กรุงลอนดอนมีคดีฆาตกรรมสูงกว่านิวยอร์กในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา พบก่อเหตุด้วยอาวุธมีดเพิ่มขึ้น รัฐบาลกำลังหารือการจำกัดการใช้อาวุธรุนแรงและโทษทางกฎหมาย
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (3 เม.ย. 2561) จากตัวเลขทางสถิติพบว่า อัตราการฆาตกรรมในลอนดอน ประเทศอังกฤษ สูงกว่านิวยอร์ก ของสหรัฐฯ ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เดือน ก.พ. 2561 กรุงลอนดอน มีการฆาตกรรม 15 ครั้ง ขณะที่นิวยอร์กมี 14 ครั้ง
ส่วนในเดือน มี.ค. 2561 เกิดคดีฆาตกรรม 22 ครั้งในลอนดอน และ 21 ครั้งในนิวยอร์ก ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปเมื่อเดือน ม.ค. พบว่านิวยอร์มีคดีฆาตกรรมสูงกว่า โดยเป็นข้อมูลจากสกอตแลนด์ยาร์ดหรือสำนักงานตำรวจนครบาลกรุงลอนดอนและสำนักงานตำรวจนิวยอร์ก
คดีนองเลือดสะเทือนขวัญล่าสุดเป็นศพของเด็กหญิงวัย 17 ปี ถูกยิงจนเสียชีวิตในเมือง Tottenham ตอนเหนือของกรุงลอนดอน หลังจากก่อนหน้าชายคนหนึ่งถูกอาวุธมีดแทงเสียชีวิตทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน
โฆษก นายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีลอนดอน ได้กล่าวว่า นายซาดิกรู้สึกเป็นกังวลอย่างมากกับอาชญากรรมที่รุนแรงในเมืองหลวง ทุกชีวิตที่เสียไปจากอาชญากรรมรุนแรงเป็นโศกนาฏกรรมสุดเศร้า แม้ว่าลอนดอนจะเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลก แต่นายซาดิกต้องการให้เมืองมีความปลอดภัยมากกว่านี้ และกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อต่อสู้กับความรุนแรงบนท้องถนนที่มีมากขึ้น
อย่างไรก็ตามปัญหาความรุนแรงจากอาวุธปืนในอังกฤษมีน้อยกว่าสหรัฐฯ เนื่องจากมีกฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดกว่า ขนาดที่ว่าตำรวจอังกฤษส่วนใหญ่ไม่มีอาวุธปืน แต่นักการเมืองและตำรวจกังวัลความรุนแรงจากมีดที่มีมากขึ้น จากคดีฆาตกรรมในลอนดอน 47 ครั้ง พบว่าก่อเหตุด้วยอาวุธมีดถึง 31 ครั้ง
กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษระบุว่า กำลังหารือเกี่ยวกับกฎหมายใหม่ในการควบคุมอาวุธอันตราย รวมทั้งห้ามมิให้ร้านค้าออนไลน์จัดส่งมีดไปยังที่อยู่อาศัยและโทษการพกอาวุธในที่สาธารณะ
“รัฐบาลกำลังดำเนินการเพื่อจำกัดการเข้าถึงอาวุธที่ไม่เหมาะสม ตลอดจนปกป้องเด็ก ครอบครัว และชุมชนของเราจากความรุนแรง” โฆษกสำนักโฮมออฟฟิศกล่าว ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของสหราชอาณาจักร
ส่วนองค์กรการกุศลต่อต้านอาชญากรรมกล่าวว่า สังคมออนไลน์เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดวิกฤตความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น และดูเหมือนจะเลวร้ายกว่าปีก่อนๆ