SHARE

คัดลอกแล้ว

 

“อภิสิทธิ์” ชู ความเป็นสถาบันพรรคการเมือง “ยึดประชาชนเป็นใหญ่-ประชาธิปไตยสุจริต” บอกแปลก ปิดรับสมัคร ส.ส. มีแค่ “ประชาธิปัตย์” พรรคเดียวที่ปราศรัยใหญ่

วันที่ 8 ก.พ. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยใหญ่ภายในมหาวิทยาลัยธนบุรี เขตทวีวัฒนา ตอนหนึ่งกล่าวว่า วันนี้เป็นวันสำคัญในทางการเมืองของประเทศไทย เพราะเมื่อถึงช่วงเย็นของวันนี้ถือว่า เป็นการปิดรับสมัครเลือกตั้ง ทั้งในส่วนของ ส.ส. ในเขตเลือกตั้งต่างๆ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และการเสนอชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดย คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในวันที่ 15 ก.พ.นี้

แต่เป็นเรื่องแปลก พี่น้องคนไทยกว่าจะผ่านมาถึงวันนี้ได้ ผ่านหลายสิ่งหลายอย่างมา 5 ปีที่ผ่านมา จริงๆ มากกว่า 5 ปี เราเผชิญกับปัญหาการเมืองที่ล้มเหลว มีการใช้อำนาจในทางไม่ชอบ พยายามจะไปรับรองการทุจริตคอร์รัปชั่น ประชาชนไม่ยอมเกิดการชุมนุมการต่อต้าน นำไปสู่สถานการณ์ที่บานปลาย สุดท้ายเกิดการรัฐประหาร หลังจากนั้นคณะรัฐประหารใช้เวลาจัดทำกฎหมาย และขั้นตอนต่างๆ เป็นเวลาเกือบ 5 ปีเต็ม ระหว่างทางมีความไม่แน่นอน มีความหวั่นไหวเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นจะยุบพรรคการเมืองไหม หรือการสร้างกติกาต่างๆ มากมาย จนทำให้หลายคนบ่นว่า แล้วพรรคการเมืองจะดำเนินงานทางการเมืองเติบโตได้หรือไม่

วันนี้ถึงแปลกไงครับ รับสมัครกันมาตั้งแต่ต้นสัปดาห์จนถึงวันนี้ ปกติพรรคการเมืองต่างๆ ปราศรัยใหญ่ไปแล้วครับ แต่วันนี้มีพรรคการเมืองที่ยืนปราศรัยใหญ่อยู่กับพี่น้องประชาชน คือ พรรคประชาธิปัตย์ เราผ่าน 5 ปีมาไม่เหมือนพรรคการเมืองอื่น เราไม่เคยปิดพรรค เราไม่ได้ฝ่าฝืนกฎหมาย เราไม่ได้สร้างความวุ่นวาย ไม่ได้ตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับใคร แต่ผม ผู้บริหารพรรคบอก เราไม่ปิดพรรคเพราะหน้าที่นักการเมืองไม่มีวันหยุด ไม่ให้ทำกิจกรรมการเมืองไม่เป็นไร แต่ทุกข์ของประชาชนทุกวันพวกเราทุกคนต้องติดตาม ประเด็นไหนประสานงานได้เดินหน้า

เราไม่เคยหยุดวิพากษ์วิจารณ์ หรือให้ความเห็น บางครั้งก็ทางบวก อะไรที่รัฐบาลดำเนินการเราเห็นว่าดีก็ว่าดี แต่อะไรที่จะเสียหายเราไม่เคยหวั่นเราก็พูดวิจารณ์ตรงไปตรงมาด้วยความสุจริตใจ เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีคำขวัญว่า “สัจจังเว อมตะวาจา” เมื่อเป็นเรื่องจริงเราพูดได้ตลอดเวลา และคำพูดนั้นอยู่กับเราตลอดไป

5 ปีที่ผ่านจึงเป็น 5 ปีที่เราเรียนรู้ความทุกข์ของประชาชน 5 ปีที่ผ่านเป็น 5 ปีที่เราไปคลุกคลีและแสวงหา ว่า ทุกข์ของประชาชนเราจะแก้ไขได้อย่างไร ดังนั้นมาถึงวันนี้กระบวนการการเลือกตั้งเริ่มขึ้นแล้ว เรามายืนตรงนี้เราพร้อมเดินหน้าทำงานให้กับประชาชน ส.ส.เที่ยวนี้ 350 เขต ประชาธิปัตย์ส่ง 350 คน บัญชีรายชื่อมี 150 คน ประชาธิปัตย์ส่ง 150 คน นายกรัฐมนตรีมีคนเดียว ประชาธิปัตย์ส่งคนเดียวครับ นี่คือมาตรฐานของพรรคการเมือง ไม่ว่าที่ผ่านมา 5 ปีจะเกิดความสับสนอย่างไรก็ตาม ประชาธิปัตย์ไม่เคยสับสน เพราะเราเป็นพรรคการเมืองที่เป็นสถาบัน มีระบบที่ชัดเจนและไม่เคยหยุดยั้งที่จะพัฒนา ผมมายืนตรงนี้ไปอยู่ในบัญชีเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผมมาจากการเลือกตั้งจากสมาชิกทั่วประเทศกว่าแสนคนที่ไปลงคะแนน

จากวันนี้ถึง 24 มีนาคม ผมเชื่อว่าหลายพรรคจะเริ่มมาพูดคล้ายๆ กับประชาธิปัตย์ อาจจะเอาความคิดเราไปบ้าง อาจจะคิดตรงกันบ้างและผมเชื่อว่าจะพูดเหมือนเรา แต่พยายามเสนอบางสิ่งบางอย่างให้ดูหวือหวากว่า ผมไม่เคยเชื่อว่า นโยบายเดียวกันใครก็พูดได้ แต่ไม่ใช่ใครทำได้ เป็นรัฐบาลพรรคเดียวที่แก้ปัญหาที่ดินอย่างยั่งยืนวันนี้เราจะต่อยอดเป็นโฉนดสีฟ้า

การเมืองที่รุนแรงในช่วงรัฐบาลผม ไม่ได้นำไปสู่สงครามกลางเมือง ไม่ได้นำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหาร ไม่ได้นำไปสู่ภาวะความขัดแย้งจะเกิดรอยแผลจนกระทั่งประเทศไทยไม่สามารถจะกลับมาได้ เราจัดการให้ประเทศเดินต่อได้ เดินเข้าสู่การเลือกตั้งเมื่อปี 54 อย่างเรียบร้อย นี่คือพรรคการเมืองที่ท่านมั่นใจได้ว่าเราไม่หนีปัญหาไปไหน และเราพร้อมเผชิญทุกสถานการณ์ บางคนบอกว่า ผู้นำประชาธิปัตย์อาจดูไม่เข้มแข็งหรือเปล่า ขออภัยครับ ผมกับท่านนายกฯ ชวน (หลีกภัย) ถูกเลี้ยงดูมาให้เป็นคนสุภาพ ไม่ได้คิดว่าการขึ้น มึง กู จะทำให้ผมเข้มแข็งขึ้น ผมไม่ได้คิดว่า ถ้าเสียงดังจะทำให้สิ่งที่พูดถูกต้องขึ้น แต่เราเอาความจริงมาพูด เราให้เกียรติทุกคน และเราต้องการให้สังคมเราเป็นสังคมที่เดินไปข้างหน้าด้วยเหตุด้วยผลอย่างมีสติ

วันนี้ผมจึงบอกว่า ประเทศไทย สังคมไทยต้องตั้งหลักให้ได้ เราสับสนกับการเมืองที่มันผิดปกติมา 10 กว่าปีแล้ว วันถึงเวลาที่พาประเทศไทยเข้าสู่มาตรฐานสากล ความเป็นสถาบันของพรรคการเมืองจึงจะเป็นหลักให้กับท่านได้ ถ้าท่านสับสนกับการเมือง ท่านต้องหาพรรคที่มีหลักการ เพราะหลักการจะเป็นวิธีเดียวที่ขจัดความสับสน ถ้าท่านหว้าเหว่ท่านต้องหาพรรคที่ไม่ทิ้งท่าน พรรคประชาธิปัตย์เป็นเพื่อนท่านได้ วันนี้ถ้าเราตั้งหลัก ตั้งสติกันเรามีโอกาสแล้วที่จะผลักดันให้ประเทศมีความเจริญก้าวหน้าได้ หลักการง่ายๆ ของประชาธิปัตย์ 1 ประชาชนเป็นใหญ่ และ 2 ประชาธิปไตยสุจริต

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า