เพิ่มกาลักน้ำรวมกว่า 40 ท่อ บรรเทาน้ำท่วมเขื่อนน้ำอูน หลังน้ำขึ้นเกิน 109 เปอร์เซ็นต์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 ส.ค. 61) สถานการณ์น้ำเขื่อนน้ำอูนยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก 3 – 4 วันที่ผ่านมามีฝนตกสะสม ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ล่าสุดอยู่ที่ 567.44 ล้าน ลบ.ม.จากความจุกักเก็บ 520 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 109.12 มีน้ำเข้าเขื่อน 12.442 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำออก 8.122 ล้าน ลบ.ม.
https://www.facebook.com/NewsWorkpoint/videos/258107851479520/
ทั้งนี้การระบายน้ำออกไปตามคลองชลประทานและกาลักน้ำ 25 ท่อ ไม่เพียงพอต่อการระบายน้ำภายในเขื่อนได้ทัน เพราะปริมาณน้ำเข้ามากกว่าระบายออก วันนี้ จนท.ชลประทานพร้อมเครื่องมือลงพื้นที่บริเวณสันเขื่อน ติดตั้งกาลักน้ำเพิ่มอีกรวมกว่า 40 ท่อ เพื่อเร่งระบายน้ำลงไปยังลำน้ำอูนซึ่งเป็นลำน้ำธรรมชาติ แม้ว่าพื้นที่ท้ายเขื่อนจะยังไม่ได้รับผลกระทบ แต่ประชาชนที่อาศัยอยู่ท้ายเขื่อน เช่น บ.ช้างมิ่ง บ.ตาลเลียน อ.พรรณานิคม ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจากการระบายของเขื่อนน้ำอูน ต่างพากันขึ้นมาสังเกตการณ์บริเวณสันเขื่อนและน้ำล้นสปิลเวย์ เนื่องจากสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ เพราะปี 2560 ต่างพากันได้รับผลกระทบจากน้ำที่ระบายออกมาจากเขื่อนน้ำอูน
อย่างไรก็ตามเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า ระบบระบายน้ำตามคลองชลประทานเสีย จึงต้องติดกาลักน้ำแทน ขณะที่ จนท.ให้ข้อมูลว่า ประตูระบายน้ำผ่านคลองชลประทานทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา มีการระบายออกจากเต็มที่ตามปกติ หากเปิดการะบายน้ำมากไปจะทำให้น้ำล้นคลองชลประทานเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและที่อาศัยของประชาชนที่อยู่ติดคลองชลประทาน จึงจำเป็นต้องระบายออกไปตามลำน้ำอูนซึ่งเป็นลำน้ำธรรมชาติผ่าน อ.พรรณานิคม อ.เมือง จ.สกลนคร ก่อนที่จะไหลไปบรรจบที่น้ำสงครามก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขงต่อไป จึงอยากให้ประชาชนติดตามประกาศเตือนจากจังหวัดอย่างใกล้ชิด