Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

‘ชัชชาติ’ เปิดใจในวันที่ได้รับความไว้ใจจากคนกรุงเทพมากที่สุด เล่าย้อนวันนี้เมื่อ 8 ปีที่แล้วเกิดรัฐประหาร ย้ำประชาชนเห็นต่างกันได้ แต่อย่าเกลียดกัน

วันที่ 22 พ.ค. 2565 เวลา 20.35 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวที่วอร์รูม สเตเดียมวัน ช่วงคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งแล้ว ว่า “ตอนนี้ก็ 2 ทุ่มครึ่งแล้ว แต่กกต. ยังไม่ประกาศผลเป็นทางการ เราคงต้องรอผลเป็นทางการอีกที แต่เมื่อกี้มีท่านแรกที่โทรมาคือ ท่าน ดร.สุชัชวีร์ (สุวรรณสวัสดิ์) ท่านกรุณาโทรมาแสดงความยินดี เราก็ขอบคุณที่ท่านโทรมาหา และก็ได้กล่าวว่า ถ้าเรามีโอกาสอยากจะร่วมงานกับทาง ส.ก.ของประชาธิปัตย์อย่างเต็มที่ ซึ่งท่านก็รับปากว่าจะดำเนินการร่วมกัน ถ้ามีโอกาส แล้ว ส.ก.ของประชาธิปัตย์มีโอกาส  แล้วต่อมาก็ทางคุณวิโรจน์ (ลักขณาอดิศร) ก็ได้โทรมาแสดงความยินดีก็เช่นกัน เราก็บอกว่าถ้าเรามีโอกาส จะทำงานร่วมกับ ส.ก. ของทางพรรคก้าวไกล ซึ่งคุณวิโรจน์ก็ยินดีที่จะทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร แล้วก็มีการฝากนโยบาย 12 นโยบาย นโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาสภากรุงเทพให้มีคุณภาพ ซึ่งผมว่าเป็นมิติที่ดี สุดท้ายแล้วเราต้องก้าวข้ามความแตกแยก สุดท้ายแล้วต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน ต้องเดินไปด้วยกัน เราก็รับว่าเราจะทำให้กรุงเทพเดินหน้าขึ้นไปได้”

“วันนี้ กกต. ยังไม่ประกาศอะไร แล้วผมก็คงพูดเรื่องคะแนนอะไรไม่ได้เลย แต่ว่าเป็นวันก็เป็นวันที่มีความหมายสำหรับผมส่วนตัวนะ เพราะว่าเมื่อ 8 ปีที่แล้ว มันเกิดรัฐประหารใช่ไหม ผมอยู่ในเหตุการณ์นะ ผมก็ถูกคลุมหัวมัดมือ คืนนี้แหละ ตอนนี้แหละ นาทีนี้เลย ที่ผมถูกนำตัวไปที่ไหนยังไม่รู้นะตอนนี้ ไม่รู้เพราะว่าเขาคลุมหัวไป แล้วตอนกลับเขาก็คลุมหัวกลับ ก็เลยไม่รู้ว่าอยู่ไหนนะ 7 วัน แต่ว่าทั้งหมดนี้ ผมไม่ได้รู้สึกโกรธ หรือว่าแค้น หรือว่าเกลียดเลยนะ ผมว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วเราก็ให้อภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ผมว่า อันนี้มันคือความทรงจำที่เตือนใจเรา ว่าเมื่อไหร่ที่ประชาชนทะเลาะ เกลียด โกรธซึ่งกันและกันเนี่ย สุดท้ายแล้วจะมีกลุ่มคนที่มาได้ผลประโยชน์ ไม่มีประโยชน์เลยที่ประชาชน เห็นกันได้ แต่เราอย่าโกรธอย่าเกลียด อย่าสร้างความเกลียดชังซึ่งกันและกัน ผมว่านี่คือบทเรียนที่สำคัญ”

“ถ้าผมมีโอกาสได้เป็นผู้ว่าฯ ถ้าเกิด กกต. รับรองอย่างเป็นทางการ ผมก็พร้อมที่จะเป็นผู้ว่าของทุกคนไม่ว่าพวกเราท่านไหนจะเลือกผมหรือไม่เลือกผม ก็ต้องรับใช้ทุกคนเหมือนกัน เพราะว่าผมถือว่า เราได้เป็นตัวแทนของคนกรุงเทพ  เพราะฉะนั้นผมว่าอนาคตต่อไป ผมว่าเรามาเดินร่วมกัน เราเห็นต่างกันได้ แต่อย่าเกลียดกัน เราอย่าทะเลาะกัน ผมว่าเลือกตั้งคือระบอบประชาธิปไตย มันผ่านจุดนั้นไปแล้ว ถ้าเกิดคนไหนได้สิทธิ์มาดูแลพี่น้องประชาชน ก็ต้องดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน”

“กรุงเทพเป็นมหานครที่เต็มไปด้วยความหวัง มีความสวยงาม มีสิ่งที่มีคุณค่ามากมาย แต่ที่ผ่านมามันคงมีเหตุการณ์หลายๆ อย่างๆ  ที่มันทำให้เพชรเม็ดนี้ไม่ได้รับการเจียระไนเต็มที่ ผมก็อาสาเป็นผู้นำแห่งความหวังให้พวกเราทุกคน ถ้าสุดท้ายแล้วได้ ขอให้พวกเราเดินร่วมกันไป เราเห็นต่างได้ ในแต่ละเรื่อง… เราอยากจะได้อันนี้ แต่ว่าเราอย่าเกลียดกัน เราอย่าโกรธกัน สุดท้ายเราคุยกันด้วยเหตุผล ผมก็จะพร้อมที่จะเดินไปกับพวกเราทุกคน ผมเชื่อว่า เราทำกรุงเทพให้เป็นมหานคร ที่สวยงาม ที่คนอยู่มีความสุข แล้วจะเป็นมหานครที่ทุกเดินไป พร้อมๆ กัน แล้วก็ทำให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ สำหรับพวกเราทุกคนได้ด้วย”

“วันนี้ก็จริงๆ แล้วก็ตื้นตันใจนะครับ พูดไม่ออก ผมว่ามันก็เป็น ถ้าดูตอนนี้มันก็เหมือนเป็นคำสั่งที่ประชาชนมอบหมายให้เราเป็นตัวแทนของ 31 คน ก็ต้องขอบคุณท่านผู้สมัครทั้งหมด 31 ท่าน  ที่ท่านกรุณาเดินทางร่วมกันมา ผมก็คิดถึงหลายท่านเพราะว่าเราดีเบตกันหลายครั้ง เมื่อกี้คุณวิโรจน์ ดร.เอ้ โทรมายังคิดถึงว่า “เดี๋ยวนัดกินข้าวกันหน่อยวุ้ย” เพราะว่าเราเดินทางร่วมกันมาเกือบ 2 เดือน แล้วก็เป็นการแข่งขันที่บริสุทธิ์ยุติธรรม เราก็ได้สิ่งดีๆ หลายอย่าง ผมว่าเราก็อาจจะคิดเรื่องไวไฟฟรี คิดเรื่องรัฐสวัสดิการเพิ่มเติม คิดเรื่องการหารายได้เหมือนพี่จั้ม (สกลธี) เรื่องการทำโครงการดีอยู่แล้วต่ออย่างไรของท่านอัศวิน เพราะฉะนั้นผู้สมัครทุกท่านมีข้อดีที่เราจะน้อมรับมาแล้วก็เอามาเป็นนโยบายที่ปรับปรุงได้ขอเราก็ไม่ดีครบถ้วนหรอกครับ แต่เราถือโอกาสนี้เอานโยบายของทุกท่านมารวมกัน แล้วก็เป็นนโยบายที่เราจะทำงานกับ ส.ก. ทุกท่านด้วย เพราะว่าอันนี้คือสิ่งสำคัญ ที่เดินมาด้วยกัน ผมว่าของเราบอบช้ำมาเยอะครับ กรุงเทพ แล้วก็ประเทศไทยนะ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเดินไป เห็นต่างได้แต่อย่าทะเลาะกันครับ สุดท้ายแล้วผมเชื่อว่า เมืองไทยมีพลัง มีความหวังอีกมากมาย ก็ขอให้ร่วมใจกันครับ นาทีนี้นะ เดี๋ยวรอ รอกกต. ประกาศเป็นทางการนะครับ”

“ต้องขอบคุณทีมงาน “เพื่อนชัชชาติ” ต้องเป็นบทพิสูจน์ครับว่าพลังของอิสระ พลังของความอาสาสมัครที่มารวมตัวกัน 2 ปีครึ่งที่แล้ว ที่เราเดินแบบเหมือนคนหลงทาง ตอนนั้นยังไม่รู้ไปถูกทางหรือเปล่าเลย มาถึงวันนี้ จากการที่ไม่ต้องเป็นพรรคการเมือง เป็นอิสระ ผมเชื่อว่าเราก็สามารถทำการเมืองได้  แล้วก็มีพลังไม่น้อยกว่าอยู่ในพรรคการเมือง ถ้าเราไปดูข้างบนมีน้องๆ หลายร้อยคนเลย ที่อาสาสมัครมา เพื่อมาร่วมทำงานให้เราในวันนี้ คนรุ่นใหม่เหล่านี้แหล่ะ คือเหตุผลที่ทำไม เราต้องทำให้เมืองดีขึ้น เพราะว่าอนาคตเราต้องส่งไม้ต่อให้คนเหล่านี้ ก็ต้องเอาเป็นส่วนร่วมในคำตอบของเมือง ไม่ใช่เราว่าคิดคำตอบเราโยนให้เขา ต้องเอาคนรุ่นใหม่มาเป็นส่วนร่วมของคำตอบ ให้เขามีพื้นที่ในการสร้างสรรค์ แล้วเดินร่วมไปด้วยกัน”

“ผมว่าจากนี้ไปจะเป็นช่วงเวลาที่สนุก ผมยืนยันว่า 2 ปีที่ผ่านมา คำขวัญหลักของทีมเราคือต้องสนุก เพราะฉะน้้นทีมเราทุกคนที่ทำ ปล่อยของกันเต็มที่ มีอะไรปล่อย การ์ตูน สื่อสารนโยบาย ทุกคนมีอิสระในการคิด เพราะฉะน้้นสิ่งที่ออกมามันคือพลังที่ผมเชื่อว่าจะเปลี่ยนกรุงเทพได้ เพราะฉะนั้นอันนี้ผมว่า เราพิสูจน์ตัวเองมาแล้วว่าที่ผ่านมาเราทำได้ เราเชื่อว่าใน 4 ปี ถ้า กกต. รับรอง ผมเชื่อว่าจะเป็นช่วงเวลาแห่งความหวัง แล้วเราจะสร้างสิ่งดีๆ ให้กรุงเทพอีกมากมาย มหาศ่าล แต่ว่าทุกคนต้องมาร่วมกันครับ กรุงเทพไม่สามารถสร้างได้ด้วยคนกลุ่มนี้ กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทุกคนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคำตอบ และผมเชื่อว่า เราทำได้ให้กรุงเทพ เป็นเมืองที่น่าอยู่ สำหรับพวกเราทุกคน ขอบคุณทุกคนนะครับ ขอบคุณครับ”

ที่มา 

 

 

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า