SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ – กทม.ยัน เด็ก ป.5 วิ่งจนเป็นลมเสียชีวิต ไม่ใช่การลงโทษ แต่เป็นการอบอุ่นร่างกายในชั่วโมงพละตามปกติ ยินดีให้ความช่วยเหลือ และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

จากกรณีเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 61 นายณัฐพล วัชรมณเฑียร บิดาของ ด.ญ.ภัทราพร วัชรมณเฑียร หรือน้องเนิร์ต อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดทุ่งครุ พร้อมมารดาและญาติ เข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เนื่องจากบุตรสาวถูกครูพละทำโทษให้วิ่งรอบสนามพร้อมเพื่อน จนเป็นลมหมดสติ และเสียชีวิตในที่สุด

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (6 ก.พ. 61) ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์ คุณกาลเวลา เสาเรือน ลงพื้นที่ไปหน้าโรงเรียนวัดทุ่งครุ โรงเรียนของน้องเนิร์ต ได้พูดคุยกับเพื่อนของน้องเนิร์ต ที่อยู่ในเหตุการณ์ซึ่งตอนนั้นน้องก็ได้วิ่งพร้อมกันด้วย เล่าให้ฟังว่าวันนั้นเป็นคาบพละ แล้วถูกครูลงโทษให้วิ่งรอบสนาม 4 รอบ ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้ไหมลงโทษเพราะทำผิดอะไร น้องก็บอกว่าไม่รู้ แล้วก็เล่าให้ฟังต่อว่า ตอนนั้นเห็นน้องเนิร์ตบอกว่า “เหนื่อย” และ “ร้อน” จนกระทั่งเห็นท่าว่าไม่ไหว เพื่อนๆ จึงพาน้องเนิร์ตไปที่ห้องพยาบาล จนกระทั่งทราบข่าวว่าน้องเนิร์ตเสียชีวิต ก็มีการพูดกันในโรงเรียนว่าน้องเนิร์ตมีการกินยาไป 5 เม็ด โดยคนที่ให้กินคือพยาบาลอาสาในห้องพยาบาลนั่นเอง

ด้าน นายณัฐพล วัชรมณเฑียร พ่อของน้องเนิร์ต บอกว่า ตอนทราบว่าลูกสาวคนเดียวของตนเองอาการหนักก็รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ติดใจการดูแลและประเมินอาการของน้องเนิร์ตที่อยู่ในความดูแลของพยาบาลอาสา หากประเมินอาการว่าหนักและส่งตัวน้องได้เร็วกว่านี้ น้องคงไม่เสียชีวิต วอนขอความเป็นธรรมให้ลูกสาว บอกน้องเนิร์ตเป็นคนดี ขอให้ลูกไปสู่สุคติ

ต่อมาเวลา 11.20 น. ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์ คุณกาลเวลา เสาเรือน ลงพื้นที่ไปที่ สน.ทุ่งครุ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กทม. เพื่อติดตามเรื่องนี้ โดย นายณัฐพล วัชรมณเฑียร นางวราภรณ์ วัชรมณเฑียร พ่อ แม่ และยายของ “น้องเนิร์ต” มาพร้อม นางปวีณา หงสกุล มูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี เข้าพบ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 และ นพ.พิชญา นาควัชระ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงของเรื่องที่เกิดขึ้น และให้ความเป็นธรรมกับครอบครัว ในส่วนของน้องเนิร์ตมีการกินยาไป 5 เม็ดนั้นก็ต้องรอผลชันสูตร

นพ.พิชญา นาควัชระ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่าเบื้องต้นได้รับรายงานว่า น้องได้รับเชื้อไข้หวัดอินฟลูเอนซา บี (Influenza) ซึ่งเพาะเชื้อขึ้น แต่ไม่ตัดประเด็นภาวะ Heat Stroke หรือลมแดดที่เกิดมาจากอากาศร้อนในวันเกิดเหตุ ส่วนน้องเนิร์ตมีอาการป่วยมาก่อนหรือไม่นั้น ต้องนำหลักฐานทั้งหมดมาตรวจสอบอีกที แต่ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย

ขณะ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 ก็ยืนยันเช่นกันว่า จะมีการสอบสวนจากพยานและหลักฐานที่รอผลชันสูตร 45 วัน จากแผนกพยาธิวิทยา ศิริราชพยาบาล ด้วยความยุติธรรมที่สุด
หลังจากนั้นก็เดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่โรงเรียนวัดทุ่งครุ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กทม. พบว่าบริเวณที่เกิดเหตุเป็นสนามบาส ขนาด 150 เมตร โดยเป็นพื้นที่โล่งแจ้ง กำลังอยู่ระหว่างการสร้างหลังคา ซึ่ง นพ.พิชญา นาควัชระ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ยอมรับว่าอากาศค่อนข้างร้อน

ทางด้าน นายระวัง ลี้วิชัย ผอ.โรงเรียนวัดทุ่งครุ ยืนยันว่า สอบถามเด็กนักเรียนทั้งห้องแล้วทราบว่าไม่มีการลงโทษ เป็นแต่เพียงการวอร์มร่างกาย ยืดเส้นยืดสาย 2 รอบสนามเท่านั้น จากนั้นอีก 2 รอบ ก็เป็นเพียงการเดิน และบอกว่าทางโรงเรียนดูแลนักเรียนอย่างดี ไม่มีการปล่อยปละละเลยอย่างที่เป็นข่าว

จากนั้นผู้สื่อข่าวก็สอบถามจากพยาบาลอาสาที่ดูแลน้องเนิร์ตในวันนั้น เล่าให้ฟังว่า ตนเองเห็นว่าน้องตัวร้อนจึงเช็ดตัวให้และเฝ้าดูอาการ โดยทีแรกน้องอยู่อีกเตียงหนึ่งที่ห่างกับโต๊ะของตนเอง แต่ก็ย้ายน้องมาอยู่เตียงที่ติดกับโต๊ะของตนเอง ยืนยันว่าไม่ได้ปล่อยปละละเลยจนเป็นเหตุให้น้องเสียชีวิต โดยมีการประเมินอาการน้องเนิร์ตเบื้องต้นแล้วว่าไม่หนัก หากน้องมีอาการป่วยที่ดูผิดปกติ ทางโรงเรียนก็จะมีการส่งตัวไปที่สถานีอนามัยที่ใกล้ที่สุด แต่กรณีน้องเนิร์ตตอนเข้ามาไม่ได้มีอาการหนักแต่อย่างใด แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก เห็นว่าน้องมีอาการหนักขึ้น จึงติดต่อผู้ปกครองเพื่อแจ้งอาการ ทางผู้ปกครองยืนยันว่าจะมารับตัวไปโรงพยาบาลเอง ตนจึงได้รอผู้ปกครองของน้องเนิร์ตมา ซึ่งก็ใช้เวลาพักใหญ่เหมือนกัน

ในขณะที่เมื่อเวลา 11.30 น. นพ.พิชญา นาควัชระ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 (บก.น.8) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุล ผู้ปกครองของ ด.ญ.ภัทราภรณ์ วัชรมณเฑียร และผู้เกี่ยวข้อง ณ สถานีตำรวจนครบาลทุ่งครุ หารือกรณีการเสียชีวิตของ ด.ญ.ภัทราภรณ์ เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนวัดทุ่งครุ เขตทุ่งครุ เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 61 จากนั้นรองปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ผู้ปกครองของ ด.ญ.ภัทราภรณ์ จึงลงพื้นที่โรงเรียนวัดทุ่งครุ เขตทุ่งครุ

เบื้องต้นพบเชื้อไข้หวัด ไวรัสอินฟลูเอนซา บี ในโพรงจมูกเด็ก

รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร โดย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง มีความเป็นห่วงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้มอบหมายให้ตนมาดูแลในเรื่องดังกล่าว และสืบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อตอบคำถามของสังคม รวมถึงการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของเด็กด้วย เบื้องต้นขณะนี้กรุงเทพมหานครได้รับรายงานจากทางโรงเรียน สำนักงานเขต และโรงพยาบาลตากสินแล้ว ซึ่งจากการตรวจโพรงจมูกของเด็ก พบเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซาบี ที่เป็นเชื้อไข้หวัด แต่เนื่องจากการเสียชีวิตของเด็กเป็นการเสียชีวิตที่ผิดธรรมชาติ จึงต้องมีการตัดชิ้นเนื้อส่วนต่างๆ ส่งไปชันสูตรทางนิติวิทยาศาสตร์

โดยขณะนี้กรุงเทพมหานครได้ส่งชิ้นเนื้อไปชันสูตรที่แผนกนิติเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ซึ่งใช้เวลาประมาณ 45 วัน จึงจะทราบผลการชันสูตร ทั้งนี้ จากการตรวจพบเชื้ออินฟลูเอนซาบีในโพรงจมูกของเด็ก ในความเห็นทางด้านการแพทย์ สำหรับเด็กอายุขนาดนี้ อาจเกิดผลแทรกซ้อนที่สำคัญ และเกิดเชื้อเข้ากระแสเลือด จนเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตได้ เช่น การเป็นไซนัสอักเสบเรื้อรัง พอเป็นหวัดทำให้เชื้อเข้ากระแสเลือดได้ง่าย ซึ่งการที่เชื้อเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็ว และทำให้เสียชีวิต มีอยู่ 2 – 3 กรณี เช่น กลุ่มกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน และกลุ่มที่มีอาการชักเกร็งจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งอันนี้เป็นข้อสันนิษฐานเบื้องต้น อีกส่วนหนึ่งอาจเป็นเรื่องการออกกำลังกายกลางแดดที่เรียกว่า ฮีตสโตรก (Heat Stroke) แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลจากการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ จึงจะทราบผลการเสียชีวิตที่แท้จริง

ยืนยันเป็นการอบอุ่นร่างกาย ไม่ใช่การลงโทษเด็ก

รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อว่า จากการสอบถามผู้อำนวยการโรงเรียนทราบว่า เป็นการเรียนชั่วโมงพลศึกษา ช่วงเวลา 12.30 – 13.30 น. ตามปกติ ยืนยันไม่ได้มีการสั่งลงโทษเด็กแต่อย่างใด เป็นการให้เด็กอบอุ่นร่างกายธรรมดา ซึ่งให้เด็กวิ่ง 4 รอบ แต่เด็กวิ่งเพียง 2 รอบ จากนั้นเป็นการเดินผ่อนคลาย 2 รอบ เป็นการอบอุ่นร่างกายตามปกติของวิชาพลศึกษา ซึ่งระยะทางในการวิ่งประมาณ 150 เมตร ไม่ได้เป็นอันตรายต่อเด็กวัยขนาดนี้ จากนั้นครูให้เด็กคิดท่าออกกำลังกายพื้นฐาน ปรากฏว่าเด็กมีอาการตัวร้อน เพื่อนได้รายงานครู และครูก็ได้บอกให้ไปพัก จากนั้นเพื่อนได้พาไปห้องพยาบาล ซึ่งเดินไปตามปกติไม่ได้หิ้วปีกไป

เมื่อถึงห้องพยาบาล พยาบาลอาสาสมัครสาธารณสุขจากศูนย์บริการสาธารณสุข 59 ซึ่งเป็นอาสาพยาบาลประจำโรงเรียน ก็ได้ให้การดูแลและเช็ดตัวให้เด็ก ตั้งแต่เวลาประมาณ 13.30 น. เมื่อพบว่าเด็กตัวร้อนมาก จึงแจ้งให้คุณครูประจำชั้นทราบ จากนั้นได้มีการติดต่อไปยังผู้ปกครองของเด็กให้มารับเด็กกลับ เมื่อผู้ปกครองมาถึงโรงเรียนก็ได้แนะนำให้ไปรับการรักษาที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 59 ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียง ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เนื่องจากมีความพร้อมและสามารถส่งต่อการรักษาไปยังโรงพยาบาลได้ หากมีเหตุฉุกเฉิน แต่ทางญาติแจ้งว่าจะพาไปโรงพยาบาลตากสิน เนื่องจากเป็นคนไข้ประจำ และมีประวัติการรักษาอยู่ที่นั่น

แต่ขณะเดินทางไปโรงพยาบาลตากสิน ปรากฏว่า เด็กมีอาการช็อกและหมดสติ ประกอบกับรถติดมาก ทางคุณพ่อของเด็กจึงได้เรียกรถจักรยานยนต์ให้ไปส่งที่โรงพยาบาลตากสิน เมื่อถึงโรงพยาบาลตากสินพบว่า เด็กหยุดหายใจแล้ว ทางโรงพยาบาลตากสินได้ทำการปั๊มหัวใจ และตรวจคลื่นหัวใจ แต่ไม่มีคลื่นหัวใจแล้ว ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป และที่ผ่านมาทางโรงเรียนและสำนักงานเขตก็ไม่ได้นิ่งเฉย มีการให้ความช่วยเหลือครอบครัวมาตั้งแต่การจัดพิธีทางศาสนา ขณะเดียวกันได้สอบถามทางญาติ หากมีอะไรให้ช่วยเหลือเพิ่มเติมให้แจ้งได้

หาข้อเท็จจริงการเสียชีวิต และหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน
ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า ทางผู้ปกครองได้มาร้องเรียนที่มูลนิธิปวีณาฯ เนื่องจากอยากได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเด็กว่า เกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งทางมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานไปยัง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในการหารือเรื่องดังกล่าว สำหรับในวันนี้ไม่ใช่การจับผิด แต่เป็นการหาแนวทางแก้ปัญหาทางสังคมร่วมกัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่อยากหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ และหากมีอะไรบกพร่องจะได้หาทางแก้ปัญหานั้นให้ดีขึ้น และทางรองปลัดกรุงเทพมหานครก็ได้ให้ข้อมูลอย่างเต็มที่ ทางตำรวจเองก็มีเจ้าหน้าที่จากกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 มาร่วมทำคดีด้วย เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นอกจากนี้ทางกรุงเทพมหานคร และตำรวจจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงด้วย

เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.8 ร่วมกับ สน.สมเด็จเจ้าพระยา สืบสวนหาข้อเท็จจริง

ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 กล่าวว่า ขณะนี้ทางตำรวจยังพูดอะไรมากเกินกว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏไม่ได้ ต้องรอผลการชันสูตร และขอเวลาทำงานก่อน ซึ่งในวันนี้ได้เชิญฝ่ายสืบสวนจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 ที่มีวุฒิเนติบัณฑิตมาร่วมสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนว่า หากมีสิ่งใดที่ช่วยแก้ไขในสิ่งที่ยังไม่สมบูรณ์ ก็ต้องช่วยกันแก้ไข ซึ่งข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับก็จะใช้เป็นส่วนหนึ่งในการสืบสวนสอบสวนต่อไป

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นและเกิดการสูญเสีย ซึ่งการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว เป็นอำนาจหน้าที่ของ สน.สมเด็จเจ้าพระยา ในการหาสาเหตุการเสียชีวิต จากนั้นจะเป็นการหาผู้กระทำต่อไป โดยทางตำรวจจะดูพยานหลักฐานจากพยานบุคคล พยานแวดล้อม และพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจะมีการตั้งคณะกรรมการมาร่วมพิจารณาคดี ในการทำสำนวนคดี มีเงื่อนไขระยะเวลาในการสืบสวนสอบสวน รวมถึงต้องรอผลชันสูตรพลิกศพ และหาข้อมูลในประเด็นที่สังคมสงสัยด้วย

ย้ำ กทม. ไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ความสนใจและใส่ใจเรื่องนี้มาก ทางกรุงเทพมหานครเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ซึ่งปกติในชั่วโมงวิชาพลศึกษา จะมีการสอบถามถึงความพร้อมของเด็กก่อนการออกกำลังกายทุกครั้ง และยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งเมื่อผลการตรวจชันสูตรชิ้นเนื้อออกมา ก็จะทราบสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง จึงต้องรอผลการตรวจก่อน

เบื้องต้นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่พบคือ เชื้อไวรัสอินฟลูเอนซาบีในโพรงจมูก ซึ่งเชื้อดังกล่าวสามารถทำให้เสียชีวิตได้ แต่สำหรับบางคนที่แข็งแรง อาจเป็นหวัด 3 – 4 วัน แล้วหายได้ แต่สำหรับคนที่ร่างกายไม่แข็งแรงอาจทำให้เสียชีวิตได้ ต้องดูว่าร่างกายแต่ละคนเป็นอย่างไร และออกกำลังกายแค่ไหนที่ไม่มากเกินไป

ในตอนท้าย ทางญาติของ ด.ญ.ภัทราภรณ์ ได้กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันสืบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้มีความพอใจในระดับหนึ่ง เนื่องจากทางญาติอยากทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: พ่อร้องปวีณา ลูกสาวถูกครูทำโทษ ให้วิ่งรอบสนาม เป็นลมเสียชีวิต

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า