่รู้สิ มันเหมือนเป็นเรื่องมหัศจรรย์ เพราะก่อนหน้านั้น passion ของผมคือการวาดรูป ผมอยากเป็นสถาปนิก ชอบการออกแบบบ้าน”

“เมื่อก่อนผมมีสมุดเล่มนึง เอาไว้ออกแบบบ้าน อะไรแบบนั้น แต่พอได้เริ่มเต้นเท่านั้นแหละลืมอย่างอื่นไปหมดเลย”

“เล่นดนตรีก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ชอบ ผมเคยอยู่วงโยธวาทิต เล่นอัลโต้แซกโซโฟน แล้วยังชอบเล่นกีฬา แต่การเต้นเป็นที่สุดของผมแล้วตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงวันนี้”

รู้สึกตอนไหนที่ การเต้นจะเป็นอาชีพของเราได้จริงๆ “อาร์ม” บอกว่า “ผมมีรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกัน และเคยอยู่ทีมเต้นเดียวกัน เขามาเรียนมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ด้านการเต้น พอเขาย้ายมาอยู่ กทม. เขาก็มีงานเต้นทันที เป็นไอเดียให้ผมว่าเรียนสายนี้ จะไปเป็นนักเต้น หรือ ครูสอนเต้นได้ในอนาคต แล้วมันก็จริงนะ ตอนที่ผมเรียนจุฬาฯ ปีแรก ผมได้โอกาสไปเต้นในงานต่างๆ จำได้เลย งานแรกเป็นงานเต้นที่คลับ RCA นั่นเป็นงานแรกที่ผมได้เงิน ผมหาเงินได้ตอนยังเรียนอยู่ แล้วงานก็มาเรื่อยๆ”

แล้วครอบครัวสนับสนุนไหม…ที่มาเต้น “อาร์ม” เล่าว่า “คุณแม่ สนับสนุนทุกอย่างไม่ว่าทำอะไร แต่พ่อคุณพ่อไม่ค่อยสนับสนุนให้เรียนด้านนี้เท่าไหร่ แต่ผมโชว์ให้เขาเห็นว่าผมเอาตัวรอดได้เมื่อมาอยู่ กทม.”

“ผมมีความสุขมากที่หางานทำได้ ผมหาเงินได้แล้ว และตอนปี 1 ผมอยู่หอใน ซึ่งถูกมาก แต่ผมอยู่แค่ 1 ปี หลังจากนั้นผมไปอยู่หอนอก ผมบอกคุณพ่อว่าให้ค่าใช้จ่ายเท่ากับอยู่หอใน ที่เหลือผมจะทำงานหาเงินมาจ่ายค่าหอเอง แล้วผมก็หาเงินมาตลอด คุณพ่อคงเห็นแล้วว่าผมไม่เคยขอเงินเพิ่มจนกระทั่งผมเรียนจบ ผมงาน หาเงินเอง และผมให้เงินคุณพ่อด้วย เขาก็ยอมรับในตัวผมโดยอัตโนมัติ”

หลังจากเรียนจบที่จุฬาฯ “อาร์ม” ยังทำงานเป็นนักเต้น นักออกแบบท่าเต้นอยู่ กระทั่ง ดิสนีย์เปิดการคัดเลือกนักเต้นในไทย ช่วงปลายปี 2015 รอบนั้นเป็นการเปิดคัดเลือกปีที่ 2 ในไทย “อาร์ม” เข้าไปสมัคร

“ผมอยากไปมาก ผมมีคนรู้จักคนไทยคนหนึ่งที่ผ่านการคัดเลือกจากไทย จึงพอรู้ว่ามันดียังไง ได้เงินเดือนประมาณเท่าไหร่ มันทำให้เป็นแรงบันดาลใจที่จะไปที่นั่น และอยากไปฝึกภาษาอังกฤษด้วยเพราะตอนอยู่ที่ไทย ภาษาอังกฤษผม Really bad (แย่มาก) นี่จึงเป็นโอกาสที่จะฝึกภาษาอังกฤษให้เก่งๆ แล้วผมก็ได้รับการคัดเลือก”

“ส่วนเรื่องเงินเดือน ต้องบอกว่าค่อนข้างดี เช่นเดียวกับสวัสดิการต่างๆ 6 หลักต้นๆ ต่อเดือน เรื่องนี้ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงย้ายไปที่นั่น เพราะอย่างที่บอกผมมีเพื่อนอยู่ที่นั่น และรู้ว่าการใช้ชีวิตเป็นอย่างไร เงินเดือนเป็นอย่างไร แม้ว่าอยู่ฮ่องกงค่าที่พักจะแพง แต่ที่เหลือผมว่าค่าใช้จ่ายที่นั่นก็โอเค”

“ดิสนีย์” คือสถานที่ที่เหมาะกับเขา เพราะดิสนีย์ แลนด์เป็นสถานที่แห่งความสุข

“เข้าไปแล้วจะรู้สึกว่าทุกอย่างเต็มไปด้วยพลังงานดีๆ ทุกอย่างเต็มไปด้วยพลังงานบวก มันวิเศษมาก แล้วงานของผมคือการมอบพลังงานบวกให้ทุกคน แจกความสดใส ความสุข ให้กับทุกๆ คนที่มาดูผม”

“รู้สึกภูมิใจกับการทำงานที่ดิสนีย์ เพราะเป็นบริษัทที่ใหญ่ แต่สำคัญคือ ได้ส่งมอบความสุขให้คนอื่นๆ ทำให้รู้สึกใจฟู ทุกครั้งที่เห็นทุกคนยิ้ม ปรบมือ ส่งเสียงเชียร์ รู้สึกว่าอย่างน้อย ตื่นมาวันนี้ผมจะได้ไปมอบความสุขให้ใครสักคน”

“ที่จริงผมไม่ได้สะกดตัวเองแบบว่า ผมจะต้องทำให้คนยิ้มให้ได้ .. ไม่ ถึงจุดที่ผมได้ยืนบนเวที ผมทำมันออกมาจากหัวใจจริง ๆ เต้นเต็มที่เพราะผมรักงานที่ทำ ผมเต้นให้กับเพลงที่เปิดอยู่ ตั้งใจฟังจังหวะเพลงแล้วผมก็เต้นให้เต็มที่ มีความสุขกับมันมาก เป็นความสุขที่คนดูได้สัมผัส คนดูก็ส่งเสียง ปรบมือ ส่งกำลังใจกลับมา บางครั้งก็กรี๊ดให้ผมก็มี นั่นแหละเป็นสิ่งที่วิเศษมากสำหรับผม”

แล้วอาชีพนักเต้น ก็จะมีเงินอยู่ได้ยาวๆ เลยไหม? “อาร์ม” ตอบว่า “ก็ต้องบอกว่าใช่ครับ…ดูจากเพื่อนที่ทำงานเหมือนกัน แดสงโชว์เดียวกัน อายุมากถึง 53 ปี อีกคนหนึ่งเขาทำอยู่อีกโรงละครหนึ่งเขาอายุ 54 เกือบ 55 ปีแล้ว แต่ก็เป็นปีสุดท้ายที่ไม่ได้ต่อสัญญา”

“วันนี้ผ่านมา 9 ปีพอดีสำหรับผม แต่สัญญาก็จะเป็นปีต่อปี ต้องสอบคัดเลือกใหม่ทุกปี ไม่ได้การันตีว่าจะได้อยู่ไปเรื่อยๆ ทุกคนต้องรักษามาตรฐานของตัวเองให้ได้ เพราะไม่รู้เลยว่าวันข้างหน้าจะได้ไปต่อไหม คุณต้องทำให้ดีที่สุดและเป็นมืออาชีพ แค่นั้นเลย”

แล้วถ้าไม่ได้ต่อสัญญา มีบริษัทอื่นๆ อย่างดิสนีย์ไหม ถ้ายังอยากทำงานเต้นอยู่ “อาร์ม” อธิบายเป็น 2 ตัวอย่าง

“อย่างแรกคือ สำหรับคนที่อายุเยอะแล้วเหมือนเพื่อนผมที่อายุ 55 ปี ที่ดิสนีย์ เราก็ยังไปทำงานอื่นได้ ไปทำงานเบื้องหลังต่อได้ อย่างใครที่ทำงานอยู่ในฮ่องกงเกิน 7 ปี คุณจะได้สิทธิเป็นพลเมืองฮ่องกง มีสิทธิอยู่ถาวร ผมก็ได้สิทธินั้น จะทำงานอะไรก็ได้ในฮ่องกง เพื่อนผมตอนนี้ก็มาทำงานเบื้องหลังเวทีแทน”

“แต่สำหรับผม ผมอยากเป็นนักแสดวง ผมเพิ่งได้แสดงภาพยนตร์ฮ่องกง และจะฉายในปีนี้ ตอนนี้กำลังฉายอยู่ที่ เทศกาลหนัง Berlinale และจะฉายในเอเชียเร็วๆ นี้ ผมสนใจด้านภาพยนตร์มาก หวังว่าในอนาคตจะสร้างผลงานอีกเยอะๆ”

“อาร์ม” ยอมรับว่า “ผมคงจะไม่ทำงานที่ดิสนีย์ไปตลอดกาล เพราะสำหรับผมก็เกือบ 10 ปีแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างที่อยากเรียนรุ้ ในด้านธุรกิจก็คิดไว้เหมือนกันื เช่น อยากทำแดนซ์สตูดิโอ เพราะนอกจากงานที่ฮ่องกงดิสนีย์แล้วผมยังเป็นครูสอนเต้น เพราะตอนนี้ได้สิทธิพักอาศัยถาวรแล้วที่ฮ่องกง ก็มีโอกาสได้ทำหลายอย่าง”

อยากฝากอะไรถึงคนที่ตามหาความฝัน และทำตามฝันได้สำเร็จ “ผมต้องบอกว่าทำด้วยหัวใจจริงๆ ตอนเริ่มเต้นครั้งแรกๆ ตอนอายุ 16 ผมไม่รู้ด้วยซ้ำครับว่า ผมจะกลายเป็นอย่างทุกวันนี้ ผมแค่มีความสุขกับสิ่งที่ทำ ทำมันไปเรื่อย ๆ แล้วผมก็มาถึงจุดนี้จนได้ครับ ถ้าคุณเชื่อมั่นในตัวเอง คุณต้องเดินหน้าต่อ ประตูแห่งโอกาสจะเปิดต้อนรับคุณ แล้วพระเจ้าจะช่วยนำทางให้พาไปยังจุดที่ต้องการ”

“ชีวิตคนเราไม่ราบรื่นไปซะหมด เราต้องดิ้นรน แม้จะประสบความสำเร็จในระดับท็อบ แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะราบเรื่น เราต้องหาทางตัวเองให้ได้ เดินหน้าต่อ แต่อย่าลืมหาความสุขให้ตัวเอง นี่คือสิ่งที่ผมบอกกับตัวเองเสมอ”

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า