สัปดาห์นี้ รัฐบาลอังกฤษเตรียมใช้มาตรการใหม่ สามารถยึดทรัพย์สินต้องสงสัยทุจริต ที่มีมูลค่าเกินกว่า 50,000 ปอนด์ จนกว่าเจ้าของจะชี้แจงที่มาอย่างเหมาะสมได้ เพื่อปราบปรามผู้ก่อทุจริตคอรัปชั่นและอาชญากรรมข้ามชาติในอังกฤษ
สื่ออังกฤษอย่าง ดิ อินดิเพนเดนท์ รายงานว่า นายเบน วอลแลนซ์ รัฐมนตรีด้านความมั่นคงแห่งอังกฤษ เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ อังกฤษเตรียมใช้มาตรการใหม่ ที่รัฐบาลสามารถยึดทรัพย์สินของมหาเศรษฐีหรือคนร่ำรวยในอังกฤษ หากทรัพย์สินนั้นมีมูลค่าเกิน 50,000 ปอนด์ หรือประมาณ 2.22 ล้านบาท ที่ต้องสงสัยว่า อาจมีการได้มาอย่างทุจริตหรือได้รับผลประโยชน์จากการดำเนินการอาชญากรรมผิดกฎหมาย และเจ้าของไม่สามารถชี้แจงที่มาของทรัพย์สินนั้นได้ โดยจะยึดไว้จนกว่าจะสามารถชี้แจงที่มาได้อย่างเหมาะสม
มาตรการนี้ เพื่อเป็นการปราบปรามผู้ที่ก่อการทุจริตคอรัปชั่น ก่ออาชญากรรมข้ามชาติ และสกัดกั้นการนำเงินที่ผิดกฎหมายเข้ามาในอังกฤษ ซึ่งนายเบนย้ำว่า รัฐบาลจะใช้อำนาจสูงสุดในการจัดการปัญหาอย่างเต็มที่
เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่า ในแต่ละปีมีการฟอกเงินผิดกฎหมายในอังกฤษกว่า 90 พันล้านปอนด์ หรือประมาณ 4 ล้านล้านบาท ส่วนมากจะพบการฟอกเงินในบริษัทการเงิน ตลาดอสังหาริมทรัพย์
ขณะที่บีบีซีรายงานว่า กรุงลอนดอนเป็นที่อยู่อาศัยของคนที่รวยที่สุดในโลกบางคน และมีรายงานว่ายังเป็นแหล่งกบดานของผู้กระทำผิดข้ามชาติที่เข้ามาฟอกเงินด้วยการซื้อทรัพย์สิน เพื่อปกปิดความมั่งคั่งที่ได้มาอย่างผิดกฎหมายของพวกเขา
