ประเด็นคือ – เกิดเหตุกระบะเสียหลักพุ่งชนกำแพงบ้านเสียหาย ซ้ำสามีเจ้าของบ้านบาดเจ็บ หลังถูกอิฐบล็อกหล่นทับทั้งตัว
เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 18 พ.ย. 2560 ร.ต.ท.สรรพาวุธ ลำมะนา ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเหตุจาก นางสาวบุษยา แจ่มแจ้ง อายุ 32 ปี เจ้าของบ้านว่า เกิดเหตุรถยนต์กระบะวิ่งเลยทางแยกพุ่งเข้าชนทะลุกำแพงบ้านได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงพร้อมด้วย ด.ต.จักรพงษ์ อินทนพ ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ หน่วยกู้ภัยประจวบคีรีขันธ์ และลุงนึกประจวบรถยก จึงรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณทาง 3 แยก ถนนสายรองทางเข้า อบต.เกาะหลัก ห่างจากถนนเพชรเกษมสายหลักประมาณ 2 กิโลเมตร พบรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อฟอร์ด เรนเจอร์ สีแดง ทะเบียน 4กฐ 2045 กทม.ชนทะลุพนังกำแพงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านค้าจำหน่ายของชำ เลขที่ 49/5 ม.3 ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้สินค้าภายในร้านแตกกระจัดกระจาย ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังมีรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ สีขาว ทะเบียน 1กค 671 ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับความเสียหาย 1 คัน นกกรงหัวจุกที่เจ้าของบ้านเลี้ยงไว้ได้รับบาดเจ็บและหลุดหายอีก 2 ตัว ด้วย และทำให้เจ้าของบ้านอีก 1 คน ได้รับบาดเจ็บจากการถูกรถยนต์ชนและกำแพงปูนหล่นทั ศีรษะแตก มีบาดแผลตามร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ทราบชื่อคือ นายเอนก แป้งหอม อายุ 35 ปี
นางสาวบุษยา แจ่มแจ้ง อายุ 32 ปี เจ้าของบ้าน เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุตนและลูกนอนหลับอยู่ในห้องนอน ส่วนสามีที่ได้รับบาดเจ็บนอนอยู่หน้าทีวีบริเวณจุดที่ถูกรถชน ระหว่างนั้นได้ยินเสียงดังสนั่นคล้ายเสียงฟ้าผ่า บ้านสะเทือนทั้งหลัง ในตอนแรกตนเองก็นึกว่าเป็นเสียงฟ้าผ่าบริเวณใกล้เคียงจึงลูกขึ้นมาดูถึงกับตกตะลึงเพราะภาพที่เห็นมีรถยนต์ใครไม่รู้ชนทะลุกำแพงพนังห้องเข้ามาอยู่ในบ้าน และพบสามีของตนนอนอยู่ใต้ท้องหน้ารถถูกอิฐบล็อกกำแพงบ้านทับตัวอยู่เห็นแค่แขน ตนจึงได้รีบเข้าไปช่วยแล้วโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
จากการสอบสวน นายประเสริฐ ปานสมุทร อายุ 40 ปี คนขับรถกระบะคันเกิดเหตุทราบว่า ได้เดินทางมาจาก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อมาดูวัวลาน และกำลังจะเดินทางกลับบ้านที่หมู่บ้านสวนขวัญ เมื่อมาถึงทางแยกได้วิ่งเลยทางเนื่องจากไม่ชำนาญเส้นทาง จึงทำให้ขับรถเลยแยกพุ่งเข้าชนบ้านหลังดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวคนขับไปโรงพัก เพื่อสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งและให้เจรจาตกลงค่าเสียหายกับคู่กรณีต่อไป