“อูเบอร์” จะหยุดให้บริการในไทย 8 เม.ย. นี้ หลังขายกิจการให้แกร็บ

“อูเบอร์” ขายกิจการทั้งหมดให้ “แกร็บ” ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันจนถึงวันที่ 8 เมษายน นี้ ก่อนควบรวมการให้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น “Grab”

อูเบอร์ (Uber) ผู้ให้บริการเรียกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมถึงส่งอาหาร (Uber Eats) ผ่านแอปพลิเคชัน แถลงการณ์อย่างเป็นทางการที่สิงคโปร์วันนี้ (26 มีนาคม 2561) ว่า จะขายกิจการทั้งหมดให้กับแกร็บ (Grab) คู่แข่งในธุรกิจเดียวกัน ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ในประเทศไทย มาเลเซีย กัมพูชา เมียนมา เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

แอปพลิเคชันเรียกรถของอูเบอร์จะให้บริการในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงไทย จนถึงวันที่ 8 เมษายน 2561 นี้เท่านั้น ซึ่งภายหลังจะรวมอยู่ในแอปพลิเคชัน “Grab”  ส่วนบริการส่งอาหารผ่าน Uber Eats จะให้บริการถึงเดือนพฤษภาคม 2561 ก่อนที่จะรวมกับ GrabFood

ข้อตกลงนี้จะทำให้อูเบอร์เข้าถือหุ้นในแกร็บ 27.5%  ทั้งนี้ นายดารา คอสราวชาฮี (Data Khosrowshahi) ประธานกรรมการบริหารของอูเบอร์จะเข้ามานั่งในบอร์ดของแกร็บด้วย โดยจะเตรียมย้ายฐานข้อมูลต่างๆ ของอูเบอร์เข้าสู่แพลตฟอร์มของแกร็บ แต่คนขับเดิมของอูเบอร์จะต้องลงทะเบียนกับแกร็บใหม่อีกครั้ง

นายคอสราวชาฮี ระบุว่า อูเบอร์เริ่มให้บริการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สิงคโปร์เมื่อ 5 ปีก่อน เป็นเรื่องที่ยากมากกว่าที่อูเบอร์จะมาถึงจุดนี้ ซึ่งได้ลงทุนไปแล้วกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ แต่ตอนนี้อูเบอร์มีมูลค่าถึงหลายพันล้านดอลลาร์ และเชื่อว่าการควบรวมกับแกร็บจะทำให้สามารถลดต้นทุนได้ตามแผน และเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับอูเบอร์ในภูมิภาคนี้

อย่างไรก็ตาม อูเบอร์ยังคงต้องเจอกับคู่แข่งในตลาดเดียวกันอย่าง โก-เจ็ค (Go-Jek) ของอินโดนีเซียที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและเตรียมให้บริการในฟิลิปปินส์ภายในปีนี้ ส่วนที่จีนอูเบอร์ก็ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดจาก ตีติ ไคว่ตี (Didi Kuaidi) ที่เกิดจากความร่วมมือของอะลีบาบา (Alibaba) และเทนเซ็นต์ (Tencent) จนในที่สุดอูเบอร์ต้องขายกิจการทั้งหมดในจีนให้ Didi Kuaidi เมื่อปี 2015 โดยภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น ตีติ ชูซิ่ง (Didi Chuxing)