SHARE

คัดลอกแล้ว

จากเหตุการณ์ที่ทีมนักฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี่ 13 ชีวิต หายเข้าไปในถ้ำหลวง และหลายหน่วยงานได้เข้าช่วยเหลือ ท่ามกลางอุปสรรคมากมาย หนึ่งในนั้นคือ “น้ำในถ้ำ” ที่ ปชช.จำนวนไม่น้อยสงสัยว่ามาจากไหน อาจารย์หมอท่านหนึ่งจึงได้มาไขข้อข้องใจให้ผ่านเฟซบุ๊ก

วันที่ 28 มิ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ที่ชาวไทยทั้งประเทศร่วมส่งแรงจิตอธิษฐาน และขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้เจ้าหน้าที่พบเด็กชายทีมนักเตะหมูป่าอะคาเดมี่และโค้ช รวม 13 ชีวิต ที่หายเข้าไปในถ้ำหลวง จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา และจนถึงขณะนี้ก็ยังหาไม่พบ อีกทั้งมีอุปสรรคนานัปการ ไม่ว่าจะเป็นฝนที่ตกลงมาแทบทุกวัน ปริมาณน้ำในถ้ำ ความมืดในถ้ำ ฯลฯ แต่ถึงกระนั้น เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนก็มิได้ย่อท้อต่อการค้นหา และยังคงระดมความคิดในการค้นหากันอย่างต่อเนื่องนั้น

ทางด้านโลกโซเชียล ก็ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Rungsrit Kanjanavanit หรือ “หมอหม่อง” นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ไขข้อสงสัยของประชาชนจำนวนไม่น้อย ว่าน้ำในถ้ำมาจากไหน

โดยได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า “บ่อยครั้ง เวลาเราไปเที่ยวถ้ำ เรามักพบว่า ที่ปากถ้ำ มีลำธารไหลออกมา เราอาจสงสัยว่า ธารน้ำไหลมาจากไหน ถ้ำบางถ้ำนั้น แม่น้ำไหลทะลุผ่าน (ธารลอด) แต่บางถ้ำ เราเห็นแต่ธารน้ำไหลที่ออกมา โดยไม่พบทางเข้า ไม่รู้ว่าต้นตอน้ำมาจากไหน

ความลับอยู่ที่ลักษณะเฉพาะของเขาหินปูนที่เป็นแหล่งพบถ้ำครับ

เวลาเราไปเดินป่า ในเขาหินปูน นักเดินป่าจะทราบดีว่าต้องขนน้ำติดตัวไปเองให้เพียงพอ จะไปหวังน้ำบ่อหน้าไม่ได้ ทั้งนี้ เพราะลำธารหรือแหล่งน้ำบนเขาหินปูนนั้นหายากมากๆ

เหตุเพราะ หินปูน นั้น เมื่อถูกน้ำฝนที่รวมตัวกับ CO2 ในดิน เกิดเป็นกรดคาร์บอนิค ก็จะกัดเซาะละลาย กลายเป็นโพรง เล็กใหญ่ ต่อเนื่องตามการไหลของน้ำได้โดยง่าย

น้ำฝนที่ตกบนเขา จึงไม่สามารถเก็บขังอยู่บนผิวพื้นภูเขา แต่ไหลซึมลงไปผ่าน ช่องโหว่ หรือ sink hole ที่มีอยู่มากมาย ลงไปสะสมในโพรงใต้ภูเขา ไหลออกมาเป็นธารน้ำที่หน้าปากถ้ำนั่นเอง

ฝนยิ่งตก น้ำก็ยิ่งซึมลงไปใต้ภูเขา ระดับน้ำในถ้ำก็จะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงเป็นเรื่องน่ากลัวมากครับ”

ทั้งนี้ ภาพที่อาจารย์หมอนำมาประกอบนั้น อาจารย์หมอระบุเอาไว้ว่า เป็นภาพจากหนังสือของลูก Knowledge Encyclopedia สำนักพิมพ์ DK

โดยภายหลังจากเรื่องราวดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ ชาวโซเชียลต่างก็ให้ความสนใจ แชร์และแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย

https://www.facebook.com/rungsrit.kanjanavanit/posts/10205056766495242

 

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก FB: Rungsrit Kanjanavanitคาเธ่ย์ หมี

 

ติดตามข่าวที่น่าสนใจได้ที่ http://www.workpointnews.com

Facebook / https://www.facebook.com/WorkpointNews/

Instagram / https://www.instagram.com/workpointnews/

Twitter / https://twitter.com/workpoint_news

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า