อภิสิทธิ์ – สุดารัตน์ หาเสียงตรงกันเศรษฐกิจดีกว่านี้ถ้าเลือกเรา

2 พรรคใหญ่ ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย เดินสายลงพื้นที่ชูแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ใจตรงกันประกาศเศรษฐกิจทุกวันนี้แย่ ขอประชาชนให้เลือกพรรคของตนที่มีวิธีการที่ดีกว่า

วันที่ 13 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีคำสั่งหัวหน้า คสช.ให้มีการปลดล็อกสามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้ แม้จะยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง แต่หัวหน้าพรรคและแกนนำคนสำคัญของแต่ละพรรคการเมืองต่างลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ จ.สุโขทัย พบประชาชนรวม 4 จุด โดยเสนอนโยบายดูแลสินค้าเกษตรทั้งข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อย ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มีระบบประกันรายได้จ่ายเงินส่วนต่างให้เกษตรกร, นโยบายเด็กเรียนฟรี มีอาหารกลางวันให้, เรียนจบมามีงานทำ และประกาศจะแก้ปัญหาที่ดินทำกิน โดยใช้นโยบายโฉนดชุมชนที่เคยดำเนินการโดยจะต่อยอดจากเดิม

ส่วนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่รัฐบาลกำลังดำเนินการ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นนโยบายที่ไม่เข้าใจประชาชน ทำให้เศรษฐกิจชุมชนไม่เกิดการหมุนเวียน และการที่รัฐบาลปัจจุบันขาด ส.ส. ซึ่งเป็นผู้แทนของประชาชนในพื้นที่ ที่จะสะท้อนปัญหา ทำให้ออกนโยบายแบบไม่เข้าใจประชาชนจึงแก้ปัญหาให้ประชาชนไม่ได้จริง เลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่ประชาชนจะเลือกพรรคการเมืองแบบไหน นักการเมืองแบบไหนไปทำนโยบายอะไร ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียมนโยบายสำหรับแก้ปัญหาสินค้าเกษตรทุกตัวของพี่น้องเกษตรกรทุกภาคไว้เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ประเด็นเรื่องการเมือง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มีคนบอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนขึ้นมาเพื่อพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง ตนกลับมองว่ารัฐธรรมนูญไม่สามารถที่จะระบุได้ว่าพรรคการเมืองไหนเป็นพรรคการเมืองใหญ่ และพรรคการเมืองไหนเป็นพรรคการเมืองเล็ก มีเพียงเสียงของประชาชนเท่านั้นที่จะกำหนดได้ว่าจะเลือกพรรคการเมืองไหนให้เป็นพรรคการเมืองใหญ่ โดยผ่านเลือกตั้ง และพรรคนั้นก็ได้เข้ามาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

“การเลือกตั้งครั้งนี้ใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาล ต้องพูดให้ชัดเจน ว่าเมื่อเข้ามาเป็นรัฐบาลจะมาทำอะไรให้ประชาชนในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เราประกาศชัดเจนแล้วว่า เราจะเข้าไปเป็นรัฐบาล เพื่อได้ทำงานรับใช้ประชาชน ทุกนโยบายที่เตรียมไว้ต้องได้เดินหน้าเพื่อประชาชน ไม่ใช่เข้าไปเพื่อหวังตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น วันนี้พรรคประชาธิปัตย์พร้อมแล้วที่จะพาประเทศไทยเดินไปข้างหน้าเพื่อความเป็นอยู่ของพี่น้องคนไทยที่ดีขึ้น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยเพลิงไหม้ภายในตลาดเทศบาล 3 อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ และพบปะประชาชนบริเวณศาลหลักเมือง

จากนั้นให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ศรีสะเกษ เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ มีสินค้าที่เป็นพืชเศรษฐกิจหลายชนิดมั่นใจว่าจะสามารถยกระดับราคาสินค้าเกษตรให้สูงขึ้นได้ และพรรคเพื่อไทยมีบุคลากรที่มีความพร้อมในทุกเขต แต่ไม่มีโอกาสได้ดูแลประชาชนในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยจึงอาสาเข้ามาแก้ปัญหาให้ประเทศหลุดพ้นจากความล้าหลัง มีหน้าที่นำเสนอว่าหลังเลือกตั้งประเทศจะมีอนาคตอย่างไร เศรษฐกิจจะดีอย่างไร และเห็นว่าเมื่อเกษตรกรไม่มีกำลังซื้อ จึงส่งผลกระทบต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจของทั้งประเทศ

ในช่วงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส. จังหวัดศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทยทั้ง 8 เขต ที่ศาลาเอนกประสงค์ ศรีสะเกษเอฟซี คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวตอนหนึ่งว่า พรรคเพื่อไทยมีวิธีการ มีแนวนโยบาย รู้ความต้องการ รู้ปัญหาของประชาชน และพร้อมจะเข้ามายกระดับคุณภาพชีวิตดูแลประชาชน แก้ไขปัญหาหนี้สิน แก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทั้งข้าว ยางพารา และพืชหลักชนิดต่างๆ ในพื้นที่ พร้อมต่อยอด นโยบายที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว และหากมีโอกาสเข้ามาแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรเชื่อว่าจะสามารถยกระดับราคาข้าวได้สูงถึง 20,000 บาท

ดังนั้นหากประชาชนไม่ต้องการทุกข์ทนกับความยากลำบากเหมือนตลอดหลายปีที่ผ่านมา ขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยเข้าไปแก้ไขปัญหา