อนาคตใหม่ เตรียมใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ขอเปิดคะแนนทั้งหมด

“ธนาธร” ยืนยัน กกต.ต้องเปิดคะแนนรายหน่วยทั่วประเทศชี้ผลเลือกตั้งไม่ใช่เรื่องความมั่นคง ที่ประชาชนจะรู้ไม่ได้ เตรียมใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารเปิดคะแนนทั้งหมด พร้อมเตือน กกต.ตัดสินใจเรื่องสูตรคำนวณคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ให้ดี เพราะส่งผลต่อทิศทางของประเทศ ส่วนเรื่องการชี้แจงการโอนหุ้นสื่อ 30 เม.ย. มั่นใจมาก หลักฐานพร้อมไม่มีทางถูกเอาผิดได้

วันที่ 28 เม.ย. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เดินทางไปที่ อาคารศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ม.ศิลปากร จ.นครปฐม เพื่อร่วมสังเกตการณ์การนับคะแนนใหม่ของเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.นครปฐม

นายธนาธร กล่าวว่า การนับคะแนนใหม่วันนี้ เกิดจากการที่ผู้สมัครของพรรคเข้าไปขอคะแนนรายหน่วยจาก กกต. แล้วลองนำมาบวกคะแนนด้วยตัวเอง พบว่า คะแนนเราพลิกกลับมาชนะ จึงยื่นเรื่องขอให้มีการนับใหม่ ซึ่งถ้าคะแนนเป็นไปอย่างที่ กกต. ให้เรามา เราจะพลิกกลับมาชนะ 4 คะแนน ดังนั้น ต้องจับตาว่าจะมีความผิดปกติระหว่างคะแนนรายหน่วยที่ กกต.ให้เรามา กับนับใหม่ครั้งนี้หรือไม่อย่างไร

ทั้งนี้ จ.นครปฐม ยังมีอีก 2 เขตที่เราตรวจสอบพบความผิดปกติ คือเขต 2 และเขต 4 โดยในเขต 2 นั้น จากการตรวจสอบพบมีบัตรเขย่ง และมีหน่วยเลือกตั้งที่เราได้คะแนนน้อยกว่าปกติ เราจะขอให้มีการนับคะแนนใหม่ ส่วนเขต 4 เราพบหลักฐานที่คาดว่าอาจจะมีการซื้อเสียงซึ่งกรณีนี้อยู่ในชั้นตำรวจแล้ว และจะขอให้มีการเลือกตั้งใหม่ในเขตนี้ด้วยเช่นกัน

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวด้วยว่า กกต.ควรเปิดเผยผลคะแนนรายหน่วยทั่วประเทศ ไม่มีเหตุผลใดๆ เลยที่ไม่เปิดออกมา จนทำให้ประชาชนเกิดข้อกังขาพรรคอนาคตใหม่เรียกร้องเรื่องนี้ตั้งแต่สัปดาห์แรกหลังการเลือกตั้ง ผ่านมา 1 เดือนแล้ว แต่ กกต. ก็ยังไม่ขยับ ดังนั้น ภายในสัปดาห์หน้าเราจะใช้สิทธิของประชาชนภายใต้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร เรียกร้องให้ กกต. เปิดเผยผลคะแนนรายหน่วย

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความมั่นคง ไม่ใช่ชั้นความลับที่ประชาชนจะรู้ไม่ได้ นครปฐมเขต 1 จะเป็นตัวอย่าง ซึ่งขณะนี้ทางฝ่ายกฎหมายของพรรคกำลังเตรียมการเรื่องนี้อยู่ เราจะใช้สิทธิของประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของภาครัฐ เราเห็นว่าเรื่องนี้เป็นสิทธิของประชาชนที่ควรได้รู้ ว่าคะแนนของเขาถูกนำไปนับหรือถูกนำไปจัดสรรอย่างไร” นายธนาธร กล่าว

ส่วนเรื่องสูตรการคำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะการใช้สูตรใดสูตรหนึ่งจะส่งผลถึงทิศทางของประเทศหลังจากนี้ เนื่องจากฝ่ายที่ต่อต้าน คสช. ตอนนี้ ถ้าคิดตามสูตรหนึ่งจะมีเสียงเกิน 250 เสียง แต่ถ้าคิดตามอีกสูตรจะมีเสียงน้อยกว่า 250 เสียง ซึ่งเส้น 250 เสียงนี้ คือเส้นความชอบธรรมที่จะตั้งรัฐบาล เป็นเรื่องที่เราต้องช่วยกันจับตา

นายธนาธร กล่าวถึง การเตรียมตัวชี้แจงเรื่องการโอนหุ้น บริษัท วีลัค มีเดีย ต่อ กกต. ในวันที่ 30 เม.ย.นี้ว่า เรื่องนี้มั่นใจมาก ถ้ากระบวนการพิจารณาเป็นตามตัวบทกฎหมาย ไม่มีทางเอาผิดเราได้ ตนไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก สามารถชี้แจงได้ทุกเรื่อง เพราะมีหลักฐานพร้อม ฝ่ายที่ตรวจสอบเรา สื่อที่ตรวจสอบเรา ตั้งข้อสังเกตเล็กๆ น้อยๆ เต็มไปหมด แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มีใครสามารถนำหลักฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์มาหักล้างเราได้ แต่มีการพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกทุกวัน จนประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อไปแล้วว่าธนาธรซุกหุ้น หลงเชื่อไปแล้วว่าธนาธรเป็นคนผิด