เจ้าของที่โวย! เทศบาลฯ สนั่นรักษ์ นำขยะมาทิ้งนับพันตัน พร้อมปักป้ายเป็นบ่อขยะ

ประเด็น – เจ้าของที่ร้องเรียนสื่อ เมื่อพบว่าที่ดินที่ซื้อไว้ทำการปลูกเป็นที่อยู่อาศัย กลายเป็นบ่อทิ้งขยะส่งกลิ่นเหม็น เนื่องจากเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์นำขยะมาทิ้งรวมกันไม่ต่ำกว่า 1,000 ตัน พร้อมปักป้ายเป็นบ่อขยะ

วันที่ 16 ตุลาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. ที่บ่อขยะเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ เจ้าของที่ดินพาสื่อมวลชนเข้าไปดูที่ดินที่ซื้อไว้ในซอยนวลศรี คลองสิบเอ็ด ถนนรังสิต – นครนายก ตำบลบึงสนั่น  อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พบเห็นกองขยะมหึมาอยู่ในที่ดิน ที่เจ้าของซื้อไว้เพื่อปลูกบ้านพักอาศัย โดยขยะมาจากเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ จ.ปทุมธานี นำป้ายมาปักไว้เขียนว่าบ่อขยะเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ แล้วนำขยะมาทิ้งกองเท่าภูเขาไม่ต่ำกว่า 1,000 ตัน

นางสุกัญญา วงค์จันทา อายุ 77 ปี ชาวหลักสี่ กทม. กล่าวว่าซื้อที่ดินตรงนี้เมื่อปี 2532 จำนวน 200 ตารางวา เพื่อจะปลูกบ้านเป็นที่อยู่อาศัย เมื่อก่อนขยะไม่มี พอมาระยะหลังๆ ขยะได้ลามมาถึงพื้นที่ของชาวบ้าน โดยก่อนหน้านั้นมีการนำขยะมาทิ้งในบ่อขยะของเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ซึ่งอยู่ลึกเข้าไป พอดีเพื่อนบ้านโทรไปบอกว่าช่วงนี้มีขยะมาทิ้ง ให้ช่วยมาดู พอมาดูจำที่ตัวเองแทบไม่ได้ เมื่อก่อนมีรั้วล้อมรอบ เอาเสามาปักไว้และล้อมด้วยลวดหนามมีหลักเขตชัดเจน ตอนนี้มองไม่เห็นแล้ว เพราะกองขยะสูงมาก วันนี้มาดูเห็นแทบจะเป็นลม จะเข้าไปดู แต่ถูกห้ามไว้เพราะว่ามันเหม็นมาก

นางสุวันนา โกวิฑู อายุ 64 ปี ชาว กทม. กล่าวว่า มาซื้อที่ดินดังกล่าวรวมกับน้า แล้วมาแบ่งคนละ 200 ตารางวา นานๆ จะมาดูที่ เดิมตั้งใจจะทำเป็นที่อยู่อาศัย ปรากฏว่ามีปัญหา เลยทำที่อยู่อาศัยไม่ได้ ขยะล้นออกมาเต็ม จนวันนี้มีเพื่อนข้างบ้านเค้าโทรบอกให้มาดูที่ เลยเข้ามาดู รู้สึกแปลกใจว่าทำไมขยะเยอะขนาดนี้มองไม่เห็นเสาหลักเขต และสงสัยว่าทำไมเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์นำขยะมาทิ้งในที่ของชาวบ้านเช่นนี้  อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อมก็ดี เทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ก็ดี อยากให้ช่วยมาดูแล เพราะมันไม่ใช่ที่ที่ทิ้งขยะ เป็นที่ของชาวบ้านที่มีอยู่นิดหน่อยเท่านั้นเอง

โดยสมัยก่อนเห็นมีรถขนขยะมาทิ้งในบ่อขยะของเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ ส่วนการนำมาทิ้งถูกต้องหรือไม่ถูกต้องนั้นตนเองไม่ทราบ เพราะอยู่ไกลกว่าที่ดินของตนเอง ก็เลยเอาเสามาปักล้อมลวดหนามชี้แนวเขตชัดเจน แต่ตอนนี้ได้นำขยะมาทิ้งในที่ดินของตน  ส่งกลิ่นเหม็นจนชาวบ้านแถวนี้เดือดร้อน  อีกอย่างน้ำเน่าจากกองขยะได้ไหลเข้าไปในที่ดินของเพื่อนบ้าน ไม่สามารถนำที่ดินมาทำการเกษตรได้เหมือนอย่างแต่ก่อน

พร้อมย้ำว่า “ตรงนี้ไม่ใช่ที่ทิ้งขยะของเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ ที่เจ็บใจมากก็คือนำป้ายมาปักในที่ดินของตนเองก็งงเหมือนกัน มันเป็นไปได้อย่างไรบ้านเมืองเราทุกวันนี้”

นายสุธิชาญ คุจารีวนิช อายุ 53 ปี ชาว กทม. เผยว่า ตอนนี้มีกองขยะอยู่ข้างๆ สิ่งที่ได้รับผลกระทบคือกองขยะที่เขาทิ้งแล้วมันไหลเข้ามาบริเวณพื้นที่ของแม่ชี สุดท้ายมันก็ทำให้ดินเปรี้ยว ทำการเกษตรไม่ได้ ปลาก็ในบ่อเลี้ยงปลาของชาวบ้านก็ตายเกือบหมด จะไม่ได้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ตรงนี้ โดยตนต้องการร้องเรียนไปยังเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ ว่าพอจะปรับปรุงแก้ไขอะไรได้บ้าง

สิ่งที่เขาอ้างมาตลอดจะเป็นเรื่องของงบประมาณ ครั้งล่าสุดลองเช็คข้อมูล ทางเทศบาลฯ บอกว่า มีงบประมาณแล้วแต่สภาไม่อนุมัติ ตนไม่เข้าใจว่าทำไมเมื่อมีงบประมาณแล้ว ชาวบ้านเดือดร้อนเขามีเหตุผล ยังไงไม่อนุมัติคือถ้าสมาชิกสภาขอย้ายกองขยะไปวางไว้ข้างบ้านเค้าได้ไหม ซึ่งมันก็ไม่มีใครอยากให้เป็น สิ่งที่เกิดขึ้นยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ให้เป็นรูปธรรม

ตนอยากจะฝากถึงเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์และผู้ที่เกี่ยวข้องให้ช่วยดูแลในส่วนนี้ จะสามารถปรับปรุงแก้ไขอะไรได้บ้างเพราะถ้าเทศบาลฯ ไม่ทำอะไรเลย มันก็จะเป็นการปล่อยปละละเลย ชาวบ้านก็เดือดร้อน ผมไม่อยากให้เกิดในลักษณะที่ทุกคนมาปิดถนนถึงจะได้รับการแก้ไข เทศบาลฯ ต้องการลักษณะอย่างนั้นหรือ ในเมื่อมีงบประมาณก็สมควรใช้งบประมาณให้ถูกต้องลดผลกระทบที่ชาวบ้านเดือดร้อน

ด้านแม่ชีนิยมพร  คุ้มสุขสกุล อายุ 55 ปี ชาวปทุมธานี เปิดเผยว่ามีที่ดินทั้งหมด 26 ไร่ เป็นมรดกของคุณพ่อและคุณแม่  เมื่อก่อนเคยทำนาและเลี้ยงปลา ปัจจุบันไม่ได้ทำแล้ว อยากจะฝากให้ผู้ใหญ่เข้ามาช่วยดูแลรวมทั้งสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะประชาชนเดือดร้อน อยากให้มาช่วยกันแก้ไขให้ด้วย ทางเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์เคยมีหนังสือแจ้งมาว่าจะรีบแก้ไขให้ แต่กองขยะนี่ก็มีมาตั้ง 10 กว่าปีที่แล้ว ที่ดินของแม่ชีอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตก ติดกับที่ดินของเพื่อนบ้านที่มีกองขยะกองโตเท่าภูเขา น้ำเสียน้ำเน่าก็ไหลเข้าที่ดินของแม่ชีสภาพดินทรุดโทรมหมด  ตั้งใจว่าจะใช้พื้นที่ตรงนี้ทำเป็นพื้นที่เกษตร แต่ตอนนี้ไม่สามารถทำอะไรได้เลย