อนุกรรมการค่าจ้าง จ่อขอขึ้นค่าแรง 28 จังหวัดอีก 2-14 บาท

คณะอนุกรรมการค่าจ้างฝ่ายวิชาการ เตรียมหารือการปรับขึ้นอัตราค่าจ้าง ตามที่คณะกรรมการจังหวัดเสนอ คาด 28 จังหวัด เสนอขอปรับขึ้นค่าแรง 2 – 14 บาท

วันที่ 18 ก.พ. 2562 คณะอนุกรรมการค่าจ้างฝ่ายวิชาการจะมีการหารือการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างตามที่คณะกรรมการจังหวัดเสนอเข้ามา ล่าสุดมีรายงานว่า 49 จังหวัด ยืนยันไม่ปรับขึ้นอัตราค่าจ้าง ขณะที่ 28 จังหวัดขอปรับ เช่น กรุงเทพมหานคร ขอปรับ 14 บาท, ภูเก็ต 10 บาท, สมุทรปราการ 10 บาท จังหวัดที่เสนอปรับต่ำสุด คือ จังหวัดยะลาและปัตตานี ขอปรับ 2 บาท โดยหลังจากนี้จะเสนอให้คณะกรรมการค่าจ้างพิจารณา พร้อมนัดประชุมร่วมกันในวันที่ 13 มีนาคมนี้ ซึ่งตามขั้นตอนปกติในทางปฏิบัติ เร็วที่สุดบัญชีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำอัตราใหม่จะสามารถประกาศใช้ได้วันที่ 1 เมษายน หรือขยับเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 1 พฤษภาคม เนื่องจากไม่ได้มีการกำหนดเงื่อนเวลาชัดเจน

นายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย เปิดเผยว่า หากมีการพิจารณาปรับขึ้นค่าแรงงานเป็นวันละ 360-365 บาท ตามข้อเสนอของตัวแทนลูกจ้างบางกลุ่ม นายจ้างภาคเอกชนคงรับไม่ได้ เพราะมองว่า อัตราที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่ 345 บาทต่อคนต่อวัน

ทั้งนี้ ค่าแรงที่สูงเกินไปจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการซึ่งต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงทั้งอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่า สงครามทางการค้า และสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้หากเกิดขึ้นจะส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกเครื่องนุ่งห่มในปีนี้ติดลบ จากเดิมที่เคยคาดการณ์ว่าจะขยายตัว ร้อยละ 7-8 จากปี 2561

ยังไม่สรุปค่าจ้างรายชั่วโมงผู้สูงอายุ

ขณะที่นายพิจิตร ดีสุ่ย กรรมการค่าจ้างฝ่ายลูกจ้าง ในคณะกรรมการค่าจ้าง ชุดที่ 20 กล่าวถึงกรณีการกำหนดอัตราค่าจ้างรายชั่วโมงให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งเตรียมจะประกาศบังคับใช้ในเร็วๆ นี้ ในอัตราชั่วโมงละ 45 บาท ว่า แม้ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน แต่คาดว่าจะมีการประกาศใช้ในเร็วๆ นี้แน่นอน เบื้องต้น มีเอกชนให้การตอบรับกับโครงการนี้แล้ว และเตรียมการสำหรับรองรับแรงงานกลุ่มผู้สูงอายุทำงานในสาขาต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วประเทศแล้ว โดยแรงงานกลุ่มนี้จะทำงานในลักษณะการจัดเรียงของ ทำสวน ขายของ ทำความสะอาด เป็นต้น

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภานายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย กล่าวว่า กรณีแนวคิดจ้างผู้สูงวัยมาทำงานชั่วโมงละ 45 บาท เป็นแนวคิดที่ยังไม่ตกผลึก เพราะอาจต้องแก้กฎหมาย หรือออกประกาศเกี่ยวกับค่าแรงขั้นต่ำ เนื่องจากในการจ้างงานแม้จะจ้างเป็นรายชั่วโมง เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่ต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ การจ้างผู้สูงวัยทำงาน อาจไม่สามารถทำงานครบ 8 ชั่วโมง เช่น จ้างทำงานได้แค่วันละ 4-5 ชั่วโมง ดังนั้น รวมเป็นรายวันได้แค่ 200 บาท ต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำกำหนดไว้วันละ 330-350 บาท ซึ่งตามกฎหมายแล้วไม่สามารถทำได้ ดังนั้น จึงคิดว่าเรื่องนี้จะสรุปไม่ทันเดือนเมษายนนี้ เพราะขณะนี้กำลังทำเรื่องค่าแรงงานขั้นต่ำกันอยู่