SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ – ส่งจดหมายเปิดผนึก ถึงนักข่าวกระทรวงศึกษาธิการ อ้างชื่อ “รจนา สินที” อดีตข้าราชการถูกไล่ออก กรณีทุจริตกองทุนเสมา ซัดประธานสอบพูดปด พร้อมยืนยันจะไม่หนี

ความคืบหน้าทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา มีจดหมายเปิดผนึกลึกลับ อ้างชื่อว่าเป็น นางรจนา สินที อดีตข้าราชการที่ถูกไล่ออกจากกรณีทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ส่งมาถึงผู้สื่อข่าว ที่กระทรวงศึกษาธิการ โดยจดหมาย ระบุว่า ส่งถึงนายกรัฐมนตรี มีเนื้อหาระบุว่า การออกจดหมายฯ ฉบับที่ 2 เพื่อกราบเรียนข้อความจริงที่สังคมควรจะต้องรับรู้ คือ

การพิจารณาโทษทางวินัยกระทำการโดยเร่งด่วน รวบรัด ผิดหลักการขาดความชอบธรรม ไม่มีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อเรียกสอบสวนตามที่ควรจะเป็น และเร่งรีบสรุปผลสอบวินัยทันที จำนวนเงินยังไม่ได้ข้อยุติต้องสืบค้น ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ทำหน้าที่ในกรณีนี้ส่อพฤติกรรมมีข้อสงสัยให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนและยังลุแก่อำนาจในบางประการ อาทิ การให้ข่าวของ นายอรรถพล ตรึกตรอง ประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ลงเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2561 ระบุว่า มีการนัดหมาย นางรจนา สินที ให้ปากคำในวันที่ 5 เม.ย. 2561 และกล่าวว่า “ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้โทรไปคุยกับนางรจนา สินที เพื่อสอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยนางรจนา พูดด้วยน้ำเสียงเนือยๆ ไม่สดชื่น พร้อมยังยืนยันว่าการดำเนินการเพียงคนเดียว” ซึ่งนายอรรถพล กล่าวเท็จทั้งสิ้น เพราะว่า ดิฉันไม่เคยได้รับการติดต่อไปให้ปากคำแต่อย่างใด ส่วนที่แจ้งว่าโทรหาดิฉันนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะโทรศัพท์ของดิฉันได้ถูก เจ้าหน้าที่ป.ป.ท.เก็บไปในวันที่บุกค้นบ้านของดิฉันเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2561 และในช่วงนี้ดิฉันถูกโทษวินัยร้ายแรงไล่ออกจากราชการแล้ว จะให้ไปสอบอะไรอีกท่านเป็นผู้ใหญ่แล้ว “โปรดอย่าพูดปด เอาดีใส่ตัว ชั่วให้คนอื่น”

ในช่วงเวลาต่อมา นายอรรถพล ก็ได้ให้ข้อมูลต่อสื่อว่า ดิฉันเข้าไปเกี่ยวข้องกับการโอนเงินไปให้บุคคล หน่วยงานอีกหลายแห่ง แม้กระทั่งว่าบังคับให้เด็กเปิดบัญชีเอาเงินผ่านเพื่อ “โกงรัฐ” อย่างน่าอับอาย ซึ่งไม่เป็นความจริง

ขณะเดียวกัน ก็ใช้อำนาจเรียก โดยวาจาให้ข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับกรณีของดิฉันมารายงานตัวให้ข้อมูล ทั้งที่คนเหล่านี้ยังบริสุทธิ์และบางคนไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ

ด้วยความเคารพต่ออดีตผู้บังคับบัญชา ดิฉันกล้ารับถูก รับผิด ถ้าเรากระทำจริง แต่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่บางคนที่เข้ามาเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์รัฐและพิทักษ์ความเป็นธรรมแล้วมีพฤติกรรมดังกล่าวที่ว่า “บุคคลใดกล่าววาจาเป็นเท็จนอกจากจะไม่สุจริตแล้ว จะหาความเที่ยงธรรมก็ลำบากเหลือประดา” จึงกราบเรียนท่านนายกรัฐมนตรีโปรดพิจารณาตรวจสอบพฤติกรรมของข้าราชการท่านดังกล่าวเหมาะสมในการทำหน้าที่ตรวจสอบให้ความเป็นธรรมหรือไม่ และอาจเข้าข่ายทำผิดระเบียบวินัยและกฎหมายกรณีการให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆซึ่งอาจทำให้ราชการเสียหายด้วยหรือไม่

ในกรณี คดีทุจริตคอรัปชันในกระทรวงศึกษาธิการจำนวนมากที่ผ่านมา โปรดสั่งให้ตรวจสอบด้วยว่าความเสียหายเป็นอย่างไร เช่น คดีในสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา( สกสค.) หลายคดีความเสียหายหลายพันล้านบาท คดีการก่อสร้างสนามฟุตซอลทั่วประเทศ เสียหายหลายร้อยล้านบาท โครงการไทยเข้มแข็งของอาชีวศึกษา เสียหายหลายพัน ล้านบาท ความเสียหายการสร้างอควาเรียมสงขลา เสียหายกว่าพันล้านบาท ความเสียหายโครงการ MOE NET ศธ.เสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท ความเสียหายโครงการ CCTVใต้ เสียหายกว่า 400 ล้านบาท ฯลฯ

กรณีการทุจริต “โกงเงินคนจน” ในกระทรวงพม. เป็นปรากฎการณ์เกิดขึ้นแทบทุกจังหวัดทั่วประเทศ ผู้กระทำผิดจำนวนมา ความเสียหายจำนวนมาก และส่งผลต่อผู้ด้อยโอกาสจำนวนมาก หลักฐานชัดเจน แต่การลงโทษทางวินัยข้าราชการระดับสูง “ให้ออกชั่วคราว” ทำไมไม่กระทำเป็นบรรทัดฐานเดียว กับกรณีของดิฉันซึ่งโทษถึงขั้น “ไล่ออกจากราชการแล้ว”

ท้ายนี้ ดิฉันขอยืนยันว่า จะไม่หนี จะสู้ตามกระบวนการยุติธรรมของไทย และกรณีมีผู้สงสัยว่าจดหมายเปิดผนึก ฉบับลงวันที่ 5 เมษายน 2561 นั้น เป็นของดิฉันหรือไม่นั้น ดิฉันยืนยันอีกครั้งว่า เป็นความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะเสนอข้อมูลที่จะเกิดประโยชน์กับสังคมเช่นนี้เป็นระยะ เพื่อปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของดิฉันและของเพื่อนข้าราชการทุกคนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ไม่ได้รับความเป็นธรรม ตลอดทั้งเป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติและประเทศให้ถึงที่สุด หนังสือฉบับดังกล่าวระบุุ

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศธ. มีมติไล่ออก “รจนา” ขรก.ซี 8 ทุจริตกองทุนเสมาฯ 88 ล้านบาท

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า