“อภิสิทธิ์” ขอประชาธิปัตย์ยึดอุดมการณ์ เพื่อกลับมาได้

“อภิสิทธิ์” ขอสมาชิกพรรคยึดมั่นอุดมการณ์ ไม่หวั่นไหวกับสถานการณ์เชื่อถ้ามีหลักมั่นคงประชาชนจะกลับมาสนับสนุน “นายหัวชวน” ย้ำยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกข้างพลังประชารัฐ กรีดบางคนในพรรคที่ออกตัว ห้ามก็ไม่ฟัง อาจอยากเป็นมากเลยต้องตะแบง 

วันที่ 6 เม.ย. พรรคประชาธิปัตย์จัดพิธีทำบุญเนื่องในวันครบรอบวันเกิดพรรค ครบรอบ 73 ปี โดยมีแกนนำและสมาชิกพรรคร่วมงานอย่างพร้อมหน้า

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค กล่าวกับสมาชิกพรรคที่มาร่วมงานตอนหนึ่งว่า พรรคประชาธิปัตย์ดำรงมาจนถึงทุกวันนี้ได้เพราะการมีสมาชิกพรรคที่มั่นคง ยากที่จะมีพรรคใดเป็นแบบนี้ อย่างที่รักษาการหัวหน้าพรรค จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ กล่าวไว้ว่า เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่มีการเลือกตั้งแล้วผลมีแพ้ มีชนะ พรรคการเมืองมีขึ้นมีลง

ขอให้กำลังใจพวกเราทุกคน ถ้าย้อนกลับไป 70 กว่าปี มีพรรคประชาธิปัตย์ที่ยังดำรงอยู่คู่กับประเทศและประชาชน และที่เราดำรงอยู่ได้เพราะ เราเป็นสถาบันทางการเมือง ไม่ได้ยึดติดกับตัวบุคคล หรือสถานการณ์ แต่ยึดติดกับอุดมการณ์

“ถ้าเราเดินไปข้างหน้าด้วยกันด้วยความแน่วแน่ มั่นคงในอุดมการณ์ ผมมั่นใจครับว่า วันข้างหน้าเราก็จะมีโอกาส ที่จะได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนมากกว่านี้”

ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกับสมาชิกถึงข่าวที่ว่าประชาธิปัตย์ตัดสินใจร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ เป็นเรื่องของคณะของนายถาวร เสนเนียม ว่าที่ ส.ส.สงขลา ที่มีการหารือและเชิญมาตนจึงไปร่วมฟังด้วย เลยมีคนบางกลุ่มนำเรื่องนี้มาพูด ซึ่งตนได้ขอร้องไปแล้วว่าขอให้ให้ความเคารพกับคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ แต่ว่าห้ามไม่ค่อยฟังไม่แน่ใจว่าเพราะอะไรถึงต้องตะแบง แต่อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าพรรคยังไม่มีมติเรื่องนี้

“อาจจะเป็นความอยากเป็นมากก็เลยทำให้ต้องแสดงออก ยังไม่มี อย่าเพิ่งไปวิพากษ์วิจารณ์เห็นด้วยไม่เห็นด้วย จริงๆ ยังไม่มีมติ”

นายชวน ยังกล่าวถึง ช่วงการหาเสียงที่ผ่านมาด้วยว่า ตนพยายามทำงานตั้งแต่ 4 ก.พ.-23 มี.ค. พยายามไม่หยุดเพราะรู้ว่ามีปัญหาอยู่บางเรื่องจึงพยายามไปหาเสียงภาคอื่นเพื่อทำระบบบัญชีรายชื่อให้ได้มากหน่อย แต่ว่าวูบหนึ่งของความเปลี่ยนแปลง ทัศนคติ ความเห็น กระแส ทำให้มีอะไรที่ทำให้พวกเราแปลกใจว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น

“ก็อย่าแปลกใจนี่คือชีวิตจริงครับ ชีวิตจริงที่มันมีวูบวาบอย่างนี้ครับ แต่ว่าหลักต้องเป็นหลัก เราต้องเป็นหลักอยู่ตลอด อย่าไปวอกแวกหวั่นไหว ถ้าเรามีความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราต้องยึดมั่นสิ่งนี้ไว้”