เกษตรกรยื่นหนังสือถึง “บิ๊กตู่” ร้องแก้ปัญหาหาราคาไข่ตกต่ำ

ประเด็นคือ – ตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยหลายจังหวัด รวมตัวยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้แก้ปัญหาไข่ไก่ราคาตกต่ำ จากการขยายการเลี้ยงของผู้ประกอบการรายใหญ่และการการทำการเกษตรแบบพันธสัญญา โดยเสนอให้รัฐควบคุมการเลี้ยงและการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่

วันที่ 12 ธ.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนเครือข่ายเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยจากภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคเหนือ ยื่นหนังสือต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีนายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเป็นผู้รับ

นางสาวเสาวลักษณ์ เหลืองเรณู เกษตรกรรายย่อย จังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการเลี้ยงไก่ไข่รายย่อยจากทั่วประเทศกำลังประสบปัญหาไข่ไก่ราคาตกต่ำ โดยไข่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ฟองละ 1 บาท 80 สตางค์ ถึง 1 บาท 90 สตางค์ ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต

ขณะนี้ มีผลผลิตไก่ไข่ล้นตลาดวันละ 5 ล้านฟอง จากที่ผลิตได้ทั้งหมด 40 ล้านฟองต่อวัน จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหา โดยจัดแผนการผลิตไข่ไก่/ควบคุมการเลี้ยงของผู้ประกอบการรายใหญ่ 20 ราย การควบคุมการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ และให้ปลดแม่ไก่ยืนกรงเพื่อลดปริมาณผลผลิตลง /การตรึงราคาอาหารสัตว์/การรณรงค์บริโภคไข่ไก่

นายสุนทร พายรัตน์ ตัวแทนเกษตรกรรายย่อยภาคตะวันออก และสมาชิกสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา ระบุว่า แม้สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่จะประกาศราคาไข่คละหน้าฟาร์มขณะนี้อยู่ที่ฟองละ 2 บาท 20 สตางค์ แต่ราคาขายจริง กลับขายได้ไม่ถึงฟองละ 2 บาท เพราะผู้ประกอบการรายใหญ่ขายต่ำกว่า

ทำให้ผู้เลี้ยงรายย่อยต้องขายในราคาขาดทุนเพื่อระบายผลผลิต เช่น ไข่ไก่เบอร์ 0 อยู่ที่ฟองละ 2 บาท 60 สตางค์ เบอร์หนึ่ง 2 บาท 40 สตางค์ เบอร์สอง 2 บาท 30 สตางค์

โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยต้องประสบปัญหาขาดทุนมาโดยตลอด ทำให้ผู้เลี้ยงรายย่อยร้อยละ 50 ต้องปิดกิจการ ขณะที่รายใหญ่ขยายการเลี้ยงเพิ่มขึ้นและใช้การทำเกษตรแบบพันธสัญญาทั้งแบบแอบแฝงและเปิดเผย รัฐจึงควรควบคุมเพื่อไม่ให้กระทบผู้เลี้ยงรายย่อยที่มีถึง 1 หมื่นราย