SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ –  พระถูกพระด้วยกันเองสวมบัตร ปชช. หลวงพี่อึ้ง ไปทำพาสปอร์ตแต่กลับพบถูกพระรูปอืนใช้เลข 13 หลักมานานเกือบ 10 ปี ตำรวจตามจับได้ที่ จ.เชียงราย  

วันที่ 19 ต.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ฝายปกครอง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ แจ้งความดำเนินคดีกับพระราชรัชมุนี เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ หลังมีหลักฐานว่าสวมเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของบุคคลอื่นที่เสียชีวิตไปแล้วและเลข 13 หลักดังกล่าวไปทำบัตรประชาชน ในขณะที่คดีนี้ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน

ล่าสุดพบพระรูปหนึ่งใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สวมสิทธิเลข 13 หลัก ของพระอีกรูปหนึ่งมานานนับสิบปี กระทั่งพระเจ้าของตัวจริงเข้าร้องเรียนกับฝ่ายปกครองและตำรวจ โดยนายหน่อ ไม่มีนามสกุล อายุ 30 ปี อดีตพระวัดท่ากระดาษ ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่เพิ่งถูกจับสึก ยกมือไหว้ขอขมาพระอัศรินทร์ ศิลาคำ อายุ 30 ปี พระวัดธรรมมงคล วัดดังย่านสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร หลังจากนำเลข 13 หลัก ของพระอัศรินทร์ไปทำบัตรประชาชนใช้มานานเกือบ 10 ปี จนถูกตำรวจจับกุมได้ที่หน้าโรงเรียนห้วยขม ต.ห้วยขม อ.เมือง จ.เชียงราย เมื่อเช้าวันนี้ (19 ต.ค.)

ด้านพระอัศรินทร์ให้ข้อมูลว่า มีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านที่จังหวัดศรีษะเกษ บวชเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 46 ขณะอายุ 14 ปีเศษ โดยบวชเรียนที่วัดธรรมมงคล หลังจากบวชไม่เคยทำบัตรประชาชน แต่ใช้ใบสุทธิซึ่งระบุเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก แสดงตนมาโดยตลอด กระทั่งปี 58 ได้ไปติดต่อทำพาสปอร์ตเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจที่ประเทศแคนาดา แต่ปรากฏว่าไม่สามารถทำได้ เพราะเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเลขประจำตัว 13 หลัก มีบุคคลอื่นนำไปใช้และทำพาสปอร์ตแล้ว เมื่อตรวจสอบภาพบุคคลดังกล่าวก็พบว่าเป็นภาพบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ตัวเอง จึงนำเรื่องเข้าร้องเรียนกับฝ่ายปกครองแลศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีษะเกษ รวมทั้งตำรวจท่องเที่ยวที่เป็นโยมใกล้ชิด

ต่อมามีการสืบสวนจากข้อมูลที่ปรากฏตามบัตรประชาชนดังกล่าว พบว่าผู้ใช้บัตรนี้เป็นพระลูกวัดท่ากระดาษ ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยนายหน่อรับสารภาพว่าเป็นชาวเชียงตุง สัญชาติเมียนมา ได้บวชที่บ้านเกิดตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ต่อมาได้เข้ามาศึกษาต่อที่จังหวัดเชียงใหม่ จำวัดที่วัดท่ากระดาษ กระทั่งปี 52 ได้มีกลุ่มคนเข้ามาติดต่อชวนไปทำบัตรประชาชน อ้างว่าสามารถทำให้ได้ จึงยอมทำ เสียเงินไป 15,000 บาท เพื่อต้องการเป็นคนไทยให้ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆ  โดยกลุ่มคนดังกล่าวพาไปทำบัตรประชาชนที่ที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 52 และต่ออายุอีกครั้งเมื่อ 18 พ.ค. 58  ที่ผ่านมาไม่เคยใช้บัตรประชาชนนี้ไปในทางเสื่อมเสีย เพียงแต่ใช้ไปทำพาสปอร์ตและเดินทางขึ้นเครื่องบินกลับเมียนมา 2 ครั้ง

นายหน่อขอโทษพระอัศรินทร์ โดยบอกว่าไม่ทราบว่าเป็นการสวมบัตร แต่เข้าใจว่าทำถูกต้อง พร้อมขอยอมรับผิดทุกอย่าง ขณะที่พระอัศรินทร์บอกว่าไม่ถือโทษและให้อภัย ไม่อยากให้เป็นเวรกรรม เรื่องนี้ถือเป็นวิบากกรรมของตัวเอง ส่วนที่ร้องเรียนก็เพราะต้องการสิทธิความเป็นคนไทยคืน หลังจากนี้ก็จะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปตามกฏหมาย

ขณะที่ พ.ต.อ.ฐานันดร วิทยาวุฑฒิกุล หัวหน้าพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า แม้จะรับสารภาพ แต่หลังจากนี้ก็มีขั้นตอนพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล โดยจะมีการตรวจดีเอ็นเอบิดามารดาของพระอัศรินทร์ เพื่อเปรียบเทียบยืนยัน ก่อนที่ฝ่ายปกครองจะคืนสิทธิให้กับพระอัศรินทร์

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า