SHARE

คัดลอกแล้ว

สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะเสนอแนวทางลดความเหลื่อมล้ำและความยากจนให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา หนึ่งในนั้นมีข้อเสนอให้เก็บภาษีกำไรจากการขายหุ้น แต่ดูเหมือนไม่ได้รับการตอบรับจากตลาดทุน และกระทรวงการคลัง

จากการที่สภาพัฒน์ อ้างเหตุความเหลื่อมล้ำของประเทศไทยพร้อมกับมีข้อเสนอหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือให้เก็บภาษีกำไรที่ได้จากการขายหุ้น แต่ดูเหมือนมีเสียงทักท้วงว่าลดความเหลื่อมล้ำ หรือถ่างให้ความเหลื่อมล้ำกว้างออกไป

สภาพัฒน์พูดว่า ความเหลื่อมล้ำประชากร 40% ที่มีรายได้ต่ำสุด มีส่วนแบ่งรายได้เพียง 12% ขณะที่ประชากร 10% ที่มีรายได้สูงสุด มีส่วนแบ่งรายได้สูงถึง 35.5% โครงสร้างเศรษฐกิจเอื้อประโยชน์เจ้าของทุนมากกว่าแรงงาน ไม่กระจายรายได้ การเข้าถึงแหล่งทุนจำกัด

สภาพัฒน์จึงมีข้อเสนอต่อรัฐบาล 6 ข้อ คือ 1. สร้างกลไกในการแก้ไขปัญหาความยากจนและลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ 2. บูรณาการฐานข้อมูลด้านความยากจนแล้วเอาไปใช้กับกลุ่มเป้าหมายแบบเจาะจงเป็นรูปธรรม 3. ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ 4. กำหนดนโยบายการคลังลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เพิ่มการจัดเก็บภาษีจากฐานทรัพย์สิน การจัดสรรงบประมาณ 5. ยกระดับรายได้กลุ่มรายได้น้อย 40% ที่มีรายได้น้อยที่สุด และ 6. ลดความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม ข้อเสนอที่ 4 มีการสอดแทรกพิจารณาการจัดเก็บภาษีกำไรส่วนเกินทุน หรือ Capital Gains Tax

เเต่เรื่องข้างต้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ สภาพัฒน์เองเสนอมาหลายครั้ง แม้แต่บางพรรคการเมืองยังเสนอในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย ภาษีกำไรซื้อขายหุ้น ถูกมองว่า การสร้างความยุติธรรมทางสังคม เพราะเงินได้จากทุนและทรัพย์สินนั้น มากเกินกว่าเงินได้จากน้ำพักน้ำแรง ของคนทำงานและผู้ประกอบการ

สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ คนในตลาดหุ้นคือคนรวยเท่านั้น จริงหรือไม่ กว่า 1 ล้านบัญชีหุ้น อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกือบทั้งหมดคือนักลงทุนรายย่อย บุคคลธรรมดา ความเป็นจริงคือมีคนทุกระดับ ตั้งแต่กลุ่มวัยรุ่นที่เรียนมหาวิทยาลัย คนเพิ่งเริ่มทำงาน คนทำงานประจำ นักลงทุนจริงๆ และกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตหลังเกษียณ คนที่ร่ำรวยจากตลาดหุ้นจริงๆ หากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์มีไม่มากนัก

ในมุมกลับกันคนที่ขาดทุนจากตลาดหุ้น อาจมีจำนวนมากกว่าด้วย ถ้าความเหลื่อมล้ำ ความเท่าเทียม ควรมาพร้อมกับความเป็นธรรม เมื่อจะเก็บภาษีกำไรจากการซื้อขายหุ้น ถ้านักลงทุนขาดทุนจากการซื้อขายหุ้น ต้องคืนภาษีให้นักลงทุนในฐานที่เป็น capital loss ด้วยหรือไม่ เพราะการซื้อขายหุ้นต่างกับการซื้อขายสินค้าทั่วไป กำไรมากน้อยไม่ใช่ขึ้นอยู่กับตัวธุรกิจ เพราะนักลงทุนตลาดหุ้นส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าไปเป็นผู้บริหารกิจการ เป็นเพียงการเอาเงินไปให้บริษัทเพื่อมีส่วนเป็นเจ้าของและบริษัทมีทุนทำกิจการ จะซื้อขายรอจังหวะเวลา

จริงๆ แล้วการซื้อขายหุ้นมีการเสียภาษีในการซื้อขายหุ้นของนิติบุคคล ต้องเสียภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย จะยกเว้นเฉพาะบุคคลธรรมดา แต่บุคคลธรรมดาก็จะเสียค่าใช้จ่าย ทั้งค่านายหน้าตามที่โบรกเกอร์กำหนด ค่าธรรมเนียมตลาดหลักทรัพย์ฯ ค่าธรรมเนียมการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ ทั้งสามข้อคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 เปอร์เซ็นต์

แม้รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงษ์ จะบอกว่ายังไม่เห็นข้อเสนอสภาพัฒน์ ให้เก็บภาษีกำไรส่วนเกินทุน แต่ยอมรับว่าต้องศึกษาให้รอบคอบ รวมถึงสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ที่ยอมรับว่า ตลาดทุนประเทศในภูมิภาคนี้ ไม่มีการจัดเก็บภาษีประเภทนี้ เพราะการพัฒนาตลาดหุ้นอาจจะเกิดการชะงัก นักลงทุนถอนการลงทุน ตลาดหุ้นหยุดการพัฒนา และยิ่งเรามีนโยบายเปิดเสรีตลาดทุน ก็เหมือนว่าจะไปขัดแย้งกันอีก

ผลกระทบที่ชัดเจน คือ ตัดโอกาสธุรกิจเล็กที่มีศักยภาพ และต้องการเติบโต แข่งขันต่างประเทศได้ เมื่อขาดเงินทุนขยายกิจการ ตลาดหลักทรัพย์เป็นแหล่งระดมทุนจากคนอื่นๆ หากการเก็บภาษี ทำให้ธุรกิจชะงักไปด้วย

อาจมีข้อโต้แย้งว่า บางประเทศอย่างสหรัฐฯ ภาษีกำไรส่วนเกินทุน แต่ประเทศนั้นตลาดหุ้นเกิดมาแล้วกว่า 200 ปี นักลงทุนต่างมีความเข้าใจเรื่องการลงทุนเป็นอย่างดี ไทยยังไปไม่ถึงจุดนั้น ตลาดไทยยังเล็กกว่ามูลค่าหุ้นของแอปเปิลตัวเดียวเลย

เม็ดเงินในตลาดหลักทรัพย์ 16 ล้านล้านบาท ก็อาจได้รับผลกระทบหากมีมาตรการภาษีออกมา ความมั่นใจการลงทุนทั้งในและต่างประเทศกอาจหายไป แก้ความเหลื่อมล้ำ ก็อาจต้องแฟร์ด้วย พิจารณาประกอบกับเหตุผล ดูบริบทความพร้อม ไม่ใช่ความรู้สึก

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า