จากกรณีอดีตตำรวจขับรถลากซากสุนัขไปตามถนน ก่อนปล่อยทิ้งกลางทาง จนชาวบ้านขี่ จยย. ตามมาชนเจ็บ ล่าสุดเจ้าของสุนัขออกมาชี้แจงบอกว่าล่ามไว้หลังรถโดยที่คนขับไม่รู้ และที่จริงทิ้งสุนัขไว้ไหล่ทางแต่วัยรุ่นลากมาถ่ายรูปแล้วไม่เก็บที่เดิม
จากกรณีวันที่ 10 ก.ค. 62 เวลาประมาณ 16.30 น. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Jo Ruangrat โพสต์คลิปเหตุการณ์ขณะที่รถคัยหนึ่ง หมายเลขทะเบียน กว 8510 สุราษฎร์ธานี ด้านท้ายมีซากสุนัข ขนาดใหญ่สีน้ำตาล มีโซ่ผูกที่คอและอีกด้านหนึ่งผูกติดอยู่กับท้ายรถแล้วลากไปตามถนนขับออกจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีมุ่งหน้าไปตามถนนสายในบาง-ท่าฉาง อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นภาพที่สลดใจอย่างมาก
https://youtube.com/watch?v=vqg1jGSdfmY
ล่าสุดวันนี้ 11 ก.ค.62 เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.นิพล ชาตรี ผกก.สภ.ท่าฉาง ได้สอบปากคำ ร.ต.อ.สุพจน์ บัวจันทร์ อายุ 59 ปี อดีตตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ได้ลาออกจากราชการมาทำนากุ้ง โดย ร.ต.อ.สุพจน์ได้ให้การว่า นายอุทัย ม่วยอารี อายุ 58 ปี คู่เขย ได้นำสุนัขเพศเมียพันธุ์ผสมระหว่างบางแก้วกับพื้นเมือง ชื่อ ขนมจีน มาผูกไว้ที่ท้ายรถเมื่อเวลประมาณ 16.30 น. วันเกิดเหตุ

ร.ต.อ.สุพจน์ บัวจันทร์ คนขับรถคันดังกล่าว
ตนได้ขับรถคันดังกล่าวออกจากกระท่อม ที่อยู่ในพื้นที่ท ม.4 ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน ไปตามถนนสายปางบอ-ท่าเคยเพื่อไปยังอำเภอท่าชนะ และไม่ทราบว่าสุนัขถูกลามโซ่ผูกติดไว้ที่ท้ายรถ เมื่อขับรถมาได้ประมาณ 5 กิโลเมตร มีคนขับรถบีบแตรบอกจึงจอดรถ ตนเข้าใจว่ารถยางแบนจึงงจอดรถลงมาดูก็ตกใจที่พบสุนัขติดอยู่ท้ายรถ ปลดโซ่ออกจากรถและทิ้งซากสุนัขไว้ข้างทาง พร้อมกันนี้ ร.ต.อ.สุพจน์ได้กล่าวขอโทษต่อสังคมถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าตนไม่มีเจตนาที่ทำร้ายหรือทารุณกรรมสัตว์ สุนัขตัวนี้ตนก็เป็นคนเลี้ยงและรักเมื่อเกิดเรื่องตนก็เสียใจ

นายไชยนาท ทองมาก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ระบุว่าจากการสอบสวนข้อเท็จจริงยังไม่เข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์แต่อย่างใดจึงยังไม่ตั้งข้อหาแก่ผู้ขับขี่ก่อนจะได้รวบรวมพยานหลักฐานหากพบว่าเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์จะแจ้งข้อหาต่อไป นอกจากนี้ในส่วนนายไชยนาท ทองมาก อายุ 67 ปี ชาวบ้าน ที่ขี่รถจักรยานยนต์ไปชนซากสุนัขจนบาดเจ็บ สอบสวนพบว่าก่อนเกิดเหตุที่ผู้บาดเจ็บจะขับรถมาชนนั้นมีกลุ่มวัยรุ่นได้นำซากสุนัขจากข้างทางมาวางถ่ายภาพแล้วไม่นำซากกลับไปวางในที่เดิมจึงทำให้นายไชยนาทขับรถมาชน แต่อย่างไรแล้วทาง ร.ต.อ.สุพจน์ได้รับผิดชอบจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ผู้บาดเจ็บจำนวน 6,000 บาท ผู้บาดเจ็บพอใจไม่ติดใจเอาความ