SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ – ศิษยานุศิษย์และชาวบ้านเข้าให้กำลังใจพระครูธรรมธงชัย สุทฺธจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดพญาไม้ ที่โดนกลุ่มไม่เห็นด้วย ชุมนุมขับไล่ พร้อมกล่าวหาว่าพูดจาเหมือนคนเมาสุรา พูดจาดูถูกเหยียดหยามชาวบ้าน อีกทั้งทำให้พระแตกแยก

วันที่ 20 พ.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศภายในวัดพญาไม้ หมู่ที่ 2 ต.โคกหม้อ อ.เมือง จ.ราชบุรี มีบรรดาศิษยานุศิษย์ทั้งพระภิกษุสงฆ์และฆราวาส จากทั้งในจังหวัดราชบุรี และต่างจังหวัดที่ทราบข่าว และชาวบ้านในชุมชนวัดพญาไม้เดินทางเข้าให้กำลังใจและสนทนาธรรมกับพระครูธรรมธงชัย สุทฺธจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดพญาไม้ หลังเมื่อเช้าวันนี้มีข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆ ว่าเมื่อเย็นวานนี้ (19 พ.ย.) มีชาวบ้านจำนวน กว่า 50 คนในพื้นที่ชุมชนรอบวัด ได้รวมตัวกันฮือปิดล้อมกุฏิเพื่อขับไล่พระครูธรรมธงชัย

โดยมีการกล่าวอ้างว่าเจ้าอาวาสมีพฤติกรรมพูดจาเหมือนคนเมาสุรา พูดจาดูถูกเหยียดหยามชาวบ้าน อีกทั้งชอบทำให้พระแตกแยก แต่เนื่องด้วยเจ้าอาวาสไม่อยู่ภายในกุฏิ ทำให้การขับไล่มีผลยืดยาวออกไปจนในช่วงเวลา 19.15 น. มีชายชุดขาวและพวกได้นำโซ่มาคล้องที่ประตูเข้ากุฏิทั้งด้านหน้าและด้านข้าง พร้อมทั้งนำกุญแจมาล็อกเอาไว้ เพื่อไม่ให้เจ้าอาวาสเข้าไปภายในกุฏิ

วันนี้ (20 พ.ย.) พระครูธรรมธงชัย มีอาการเครียด รวมไปถึงโรคความดันที่เป็นอยู่เกิดมีอาการกำเริบขึ้น ทำให้เดินเสียการทรงตัว ญาติโยมที่เดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจต้องขอให้พักผ่อนเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นจึงออกมานั่งสนทนาธรรมและปัญหาที่เกิดขึ้น ภายในกุฏิเจ้าอาวาสหลังดังกล่าว

พระครูธรรมธงชัย ชี้แจงในเรื่องประเด็นที่ถูกกล่าวอ้างว่ามีพฤติกรรมพูดจาเหมือนคนเมาสุรา พูดจาดูถูกเหยียดหยามชาวบ้าน อีกทั้งชอบทำให้พระแตกแยกว่า “อาตมาเป็นคนที่ฉันหมากมาหลายปีแล้ว ซึ่งจะเป็นหมากของทางพม่า และมีโรคประจำตัวคือโรคความดัน บางทีเดินมากๆ ก็มีอาหารเซๆ บางวันจำวัดน้อยก็จะมีอาการหน้ามืด เวียนหัว และวันนี้เพื่อความบริสุทธิ์ใจ อาตมาได้ไปเจาะเลือดที่โรงพยาบาลกรุงเทพเมืองราช โดยมีใบรับรองแพทย์จากนายแพทย์อธิภูมิ ศักดิ์อภิบุญนันท์ เพื่อให้วินิจฉัยการตรวจแอลกอฮอล์ในเลือด โดยผลจะออกในหลัง 5 วัน เพื่อมายืนยันว่าอาตมาไม่ได้ดื่มสุราหรือแอลกอฮอล์แต่อย่างใด”

พระครูธรรมธงชัย กล่าวอีกว่า “การที่ตนเองได้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพญาไม้ นี้เนื่องจากทางพระผู้ใหญ่ได้ไว้วางใจ ครั้งแรกที่มาวัดไม่มีปัจจัย เป็นหนี้ค่าใช้จ่ายๆ ต่างๆ มากมาย อาตมาก็ได้พยายามพัฒนามาเรื่อยจนมีญาติโยมเข้ามาทำบุญที่วัด ซึ่งโยมได้ถวายปัจจัยให้อาตมาก็เอามาทำและพัฒนาวัดเรื่อยมา ทำให้ปัจจัยส่วนตัวแทบจะไม่เหลือเพราะอยากให้วัดเจริญ ปัจจุบันก็มีการขยายต่อเติมส่วนต่างๆ ปรับปรุงห้องน้ำสำหรับญาติโยม ปรับปรุงที่พักของพระสงฆ์ และพื้นที่ต่างๆ ภายในวัด เพราะอาตมาคิดว่าที่นี่ก็คือบ้านเราก็มาอยู่บ้านหลังนี้ก็ต้องทำให้ดี

“ในส่วนประเด็นที่กล่าวหาว่าอาตมาพูดว่าด่าเหยียดหยาม อาตมาไม่เคยดูถูกเหยียดหยาม เพราะเราเป็นพระเป็นคนที่พูดตรงๆ บางทีก็แรงๆ ใครเขาดีกับเรา เราก็ดีกับเขาทุกๆ คน แต่เขามาเหยียดหยามเราก่อน บางทีก็ทนไม่ได้เหมือนกันแต่ด้วยความที่เราพูดตรงๆ ว่าตรงๆ อาจมองดูแรง เราก็เป็นพระเราก็เป็นคนเหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยคิดอาบัติเพราะด้วยโรคประจำตัวที่เป็น สิ่งไหนไม่ถูกเราก็ต้องพูด ถ้าไม่พูดเราจะปกครองใครได้ เพราะวัดอาตมาก็ต้องปกครองดูแลให้ถูกต้องตรงไปตรงมา ไม่ให้มีการเข้ามาหาผลประโยชน์กับทางวัด

“ในส่วนเงินที่เข้าวัดที่ถูกมองว่าทุจริตนั้น อาตมายืนยันว่าวัดเรามีกรรมาการดูแลเงินวัด โดยเมื่องานทอดกฐินสามัคคีที่ผ่านมาก็ได้มีการประกาศออกเสียง ญาติโยมที่มาทำบุญก็ได้ยิน เงินได้มาก็เข้าสู่วัดหมด มีกรรมการดูแล มีพระเลขาวัดที่เข้ามาดูแลไม่ได้ยุ่งเรื่องเงิน ส่วนมากจะทำงานอยู่ในกุฏิ ก็ได้ใช้แต่ปัจจัยที่มีญาติโยมมาถวาย ก็ถือเป็นธรรมดาของสงฆ์ บางครั้งค่าใช้จ่ายก็ต้องเบิกเอาออกมาใช้จ่าย โดยจะเบิกจากกรรมการวัดทุกครั้ง เพื่อเอามาสร้างเอามาทำให้วัดเจริญ เพราะว่าสิ่งเหล่านี้มันเป็นหน้าที่ของเจ้าอาวาสอยู่แล้ว ในการบูรณปฏิสังขรณ์… หากสงสัยเรื่องบัญชีก็ขอดูได้เลย เพราะว่ามีคนทำบัญชีอยู่แล้ วถ้าถามอาตมาก็ต้องไปขอดูจากทางกรรมการวัดเช่นกัน แต่ยินดีให้เข้ามาตรวจสอบได้ทุกเวลา

พระอานงค์ ปัญญาวโร หนึ่งในพระลูกวัดออกมาเปิดเผยว่า “ตนเองก็จำพรรษาอยู่ภายในวัดนี้มา 3 ปีแล้ว บวชมาก็ 3 พรรษา เห็นเจ้าอาวาสท่านพัฒนาวัดมาอยู่อย่างต่อเนื่อง จากวัดที่ไม่มีการพัฒนาอะไร ไม่เคยมีชื่อเสียงออกทางสื่อต่างๆ หลวงพ่อท่านก็ทำให้ญาติโยมรู้จักและมาท่องเที่ยว ทำบุญกันจำนวนมาก ในเรื่องของปัญหาที่ถูกกล่าวอ้างในข่าวเรื่องที่ทางหลวงพ่อทำให้พระมีการแตกแยกนั้น ข้อเท็จจริงนั้น หลวงพ่อท่านก็ให้พระลูกวัดรวมถึงตัวท่านได้ปฏิบัติตามกิจของสงฆ์ ทำความสะอาด สวดมนต์ไหว้พระ กวาดลานวัด ก็ไม่มีการแตกแยกแต่อย่างไร ก็จะปฏิบัติกันดีตามกิจของสงฆ์

“อยู่วัดด้วยกันปกติ มีแค่ 9 รูปเองมีงานก็จะออกไปกัน ก็ไม่มีที่จะมาแยกหรือแบ่งกันอย่างไร ในเรื่องของการนินทาว่าหลวงพ่อเบียดเบียนเรื่องปัจจัย ตนก็ยืนยันว่าไม่เป็นอย่างที่คิดกัน ปกติหลวงพ่อออกกิจนิมนต์เจ้าภาพถวายหลวงพ่อก็มอบให้คืน ถือเป็นการช่วยงาน และที่สำคัญหลวงพ่อไม่เคยเอาเปรียบ เสมอภาคกัน หลวงพ่อจะพูดว่า เราอยู่กันแบบครอบครัวพ่อแม่พี่น้อง เป็นลูกเป็นหลาน ในส่วนเรื่องการใช้วาจาที่ดูถูก บางครั้งแรงก็เป็นปกติ บางครั้งทำไม่ถูกใจท่าน ทำไม่ถูกต้อง ก็ว่าตรงๆ เสียงดัง

ขณะที่นางจีรวัตร เพิ่มพูน และนางสุพิศ ศรีสาละคร วัย 66 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 2 ตำบลโคกหม้อ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ออกมาเปิดเผยว่า “จากที่มีข่าวว่าท่านเจ้าอาวาสมีพฤติกรรมเหมือนคนเมา ตนเองมองว่าหลวงพ่อท่านเป็นคนเสียงดัง พูดดังโผงผาง แต่ก็ไม่มีอะไร เป็นพระที่มีจิตใจดี ท่านก็ยังให้โอกาสพวกตนได้เข้ามาขายของภายในวัด ได้มีที่ทำกินช่วยเหลือครอบครัว ท่านเป็นพระที่บูรณวัดได้ดี เป็นคนช่างสงสาร

“ในเรื่องของข่าวที่กล่าวหาท่านว่าดื่มสุรา ตนทั้งสองคนยืนยันว่าไม่มี แกจะทานยาที่รักษาโรคประจำตัวที่แกเป็น และก็ชอบฉันหมาก เป็นหมากพม่าจะดูเหมือนคนเมาก็อาจเป็นไปได้ เพราะมีกลิ่นนะ บางทีอยู่ใกล้ๆ ได้กลิ่น หลวงพ่อท่านมาอยู่วัดนี้ทำให้วัดมีความเจริญมากขึ้นมีการพัฒนามากขึ้น บูรณะทุกอย่าง สร้างทุกอย่างให้วัด และเมื่อเช้านี้เห็นภาพข่าวตนเองและชาวบ้านต่างก็ตกใจ เห็นเขาพูดว่าเป็น 100 คน แต่มันไม่ใช่มีประมาณ 20 คน ที่เห็นมากันเยอะ เพราะเป็นคนที่มางานศพของพระ ซึ่งช่วงเวลา 16.00 น. เป็นพิธีเผาศพทำให้มีคนมาร่วมงานเยอะ และก็ตกใจว่ามีคนมายืนทำอะไรกันจึงเข้ามาดูกัน รวมถึงตนเองด้วย เพราะอยู่ภายในเหตุการณ์พอดี จึงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด

“และเมื่อคืนที่มีการบุกเข้ามาล็อกห้อง พวกตนเองก็มาดูด้วย เพราะได้ข่าวว่ามีการเดินขบวนจะมาขับไล่หลวงพ่อ ชาวบ้านก็ไม่ได้รู้กันหมด รู้กันไม่กี่คน ตนจึงได้ตามมาดูกัน เพราะกลัวว่าจะเข้ามาทำไรไม่ดีกับหลวงพ่อ ซึ่งชาวบ้านก็ไม่ยอมเช่นกัน ตนจึงมองว่าการที่ทำกันแบบนี้ไม่กลัวบาปหรือกลัวนรกกันบ้างหรือ”

อย่างไรก็ดีจากการรายงานของกำนันตำบลโคกหม้อ แจ้งว่าเมื่อช่วงค่ำของคืนวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมาในขณะที่เกิดม๊อบชาวบ้านมาขับไล่เจ้าอาวาสนั้น ทางกำนันและผู้ใหญ่บ้าน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าไปตรวจค้นภายในกุฏิพระครูธรรมธงชัย แล้วผลปรากฏไม่พบสุรา หรือของมึนเมา รวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อีกทั้งยังไม่พบสิ่งเสพติดหรือเครื่องพนัน ตามที่มีผู้สงสัยแต่อย่างไร จึงถือว่า พระครูธรรมธงชัยไม้ไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมาย หรือ ผิดพระวินัยสงฆ์ จึงไม่สามารถดำเนินการต่างๆ ตามกฎหมายได้

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า