SHARE

คัดลอกแล้ว

มุมมองของสองหัวหน้าพรรคการเมือง “อนาคตใหม่ และประชาธิปัตย์” ต่อความเห็นเรื่อง “กับดักประเทศ และทางออกประชาธิปไตย”

น่าสนใจสำหรับเสียงสะท้อนจากเวทีเสวนา หัวข้อ “อนาคตประชาธิปไตยไทย : ข้ามพ้น กับดักความหวัง” ที่จัดโดยคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่มีตัวแทนพรรคการเมือง 4 พรรคมาร่วมแสดงความคิดเห็น คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายธนากร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ผู้ก่อตั้งพรรคประชาชนปฏิรูปเข้าร่วม

นี่เป็น “บางช่วงบางตอน” ของการแสดงความคิดเห็นจากเวทีดังกล่าว ระหว่าง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในวัย 40 ปี กับ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ วัย 53 ปี

ธนาธร “ต้องเข้าใจว่า การทำรัฐประหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าในประเทศไทยมันมีผลอย่างมากต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย ถ้าเราย้อนหลังกลับไปเมื่อ 50 ปีที่แล้วที่จุดเริ่มต้นของการพัฒนาประเทศไทย ที่มีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 1 ประมาณ 50-60 ปีที่แล้ว ถ้าย้อนกลับไปเวลานั้นเราจะเห็นได้ว่า มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน เกาหลีพวกนี้ ไทย อยู่ในระนาบการพัฒนาเดียวกัน ผ่านมา 50-60 ปี วันนี้มาเลเซียมีรายได้ต่อหัวสูงกว่าเรา 2 เท่า เกาหลีสูงกว่าเรา 4 เท่า สิงคโปร์สูงกว่าเรา 9 เท่า ภายในระยะเวลา 50-60 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ชัดเลยว่า นี่คือ ความต่างในเชิงรูปธรรมของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในประเทศไทย

นอกจากนี้เราจะเห็นได้ว่า ประเทศไทยปัจจุบันมีความเหลื่อมล้ำเป็นอันดับ 3 ของโลก ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากรัสเซียและอินเดีย คน 5 เปอร์เซ็นต์ที่มีความมั่งคั่งสูงที่สุดในประเทศไทยมีทรัพย์สินรวมกัน 3 ล้านล้านบาท เท่ากับงบประมาณของประเทศ 1 ปีสำหรับคน 60 กว่าล้านคน คน 1 เปอร์เซ็นต์ของประเทศมีความมั่งคั่งมากกว่าคน 60 กว่าล้านคนที่เหลือรวมกัน ผมคิดว่า มันมีความชัดเจนหนึ่งอย่าง ในรอบการพัฒนา 60 ปีที่ผ่านมา หรือว่าจะนับจาก 2475 คือ 86 ปีที่ผ่านมาว่า อะไรฉุดรั้งการเปลี่ยนแปลง การก้าวไปข้างหน้าของสังคมไทยไว้ ไม่ใช่แค่สิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2557 แต่มันเป็นกับดักที่วนเวียนมาตั้งแต่ 2475 ผมปวารณาตัวเอง พรรคอนาคตใหม่ปวารณาพรรคของเราเองที่จะยุติกับดักนี้ทำให้มันสิ้นสุดที่ยุคเรา เพื่อจะไม่ต้องส่งผ่านอนาคตที่มีการรัฐประหารทุก 8 ปี ทุก 10 ปีไปให้ลูกหลานเรา

โลกปัจจุบันหมุนเร็วมาก เพียงแค่จะตามโลกให้ทัน หรือจะรักษาสถานะแห่งที่ของสังคมไทยในเวทีโลกได้เราต้องหมุนเร็วเท่าโลก เอานี่คือแปรมินิมั่ม นี่คือเส้นมาตรฐานการพัฒนาประเทศที่ต่ำที่สุด ถ้าคุณอยากจะรักษาประเทศไทย ประเทศไทยต้องวิ่งให้เท่าความเร็วโลก ไม่พูดถึงการแซงโลกนะ ถ้าจะพัฒนาให้เร็วกว่านี้ คุณต้องหมุนเร็วกว่าโลกซะอีก ซึ่งระบบที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยมันตามไม่ทัน ดังนั้นผมยังยืนยันว่า ทางออกเดียวของสังคมไทย คือการนำสังคมไทยกลับมาเชื่อมั่นในระบอบรัฐสภาอีกครั้ง”

(คลิปเสียง : ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ)

https://www.facebook.com/NewsWorkpoint/videos/1818712734833717/

อภิสิทธิ์ “ผมไม่ใช่คำว่าอนาคตใหม่นะ เพราะว่าผมดูยังไงอนาคตอะไรก็ใหม่ แต่เราต้องการอนาคตที่ดีกว่า ( แหย่เล่นครับ ) สิ่งที่สำคัญก็คืออย่างนี้ที่กลับมาอาจจะต้องพูดถึงที่คุณธนาธรพูดสักนิดนึงเหมือนกันเพราะว่า ต้องระมัดระวัง คือผมเนี่ยเห็นด้วย 100 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้วว่า วันนี้ประเทศไทยต้องวิ่งเร็วมากกับความสูญเสียโอกาสที่ผ่านมา แต่ว่าเราอย่าไปเน้นจุดขายประชาธิปไตยโดยเน้นเรื่องผลลัพธ์ เพราะเราจะติดกับดักเดิม ทำไมเป็นอย่างนั้น เมื่อสักครู่คุณธนาธรพูดว่า เราเคยตั้งต้นอยู่เท่าๆกับ มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวันอะไรต่างๆ ผมไม่แน่ใจว่า เราพร้อมจะเรียกสิงคโปร์ว่าเป็นประชาธิปไตย

แล้วก็ถ้าเราดูในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศที่ไปเร็วและไปไกลสุดในช่วงที่ผ่านมา คือ จีนนะครับ แล้วจีนก็กำลังขาย หรือชูความเป็นระบบของเขา ซึ่งผมก็เชื่อมั่นว่า คนที่อยู่ในห้องนี้ก็ไม่ได้มองว่าเขาเป็นประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นสำหรับผม ผมจะไม่พูดถึง คุณค่าของประชาธิปไตยโดยไปตั้งเกณฑ์วัดไว้อย่างนั้นก่อน แต่ผมตั้งคุณค่าของประชาธิปไตยอยู่ที่ว่า มันเป็นระบบที่คนจะได้รับการเคารพศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ และมีสิทธิเสรีภาพ แน่นอนการใช้สิทธิเสรีภาพ แน่นอนการใช้สิทธิเสรีภาพนั้นบางช่วงบางขณะอาจจะใช้ผิด อาจจะเกินเลย แต่ตัดสินใจในบางขณะอาจจะเลือกคนผิด เลือกรัฐบาลผิด ทำให้เกิดปัญหาขึ้น แต่คุณค่าของระบอบประชาธิปไตยคือ มันต้องสามารถแก้ไขตัวเองได้ และแก้ไขได้โดยความยินยอมพร้อมใจของคนในประเทศ

เพราะฉะนั้นถ้าเรามองอย่างนี้ ผมถึงบอกว่าสิ่งที่จะต้องทำต่อไป ก็คือถ้าเราเชื่อมั่นว่า ในระยะยาวระบอบประชาธิปไตยแบบเสรีนิยม คือคำตอบในทุกๆ ด้าน แต่มันจะไม่ราบรื่น ผมไม่เคยมองว่าการเมืองแบ่งขั้วในตัวของมันเองเป็นปัญหา หลายประเทศที่เป็นประชาธิปไตยและยังประสบความสำเร็จในแง่ของระบบการเมือง ก็เป็นการเมืองที่แบ่งขั้ว บางทีก็รุนแรงพอๆกับเราด้วย แต่มันอยู่ที่ว่าเมื่อมีการแบ่งขั้วแล้ว เราใช้สิทธิเสรีภาพ เราอยู่ร่วมกันอย่างไรที่จะรักษาระบอบประชาธิปไตยไว้ได้ด้วยซึ่งก็คือการเลิกเลี่ยงความรุนแรงและอื่นๆ”

(คลิปเสียง : อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)

https://www.facebook.com/NewsWorkpoint/videos/1818718918166432/

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“เพื่อไทย-ปชป.-อนาคตใหม่” มองตรงกันปลดกับดัก แก้รัฐธรรมนูญ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า